ยุคโควิดตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับซูเปอร์ลักเซอรี่เติบโตได้ดีเกินคาด
ประเมินได้จากยอดขายโครงการ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ บ้านซูเปอร์หรูในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียง 27 ยูนิต อัพเดตล่าสุดลูกค้าจองซื้อแล้ว 78%
โดยปรุงสูตรความสำเร็จของโครงการด้วยการผสานแบรนด์ระดับโลก ตกผลึกเป็นคอนเซ็ปต์พัฒนาโครงการบนสุดยอดทำเล ตอบโจทย์ตลาดซูเปอร์พรีเมี่ยม จนกระทั่งทำยอดขายทะลุ 4,700 ล้านบาท
กำลังซื้อซูเปอร์หรูทะลัก
เรารู้สึกดีใจที่เห็นว่าในตลาดมีความต้องการสูงมากสำหรับบ้านในระดับอัลตร้าลักเซอรี่ ที่มีจุดขายให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติ การออกแบบและก่อสร้างที่เป็นคุณภาพมาตรฐานสูงสุด โดยมีปัจจัยเบื้องหลังความสำเร็จคือการผสมผสานกันของจุดแข็งแกร่งที่มากับแบรนด์เดอะซิกส์เซนส์ บวกเข้ากับสุดยอดคอนเซ็ปต์โครงการ และทำเลที่ตั้งในเดอะ ฟอเรสเทียส์
คำกล่าวของ กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC
ทั้งนี้ MQDC-บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ประกาศสถิติผลตอบรับท่วมท้นจากการเปิดขายที่อยู่อาศัยแบรนด์ซิกส์เซนส์โครงการแรกในประเทศไทยอ โดยซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ พิกัดถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 7 ล่าสุด ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ทำยอดขาย 4,700 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนยูนิตขายแล้ว 21 หลัง จากทั้งหมด 27 หลัง
ความรวดเร็วในการตัดสินใจของผู้ซื้อแสดงให้เห็นว่าตลาดยังมีความต้องการอยู่ในระดับที่สูงมากสำหรับบ้านในระดับอัลตร้าลักเซอรี่ในกรุงเทพฯ ซึ่งลูกค้าให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติ รวมทั้งมีแนวทางการออกแบบและก่อสร้างที่เป็นคุณภาพระดับสูงสุด โดยในช่วง 30 วันแรกของการเปิดขาย สามารถขายบ้านได้ถึง 16 หลัง และจนถึงวันนี้ขายเพิ่มได้อีก 5 หลัง
ราคากระหึ่ม 180-360 ล้าน
รายละเอียดบ้านในโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ออกแบบเป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 27 หลัง ดีไซน์คอนเซ็ปต์ให้มีพื้นที่สวนของตัวเอง และมีทะเลสาบล้อมรอบ
สำหรับตัวบ้านมีให้เลือก 3 ขนาด ฟังก์ชั่นตั้งแต่ 3-5 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 790 ตารางเมตร ไปจนถึงเกือบ 1,500 ตารางเมตร สนนราคาเริ่มต้นที่ 180 ล้านบาท และไต่เพดานราคาตามไซซ์ S-M-L ขึ้นไปถึงราคามากกว่าหลังละ 360 ล้านบาท
ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เมื่อโปรดักต์พัฒนาเพื่อเจาะตลาดอัลตร้าลักเซอรี่ ดังนั้น คุณภาพชีวิตในการพักอาศัยจึงถูกออกแบบให้มีบริการหลังการขายที่เหนือระดับตามไปด้วย เพื่อตอกย้ำการเป็นหนึ่งในโครงการที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด และมีสเป็กท็อปคลาสที่สุดในประเทศไทย
บ้านในโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ทุกหลังรับประกันคุณภาพ 30 ปีโดย MQDC และทุกหลังมาพร้อมกับบริการและสิทธิพิเศษที่เหนือระดับตามแบบฉบับของบ้านแบรนด์ซิกส์เซนส์ รวมถึงบริการอำนวยความสะดวกที่ใส่ใจผู้อยู่อาศัยอย่างที่สุด พร้อมด้วยคลับเฮาส์ และการบริหารจัดการดูแลในระดับพิเศษเพื่อรักษาและคงความเป็นสังคมที่มุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพการใช้ชีวิต และความยั่งยืน
ตั้งเป้าโอนหลังแรก Q2/67
สำหรับทีมงานที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเกินคาดของโครงการนี้ ประกอบไปด้วยบริษัท Foster+Partners และ DT designs รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบ และ Six Senses Hotels Resorts Spas เป็นที่ปรึกษาด้านงานตกแต่งภายใน และภาพรวมโครงการ
