3 ผสาน ICS สยามพิวรรธน์-แมกโนเลีย-ซี.พี. ผนึกกำลังเปิดโครงการมิกซ์ยูส ไอซีเอส เสริมแกร่ง ไอคอนสยาม ปลุกทำเลทองบนพื้นที่ 7 หมื่นตาราง ค้าปลีก-ออฟฟิศ-โรงแรม มุ่งจับกลุ่มแมส-นักธุรกิจ ดึงพันธมิตรแบรนด์ดัง โลตัส-ฮิลตัน พร้อมทัพร้านค้า-ร้านอาหารกว่า 200 ร้านค้า ดีเดย์เปิดปลายปีนี้ มั่นใจทราฟฟิก 40,000 คน/วัน
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซีเอส จำกัด ผู้พัฒนาโครงการไอซีเอส มิกซ์ยูส ไลฟ์สไตล์ทาวน์ ภายใต้การลงทุนร่วมของกลุ่มธุรกิจรีเทลและอสังหาฯ สยามพิวรรธน์-แมกโนเลีย-ซี.พี. เปิดเผยว่า โครงการไอซีเอสเป็นอาคารสูง 29 ชั้น บนพื้นที่ 5-1-94 ไร่ ริมถนนเจริญนคร มีพื้นที่บริการรวม 70,000 ตารางเมตร
ตัวโครงการยังเชื่อมต่อตรงกับโครงการไอคอนสยามที่ด้านหลังติดโค้งน้ำเจ้าพระยา สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีเจริญนครและเรือสาธารณะ เป็นโครงการมิกซ์ยูสแนวคิดใหม่ ที่มีทั้งธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจบริการโรงแรม และอาคารสำนักงาน เพื่อตอบสนองความต้องการดำเนินธุรกิจทั้งของผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อย
ภายในโครงการมีทั้งบริการและสินค้าที่หลากหลาย เป็นการจับมือกับพันธมิตรต่าง ๆ อาทิ โลตัส ที่จะเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต คอนเซ็ปต์ใหม่ โรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ รวมถึงอินโนเวทีฟ เฮลท์ แอนด์ ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ จากโรงพยาบาลชั้นนำ ที่ขยายบริการนอกพื้นที่โรงพยาบาลแห่งแรกในศูนย์การค้า และพันธมิตรร้านค้าต่าง ๆ อีกกว่า 200 แบรนด์
โดยวางโพซิชั่นของไอซีเอสเป็นส่วนเสริมของไอคอนสยาม รองรับกลุ่มลูกค้าระดับแมส และกลุ่มนักธุรกิจ รวมถึงการจัดประชุม เน้นการตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน และการช็อปปิ้งที่สะดวก รวดเร็ว ราคาจับต้องได้ เป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ที่สินค้าและบริการในไอคอนสยามยังไม่ตอบโจทย์ในบางวัน ปัจจุบันโครงการ ICS มีความคืบหน้าการก่อสร้างแล้วประมาณ 90% และพร้อมเปิดให้บริการปลายไตรมาส 4 ปี 2565 นี้
จุดขาย มิกซ์ยูสแนวคิดใหม่
นางสาวแคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวเสริมว่า โครงการไอซีเอสเป็นศูนย์รวมธุรกิจการค้าและบริการ ประกอบด้วยธุรกิจ 3 ส่วนหลัก
ได้แก่ 1.พื้นที่สำหรับดำเนินธุรกิจค้าปลีก รูปแบบเป็นอาคารโลว์ไรส์ รวม 8 ชั้น ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่รีบเร่ง ที่เป็นการจับมือกับโลตัส, อินโนเวทีฟเฮลท์ แอนด์ ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ จากโรงพยาบาลชั้นนำ และพันธมิตรคู่ค้าชั้นนำอีกกว่า 200 แบรนด์
อาทิ สินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อบ้านและการอยู่อาศัย สินค้าไอที บริการด้านการเงิน แบรนด์แฟชั่น ธุรกิจบริการด้านความงามและเครื่องสำอาง รวมไปถึงร้านค้าที่ให้บริการด้านต่าง ๆ ที่รองรับการใช้ชีวิตประจำวัน และร้านอาหารแบรนด์ดังกว่า 80 แบรนด์ รวมถึงร้านอาหารชั้นนำจากต่างประเทศ ที่เลือกมาเปิดให้บริการที่ไอซีเอสเป็นสาขาแรก
2.พื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่า ไอซีเอส ออฟฟิศทาวเวอร์ ชั้น 6-8 รองรับการทำธุรกิจของผู้ประกอบการทั้งที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งกิจการและกลุ่มที่ต้องการขยายกิจการ และ 3.โรงแรม คือ โรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ กรุงเทพฯ ไอซีเอส เจริญนคร ภายใต้การบริหารงานโดยโรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ รองรับนักเดินทางทั้งจากธุรกิจ MICE, การท่องเที่ยวและสันทนาการ
โลตัสเปิดสาขาคอนเซ็ปต์ใหม่
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย หนึ่งในแม่เหล็กสำคัญที่จะมาเติมเต็มความต้องการของนักช็อปย่านฝั่งธนฯ เผยถึงความพิเศษของโลตัส สาขาไอซีเอส ว่า จะเป็นการเปิดตัวโลตัสคอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด SMART Premium Supermarket บนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร ที่เป็นการยกระดับการให้บริการ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย ด้วยสินค้าพรีเมี่ยมจากทั้งในไทยและต่างประเทศ สินค้าท้องถิ่นที่คัดสรรจากแหล่งที่ดีที่สุด
