แอสเซทไวส์-ASW โชว์ผลงานไตรมาส 2/65 สร้างสถิติใหม่กวาดรายได้รวม 1,617 ล้านบาท กำไรสุทธิ 273 ล้านบาท เติบโต YOY ครึ่งปีหลัง 2565 เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่
วันที่ 15 สิงหาคม 2565 นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 เติบโตทั้งรายได้และกำไร มีรายได้รวมที่ 1,617 ล้านบาท เติบโต 45% YOY และ 27% QOQ และมีกำไรสุทธิ 273 ล้านบาท เติบโต 6% YOY และ 21% QOQ มีอัตรากำไรขั้นต้น (GP) อยู่ที่ 44%
ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้รวม 2,887 ล้านบาท กำไรสุทธิ 498 ล้านบาท ในด้านยอดขาย (พรีเซล) มีจำนวน 8,000 ล้านบาท หรือ 80% ของเป้าหมายยอดขายในปีนี้ที่ตั้งไว้ 10,000 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถทำยอดพรีเซลทั้งปีได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้
ปัจจัยความสำเร็จมาจากการขยายธุรกิจเชิงรุก ด้วยการพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ และตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงจุดเด่นด้าน facility ส่งผลให้โครงการส่วนใหญ่ได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะแคมปัสคอนโดฯใกล้สถานศึกษา ภายใต้แบรนด์ KAVE (เคฟ) ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยและกลุ่มที่ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า เนื่องจากให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ย 8-10% ต่อปี
เช่น โครงการเคฟทาวน์ โคโลนี ม.กรุงเทพ (Kave Town Colony) มียอดพรีเซล 80% หลังจากเปิดตัวโครงการไปเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นด้านการออกแบบโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่ม Young Generation
นายกรมเชษฐ์กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลัง 2565 คาดว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มราคาเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการผลิตวัสดุก่อสร้างเริ่มทรงตัวและปรับลดลง เช่นเดียวกับราคาเหล็กที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ซึ่งมีผลต่อการปรับตัวลงของวัสดุก่อสร้างหลาย ๆ ตัวที่ใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบ
โดยล่าสุดที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันได้มีมติเพิ่มกำลังการผลิตซึ่งจะส่งผลดีต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯจนถึงสิ้นปี 2565 สำหรับการซื้อขายอสังหาฯราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง
สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย รวมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจในมิติต่าง ๆ โดยเตรียมแผนเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ มูลค่าโครงการรวม 6,200 ล้านบาท
ได้แก่ 1) คอนโดฯ Kave Seed Kaset (เคฟ ซี้ด เกษตร) จำนวน 600 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท 2) บ้านแนบราบ Esta Rangsit Khlong 2 (เอสต้า รังสิต คลอง 2) จำนวน 153 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 4-6 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 680 ล้านบาท และ 3) บ้านแนวราบ The Honor Yothin Pattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) จำนวน 128 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 29 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 4,170 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัท มี Backlog หรือยอดขายรอรับรู้รายได้ในปี 2565 นี้ มูลค่า 4,282 ล้านบาท มาจาก 3 โครงการ 1) คอนโดฯ โมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ มูลค่าโครงการ 1,230 ล้านบาท 2) เคฟ ศาลายา มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท และ 3) โครงการเคฟ เอวา มูลค่าโครงการ 2,380 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าทั้งปีบริษัทจะบรรลุเป้าหมายรายได้รวมที่ 6,000 ล้านบาทได้ตามเป้า
ทั้งนี้ ASW ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ หรือ We Build Happiness ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 44 โครงการ ภายใต้แบรนด์เคฟ (KAVE), แอทโมซ (ATMOZ), โมดิซ (MODIZ), เอสต้า (ESTA) และดิ ออเนอร์ (THE HONOR)
รวมมูลค่าโครงการกว่า 46,700 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการพร้อมอยู่ 32 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างพัฒนา 12 โครงการ ปัจจุบันมี Backlog กว่า 9,218 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
15/8/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (15 สิงหาคม 2565)