บ้านหลังแรก ๆ ในโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คาดว่าจะสามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จและพร้อมส่งมอบเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายในไตรมาส 2/67
และแน่นอนว่ายอดขายที่น่าอิจฉานี้เป็นเพราะ selling point บ้านทุกหลังในโครงการถูกดีไซน์ให้ตั้งอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นเขียวขจีของธรรมชาติ
โดยบ้านทุกหลังจัดวางทุกรายละเอียดผสมผสานการใช้ชีวิตทั้งภายในและภายนอกตัวบ้านอย่างกลมกลืนไร้รอยต่อ มีทั้งบ่อออนเซนและสระว่ายน้ำ เติมเต็มให้เหนือระดับขึ้นไปอีกด้วยวิวทะเลสาบ ทำให้จินตนาการไปถึงบรรยากาศสายลมธรรมชาติที่พัดผ่านให้ดื่มด่ำได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ลงทุนโรงแรมซิกส์เซนส์
บิสซิเนสโมเดลยังรวมถึงการที่โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ จะเป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งใหม่ในเครือซิกส์เซนส์ที่มีห้องพักประมาณ 85 ห้อง ไทม์ไลน์มีกำหนดจะเปิดให้บริการในช่วงครึ่งปีแรก 2567
ทั้งนี้ เจ้าของบ้านทุกหลังในโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ จะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าใช้สถานที่ต่าง ๆ ของโรงแรม เข้าถึงบริการที่หลากหลายตั้งแต่การดูแลบ้าน การดูแลเด็ก (baby-sitting) ไปจนถึงบริการบัตเลอร์ พร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มเติมในการใช้บริการระดับ 6 ดาว ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก สปา อาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย
มัลเบอร์รี โกรฟ ยอดก็วิ่ง
นอกจากนี้ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งมีที่อยู่อาศัยระดับลักเซอรี่หลากหลายโครงการ โดย กิตติพันธุ์ อัพเดตข้อมูลล่าสุดว่า บ้านแบรนด์ มัลเบอร์รี โกรฟ ก็มีผลตอบรับที่ดีเกินคาดเช่นเดียวกัน ปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้แล้ว 3,720 ล้านบาท ณ 31 พฤษภาคม 2565
รายละเอียดออกแบบเป็นบ้านสไตล์คลัสเตอร์โฮม มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า ตอบโจทย์กลู่มลูกค้าครอบครัวใหญ่ที่อยู่อาศัยด้วยกันหลากหลายเจเนเรชั่น โดย MQDC ให้ความใส่ใจถึงความต้องการสำหรับครอบครัวที่อยากจะอยู่ใกล้ชิดกันในบ้านเดี่ยวหลาย ๆ หลังที่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน ดังนั้น โครงการมัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า จึงนำเสนอบ้านทั้งหมด 37 หลัง แบบบ้านมีให้เลือกสามขนาด ฟังก์ชั่น 4-6 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 1,000 ตารางเมตรไปจนถึง 1,700 ตารางเมตร
อนึ่ง เดอะ ฟอเรสเทียส์ ตั้งอยู่บนที่ดินผืนมหึมา 398 ไร่ ปักหมุดบนทำเลถนนบางนา-ตราด ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อสู่พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่กำลังเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว
โดยพื้นที่อันกว้างใหญ่ 398 ไร่ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ ประกอบไปด้วยพื้นที่สวนสาธารณะ ธรรมชาติ โครงการที่พักอาศัยหลากหลายแบรนด์ที่ตอบโจทย์หลากหลายไลฟ์สไตล์และช่วงวัย พื้นที่เพื่อกิจกรรมชุมชนต่าง ๆ และพื้นที่เชิงธุรกิจที่มุ่งเน้นส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ท่ามกลางธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพ
9/6/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (9 มิถุนายน 2565)