โฮมโปรเพิ่งจะครบรอบก่อตั้ง 27 ปีในปีที่ผ่านมา ดังนั้น ปี 2568 จึงเป็นปีที่จะครบ 28 ปี
บริษัทยังคงดำรงเป้าหมายเป็นองค์กรแสนล้านภายในแผนธุรกิจ 5 ปี (2567-2571) โดย รักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือโฮมโปร แจ้งผลปี 2567 ผลประกอบการทรงตัว ด้วยยอดรายได้รวม 72,576.52 ล้านบาท แอบลดลง 0.34% มีกำไรสุทธิ 6,503.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นหลักทศนิยมที่ 0.96% หรือเพิ่มขึ้น 61.99 ล้านบาท ในด้านอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 26.82% เพิ่มเล็กน้อยเช่นกันเมื่อเทียบกับผลประกอบการปี 2566 ที่อัตรากำไรขั้นต้น คือ 26.60%
แผนขยายสาขา ปี 2567 ประกาศเป้าเพิ่ม 9 สาขา ขณะที่ปีนี้เพิ่มเน็ตเวิร์กเป็น 12 สาขา เพื่อให้จำนวนสาขากระเถิบเข้าไปใกล้เป้าแผน 5 ปี ที่ต้องการมี 170 สาขา
ปัจจุบัน ณ สิ้นปี 2567 มีทั้งสิ้น 136 สาขา แบ่งเป็น โฮมโปร 94 สาขา, โฮมโปร S 5 สาขา, เมกาโฮม 30 สาขา และโฮมโปร มาเลเซีย 7 สาขา โดยเป้าขยาย 12 สาขาในปีนี้ แบ่งเป็น โฮมโปร 7 สาขา, เมกาโฮม 5 สาขา กระจายอยู่ในต่างจังหวัดเป็นหลัก เบ็ดเสร็จจะทำให้ปีนี้มีเครือข่ายทั้งสิ้น 148 สาขา
รักพงศ์ อรุณวัฒนา
น่าสนใจว่าหลังยุคโควิดที่ปฏิบัติการล่าเป้ารายได้แสนล้านบาทถูกทำให้สะดุดไปช่วงหนึ่ง ปี 2568 ดูเหมือนจะฟิตแอนด์เฟิร์มอีกครั้ง เพราะแผนธุรกิจถูกประกาศออกมาด้วยเป้าขอโตเบา ๆ 4-5% จาก 72,000 ล้านบาท เป็น 75,000 ล้านบาท
วกกลับมาดูตัวเลขวงเงินลงทุน ปกติโฮมโปรวางเม็ดเงินลงทุนใหม่เฉลี่ยปีละ 4,000 ล้านบาท ปีนี้ไหน ๆ ก็ตั้งเป้าธุรกิจเชิงรุกแล้ว ก็เลยดับเบิลแผนลงทุน 2 ปี (2568-2569) วงเงินลงทุนยืดหยุ่นที่ 6,000-8,000 ล้านบาท
โดยที่เป้าขยายสาขา เนื่องจากมีไซซ์พื้นที่สโตร์ไม่เท่ากัน ทำให้เม็ดเงินลงทุนไม่เท่ากัน แบ่งเป็นไซซ์ S-M-L แต่การลงทุนบิ๊กโปรเจ็กต์มูลค่าไม่เกิน 2,000 ล้านบาท เป็นเรื่องการลงทุนซื้ออนาคต ด้วยการเตรียมเปิดไซต์ก่อสร้างศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้า หรือ DC-Distribution Center อาคารที่ 7 บนที่ดินรวม 250 ไร่ ปัจจุบันสร้างไปแล้ว 6 อาคาร พื้นที่รวม 140,000 ตารางเมตร
ดีซี หรือแวร์เฮาส์ อาคารที่ 7 ถูกออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นตัวเดินเรื่องหลัก ทำให้ประสิทธิภาพกรณีแวร์เฮาส์ที่ใช้คนขับเคลื่อน ด้วยขนาดพื้นที่และการลงทุนเท่ากัน จะมีพื้นที่ใช้ประโยชน์ 20,000 ตารางเมตร แต่พอเป็น AI เป็นตัวขับเคลื่อน ขีดความสามารถเพิ่มเป็น 40,000-60,000 ตารางเมตร นั่นหมายความว่าการก่อสร้างแวร์เฮาส์ที่คาดว่าจะต้องสร้างข้ามปีกว่าจะแล้วเสร็จ ในอนาคต ดีซีของโฮมโปรจะพร้อมรองรับเครือข่าย 170 สาขา
อีกเรื่องที่ต้องขอดเกล็ดกันมาดูก็คือ สินค้าเฮาส์แบรนด์ หรือสินค้าซอร์ซิ่ง (Sourcing) จากที่เคยสอบถามกันเป็นประจำทุกปี จำได้ว่าแตะที่สัดส่วน 18% ปรากฏว่าปี 2567 เพิ่มเป็น 21.3% เป้าหมายเชิงรุกปีนี้ต้องการขยับเพิ่มสัดส่วนเป็น 22% ในปีนี้ และภายในปี 2570-2571 ต้องการบรรลุเป้าหมายสินค้าซอร์ซิ่งมีสัดส่วน 1 ใน 4 หรือ 25%
ตามวิสัยทัศน์และนโยบายของผู้บริหารระดับสูงที่ท่านได้เคยให้ไว้ ถึงการดำเนินธุรกิจของโฮมโปรภายใต้กรอบความยั่งยืน คือ โฮมโปรยังคงเดินหน้าพัฒนาและปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด โดยมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมั่นคงผ่านการขยายสาขา การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งหมดนี้เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า (Better Living) และขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวสู่อนาคตอย่างแข็งแกร่ง
9/3/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 9 มีนาคม 2568 )