โควิด-19 คลี่คลายหนุนธุรกิจฟิตเนสฟื้นตัว เจ็ทส์ ฟิตเนส มั่นใจสัญญาณบวกเร่งจัดกิจกรรม-โปรโมชั่นเพิ่มคลาสดึงสมาชิก ผนึกกำลังพันธมิตรปูพรมกิจกรรมชูความคุ้มค่ากระตุ้นการใช้บริการ พร้อมเดินหน้าทุ่มงบฯเปิดสาขาเพิ่มอีกเบาะ ๆ 3 แห่ง สิ้นปีครบ 41 สาขา
นายเดน แคนท์เวล กรรมการผู้จัดการ เจ็ทส์ ฟิตเนส ประเทศไทย เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ว่า ช่วงไตรมาส 2 นี้ธุรกิจฟิตเนสเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน สะท้อนจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นจำนวนสมาชิกที่กลับมาใช้บริการในระดับ 90% จากไตรมาสแรกที่มีการใช้บริการประมาณ 80% โดยเฉพาะสาขาในศูนย์การค้าที่มีความคึกคักมากขึ้น ทำให้บริษัทต้องเพิ่มความถี่การจัดคลาสออกกำลังมากขึ้น
เช่นเดียวกับยอดสมัครสมาชิกใหม่ซึ่งเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เชื่อว่าเป็นผลจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย การผ่อนคลายมาตรการของทางการที่มีมากขึ้นจนใกล้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงการกลับมาทำงานออนไซต์ของบริษัทต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้บริการฟิตเนสอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน เป็นที่น่าสังเกตว่าขณะนี้สมาชิกเริ่มกลับมาสมัครแพ็กเกจระยะยาว 6 เดือน หรือมากกว่าและมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้เน้นสมัครแพ็กเกจระยะสั้น เช่น 3 เดือน แสดงถึงความมั่นใจของสมาชิกและความสำเร็จของกลยุทธ์เพิ่มโปรโมชั่น-กิจกรรมต่าง ๆ ในสาขาเพื่อฟื้นภาพให้การออกกำลังกลับมาเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางสังคมอีกครั้ง
แม้แต่การวิ่งออกกำลังของชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ก็ถือเป็นปัจจัยบวกช่วยกระตุ้นให้ผู้คนหันมาออกกำลังกายมากขึ้น
กรรมการผู้จัดการ เจ็ทส์ ฟิตเนส กล่าวว่า เพื่อต่อยอดโมเมนตัมนี้ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเดินหน้าเต็มที่ทั้งด้านการขยายสาขาตามเป้ามี 41 สาขาภายในสิ้นปี และจัดกิจกรรมสร้างสีสันจับมือพันธมิตรกับแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อทำโปรโมชั่น รวมถึงรับสมัครเทรนเนอร์และพนักงานเพิ่ม
เบื้องต้นเตรียมเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 3 แห่ง เริ่มจากไตรมาส 3 จะเปิด 1 สาขาในคอมมิวนิตี้มอลล์สายไหม อเวนิว ซึ่งจะเป็นสาขาที่ 39 และจะเปิดสาขาที่ 40 และ 41 ก่อนสิ้นปีนี้ โดยอยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ ยังคงใช้งบฯลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท/สาขา
พร้อมเดินหน้ารับสมัครพนักงานเพิ่มทั้งตำแหน่งผู้จัดการสาขาและเทรนเนอร์ เพื่อรองรับการขยายสาขาใหม่และการฟื้นตัวของสาขาในย่านธุรกิจซึ่งสมาชิกที่เป็นพนักงานออฟฟิศเริ่มกลับมาใช้บริการพร้อมกับการทำงานออนไซต์ และหลายบริษัทหันมาให้สิทธิสมาชิกฟิตเนสเป็นสวัสดิการแก่พนักงานตามเทรนด์สุขภาพ
ขณะเดียวกัน ก็จะโฟกัสการจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นสร้างความคุ้มค่าและกระตุ้นการใช้บริการด้วยการจับมือพันธมิตรธุรกิจจากวงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ร้านอาหาร บัตรเครดิต ประกัน ฯลฯ เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม
ปัจจุบันมีแบรนด์พันธมิตรมากกว่า 10 ราย เช่น ซูเปอร์สปอร์ต, จัสปาล, ทานิตา และอื่น ๆ ที่มาร่วมจัดกิจกรรมหลากรูปแบบทั้งในและนอกสาขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกิจกรรมร่วมสนุกและกิจกรรมชิงรางวัล เปิดบูทชมชิมในสาขาไปจนถึงโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างสีสันกระตุ้นการใช้บริการและสมัครสมาชิก-แพ็กเกจเทรนเนอร์ และเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของกิจกรรมช่วงไตรมาส 1-2
ไม่ว่าจะเป็นการจับมือแบรนด์เครื่องชั่งน้ำหนัก Tanita จัดแชลเลนจ์ออกกำลังกายแบบ weight training, จัดคลาสออกกำลังในธีม Back to school รับวันเปิดเทอม รวมไปถึงจัดกิจกรรมโยคะกลางแจ้งในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง เป็นต้น
ส่วนโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เช่น เดือนมิถุนายนนี้จัดโปรโมชั่นซื้อแพ็กเกจเทรนเนอร์ส่วนตัว 36 ครั้ง รับฟรี Jetts Gym Bag มูลค่า 1,500 บาท แพ็กเกจเทรนเนอร์ราคาพิเศษ 10 ครั้ง 9,000 บาท และลดค่าบริการจาก 1,600 บาท/เดือน เหลือ 1,300 บาท/เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจ 12 เดือน และการแถมของพรีเมี่ยมต่าง ๆ เมื่อสมัครสมาชิก
ปัญหาค่าครองชีพทำให้ลูกค้าหลายรายตัดสินใจสมัครฟิตเนสยากขึ้น จึงต้องรับมือด้วยการสร้างความคุ้มค่าจากโปรโมชั่นราคาและของแถม รวมถึงกิจกรรมพิเศษในสาขา ขณะเดียวกัน แม้การขยายสาขาจะใช้งบฯภายในแต่การใช้งบฯด้านต่าง ๆ ของบริษัทต้องเข้มงวดรัดกุมมากขึ้น เพื่อรับมือสถานการณ์ต้นทุนและดอกเบี้ยขาขึ้น และเชื่อว่าหากสถานการณ์ในภาพรวมเป็นไปในทิศทางนี้ สิ้นปี 2565 จะสามารถขยายสาขาได้ครบ 41 สาขาตามที่ตั้งเป้าไว้ กรรมการผู้จัดการ เจ็ทส์ ฟิตเนสกล่าว
26/6/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (26 มิถุนายน 2565)