พร้อมบริการด้วยแนวคิด SMART Life Solutions โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายสอดรับชีวิตทันสมัย ทำให้การซื้อและชำระเงินง่ายขึ้น ด้วยบริการไร้เงินสด (cashless) ผ่านวอลเลตและแอปพลิเคชั่น รวมไปถึงการชำระสินค้าได้ด้วยตัวเองผ่านตู้คีออสก์รับชำระสินค้าแบบสมาร์ท
นายจิรฐา วรปรางกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอน โฮเทลดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า การที่สัญญาณเศรษฐกิจค่อย ๆ ฟื้นตัว การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก ทำให้บริการด้านโรงแรมสำหรับกลุ่ม MICE มีแนวโน้มขยายตัวอย่างชัดเจน ดังนั้น ห้องพักและบริการจากทางโรงแรมจะเป็นส่วนสำคัญที่มารองรับการขยายตัวของธุรกิจนี้ โดยเห็นได้ชัดเจนจากจำนวนการจองพื้นที่เพื่อจัดอีเวนต์และการประชุมของทรู ไอคอน ฮอลล์ ภายในไอคอนสยาม ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในครึ่งปีหลัง
สำหรับโรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ กรุงเทพฯ ไอซีเอส เจริญนครซึ่งเป็นอาคารสูง 19 ชั้น ให้บริการห้องพัก 241 ห้อง มีจุดเด่นที่งานตกแต่งภายในที่นำงานสถาปัตยกรรม ลวดลายปูนปั้นไทย งานแกะสลักไม้แบบศิลปะจีน งานกระเบื้องและลวดลายเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมโปรตุเกสมาผสมผสานกัน รวมถึงมีบริการห้องอาหาร All Day Dining ที่รองรับการจัดงานอีเวนต์ได้ตลอดวัน ที่สำคัญคือ ไพรมโลเกชั่นของตัวโรงแรมที่เป็นอาคารสูงเพียงหลังเดียวในพื้นที่โดยรอบ ทำให้สามารถรับชมวิวของกรุงเทพฯได้แบบ 360 องศา ทั้งวิวฝั่งพระนคร และฝั่งธนบุรี
ทำเลทองหัวใจดึงทราฟฟิก
นายสุพจน์ย้ำในตอนท้ายว่า ด้วยศักยภาพทำเลทองอันดับหนึ่งของฝั่งธนบุรี และรองรับการขยายตัวของเมือง รวมถึงการเดินทางที่สะดวกครบทุกโครงข่ายการคมนาคมทั้งรถยนต์ รถไฟฟ้า และเรือโดยสาร หลังไอซีเอสเปิดให้บริการจะช่วยเติมเต็มไอคอนสยามสู่ความเป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายครบทุกเซ็กเมนต์ และคาดว่าจะมีผู้เข้ามาใช้บริการที่ไอซีเอสวันละกว่า 40,000 คน
เนื่องจากภายใน 2-3 ปีจากนี้จะมีคอนโดฯเพิ่มขึ้นในย่านนี้อีกมากกว่า 50 โครงการ หรือราว 25,000 ยูนิต นอกจากนั้นยังมีกลุ่มโรงแรมที่เตรียมขยายบริการมายังทำเลย่านนี้อีก 2-3 โครงการ รวมถึงการย้ายศูนย์ราชการมายังย่านคลองสานอีกด้วย
ปัจจุบันไอซีเอสให้เช่าพื้นที่ไปแล้วประมาณ 65% โดยปลายปีนี้จะเปิดให้บริการในส่วนของศูนย์การค้าทั้ง 8 ชั้นก่อน ส่วนโรงแรมแม้จะสร้างเสร็จพร้อมกันแต่จะเปิดต้นปี 2565 เนื่องจากต้องมีการทดสอบระบบก่อน 2-3 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกันว่าจะสามารถเปิดซอฟต์ลอนช์ก่อนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวช่วงหน้าเทศกาลได้หรือไม่ ส่วนในแง่รายได้เบื้องต้นตั้งเป้าว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาทต่อปี มาจากค่าเช่า จีพี ฯลฯ
นายสุพจน์ยังกล่าวด้วยว่า จากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คลี่คลายมากขึ้น สำหรับไอคอนสยาม ปัจจุบันตัวเลขจำนวนผู้ใช้บริการ 70,000-80,000 คน/วันจากก่อนโควิดที่สูงถึง 1.5-2.5 แสนคน/วัน ซึ่งตอนนี้ตัวเลขเริ่มไต่กลับขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เริ่มกลับมา โดยเฉพาะอินเดีย มาเลเซีย อาหรับ เวียดนาม เป็นต้น
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% และ 80% เป็นโลคอล จากช่วงก่อนโควิด ที่มีนักท่องเที่ยว 40% และ 60% เป็นโลคอลเป็นที่น่าสังเกตว่าปัจจุบันลูกค้าโลคอลเพิ่มสูงกว่าช่วงโควิด และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนว่าเรามีลูกค้าขาประจำเกิดขึ้น และหากนักท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติ ทราฟฟิกก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีไอคอนสยามเป็นตัวดึงนักท่องเที่ยวที่สำคัญ
14/8/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (14 สิงหาคม 2565)
