เซ็นทรัล รีเทล ปิดงบฯไตรมาส 1 ปี 2567 กวาดรายได้ 67,255 ล้านบาท โต 6% และมีกำไรสุทธิ 2,524 ล้านบาท โต 14% พร้อมประกาศเร่งเครื่องขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 14 พฤษภาคม 2567 นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า เซ็นทรัล รีเทล เปิดปีโตต่อเนื่อง ด้วยผลประกอบการในไตรมาสแรก มีรายได้อยู่ที่ 67,255 ล้านบาท (+6% YOY) และกำไรสุทธิหลัก 2,524 ล้านบาท (+14% YOY)
ขณะที่ในส่วนของยอดขายผ่านแพลตฟอร์มออมนิแชนเนลมีสัดส่วนอยู่ที่ 19% ซึ่งการเติบโตดังกล่าว มาจากการมีอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่ง และพอร์ตโฟลิโอที่มีความยืดหยุ่นของเซ็นทรัล รีเทล โดยไฮไลต์ธุรกิจในเครือของเซ็นทรัล รีเทล ที่ผ่านมามีดังนี้
กลุ่มแฟชั่น
ห้างเซ็นทรัล ชิดลม The Store of Bangkok ได้พลิกโฉมใหม่ ด้วยงบฯลงทุนกว่า 4 พันล้านบาท เพื่อยกระดับสู่การเป็น World Class Luxury Destination ในรูปแบบ One-Stop-Shopping ที่รวบรวมแบรนด์สินค้าลักเซอรี่ที่ครองใจลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ Bottega Veneta, Burberry, Celine, Dolce & Gabbana ฯลฯ
CMG (เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป) หนึ่งในธุรกิจภายใต้กลุ่ม Central Brand & Specialty ได้รับสิทธิเป็นผู้จัดจำหน่าย Paul Smith แบรนด์แฟชั่นลักเซอรี่ระดับไอคอนิกจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเตรียมเปิด Flagship Store แห่งใหม่ที่ศูนย์การค้า Central Embassy พร้อมเดินหน้านำแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับความนิยมเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง
GO Wholesale หลังจากเปิดตัวมา 7 เดือน ได้ลุยเปิดไปแล้วทั้งสิ้น 7 สาขา โดยโชว์ความโดดเด่นในด้านการเป็น King of Fresh ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมเร่งเครื่องเปิดเพิ่มอีก 4 สาขาในครึ่งปีหลัง ทำให้เตรียมปิดปีด้วยจำนวน 11 สาขาทั่วไทย ไทวัสดุ ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ทางด้าน Omnichannel DIY Home Retailer ของประเทศไทย พร้อมปูพรมสู่ 100 สาขาทั่วไทย โดยในปีนี้เตรียมเร่งเครื่องขยายไทวัสดุอีก 9 สาขา และปรับโฉมใหม่ Flagship Store สาขาบางนาและสาขาบางบัวทอง ด้วยการอัพเกรดขึ้นมาเป็นรูปแบบไฮบริดสโตร์
ตลาดต่างประเทศ
ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ในเรื่องของศูนย์การค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยเตรียมเดินหน้าขยายสาขาทั้งศูนย์การค้า GO! และไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! อีก 3 สาขาในปีนี้ พร้อมทั้งเตรียมรีโนเวตสาขา Flagship Store ที่ฮานอยและโฮจิมินห์ ซึ่งจะเสร็จสิ้นภายในปี 2568 ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาเซ็นทรัล รีเทล ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการรีโนเวตศูนย์การค้า GO! 8 สาขา ทำให้มีรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น 12%
นอกจากนี้เซ็นทรัล รีเทล ยังได้เข้าไปขยายธุรกิจในกลุ่มไลฟ์สไตล์และแฟชั่น โดยได้รับความไว้วางใจให้เป็น Brand Distributor ให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ Dyson, Crocs และ FitFlop เพื่อตอบสนองกลุ่มไลฟ์สไตล์ กลุ่มคนมีกำลังซื้อสูง คนรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในประเทศเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จทั้งหมดนี้มาจากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของเซ็นทรัล รีเทล ที่ได้วางไว้บนคอนเซ็ปต์ Leading Excellence and Advancing Sustainability คือ การเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ที่มีผลประกอบการและผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม ในทุกกลุ่มธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล
รวมทั้งมีการต่อยอดเรื่องการสร้างความยั่งยืนให้เข้มข้นไปอีกขั้น (Advancing Sustainability) ทั้งนี้เราจะยังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในเครืออย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มของเราทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี
14/5/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 14 พฤษภาคม 2567 )
