ออลล์ อินสไปร์ฯ ทำหนังสือแจงเร่งแก้ปัญหาภายในจากพิษโควิด ยืนยันตั้งหน่วยพิเศษเคลียร์ลูกค้าจองซื้อคอนโดฯเป็นรายบุคคล หลังโซเชียลโพสต์รัว ๆ โครงการ ดิ เอ็กเซล ลาซาล 17 หยุดก่อสร้าง ลูกค้าหวั่นโดนเท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ Pantip ถึงโครงการคอนโดมิเนียม The Excel Lasalle 17 ว่ามีใครเป็นลูกค้าบ้าง จะเรียนเชิญเข้ากลุ่มเฟซ เพื่อขอแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าของงานก่อสร้างโครงการดังกล่าว เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสแห่งนี้งานก่อสร้างไม่คืบหน้า ผู้บริโภคจำนวนหนึ่งจึงเกิดความกังวลว่า อาคารชุดโครงการที่เป็นข่าวจะสร้างไม่แล้วเสร็จตามที่ประกาศ
รายละเอียดโครงการดิ เอ็กเซล ลาซาล 17 พัฒนาโดย บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ โดยมีนายธนากร ธนวริทธิ์ นั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประกาศเปิดตัวโครงการเมื่อปี 2561 เนื้อที่โครงการ 4-3-62.5 ไร่ จำนวน 4 อาคาร เป็นคอนโดฯ low rise สูง 8 ชั้น จำนวนห้อง 581 ยูนิต parking 46% (รวมซ้อนคัน) ลักษณะห้องชุดขนาดพื้นที่ใช้สอย 25-44 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 1,335 ล้านบาท เจาะกลุ่มคนทำงานคนรุ่นใหม่ อยู่ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีแบริ่ง
ล่าสุด นางสาวนวพร กระโจมทอง ฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทำหนังสือชี้แจงให้กับลูกค้าและสื่อมวลชน ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2565 สรุปถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการจองซื้อห้องชุด
บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และได้มีการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าโดยด่วน โดยจะติดต่อลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย ทั้งหมดเป็นรายบุคคล หากลูกค้าท่านใดที่ยังไม่ได้รับการติดต่อ อาจเป็นเพราะข้อมูลตกหล่น ซึ่งสามารถติดต่อมาโดยตรงได้ที่หน่วยงานพิเศษตามที่แจ้งไป หมายเลข 09-5667-8790
เราพยายามจะเคลียร์ปัญหาทั้งหมดโดยเร็ว และพร้อมจะเดินหน้าพัฒนาโครงการทั้งหมดต่อไป แม้ว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากโรคโควิด-19 และได้มีการประชุมระดับนโยบายเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเต็มที่
จากข้อมูลปี 2564 บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ประชาสัมพันธ์ข่าวพร้อมรับสัญญาณเปิดประเทศในเดือนกันยายน 2564 โดยเสนอขายหุ้นกู้ วัตถุประสงค์เพื่อคืนหุ้นกู้รุ่นที่กำลังจะครบกำหนดในเดือนตุลาคม 2564 และเพื่อเป็นเงินหมุนเวียนในกิจการของ ALL
มาถึงปี 2565 เดือนพฤษภาคม นายธนากร ธนวริทธิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อว่า จะขอเบรกจากวงการอสังหาริมทรัพย์ชั่วคราว และหันไปจับธุรกิจใหม่ทดแทน โดยจะมีการปรับบริษัทเป็นลักษณะโฮลดิ้งคอมปะนี ทำธุรกิจใหม่ทั้งหมด 3 ด้าน ได้แก่
1.ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) โดยอาศัยองค์ความรู้จากการทำธุรกิจอสังหาฯ ทำให้มีทักษะการคัดเลือกสินทรัพย์ ทราบทำเลศักยภาพและผังเมืองที่อาจเป็นข้อจำกัด รวมถึงราคาตลาดที่จะขายออกได้ ทำให้กำหนดราคาประมูลซื้อได้เหมาะสม คาดจะเริ่มประมูลได้ไตรมาส 3-4/65
สาเหตุที่สนใจธุรกิจนี้ เพราะเป็นธุรกิจที่รับรู้รายได้ได้เร็วกว่าอสังหาฯ หากขายสินทรัพย์ได้จะรับรู้รายได้ทันที ไม่ต้องรอการก่อสร้าง รวมถึงได้มาร์จิ้นที่ดีกว่า จากอสังหาฯ มีมาร์จิ้นเฉลี่ย 30-40% แต่ธุรกิจ AMC จะทำได้ดีกว่านั้น
2.ธุรกิจบริหารหนี้สิน เป็นธุรกิจต่อเนื่องจากทำธุรกิจ AMC แต่บริหารในกลุ่มหนี้ขนาดเล็ก เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เป็นต้น
3.ธุรกิจคาร์บอนเครดิต ธุรกิจใหม่ที่กำลังเป็นดาวรุ่ง เนื่องจากบริษัทผู้ซื้อในฟากตะวันตก เช่น สหภาพยุโรป, สหรัฐ มีการตั้งกำแพงภาษีกีดกันการค้าบริษัทผู้ผลิตที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้บริษัทที่ไม่สามารถปรับโครงสร้างการผลิตให้ลดมลพิษได้ จะต้องอาศัยการซื้อคาร์บอนเครดิตทดแทน เพื่อให้บริษัทได้รับการรับรองเป็น net zero ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์
22/6/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (22 มิถุนายน 2565)