วัตสันเชื่อปี68 เทรนด์ดูแลตัวเองยังแรง ลุยปักธง 55 สาขาใหม่ ควบรีโนเวต 80 สาขา พร้อมยกทัพสินค้าสุขภาพและสกินแคร์ 150 รายการลงสนาม หลังพบลูกค้าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000-3,000 บาทต่อเดือน กลยุทธ์ O+O (Offline plus Online) มุ่งเพิ่มยอดขายออนไลน์โตดับเบิลดิจิต ผลักดันแผนยั่งยืน 3P People-Planet-Product ต่อเนื่อง ตั้งเป้าสิ้นปีเติบโตเหนือกว่าตลาดค้าปลีกไทย
นางสาวนวลพรรณ ชัยนาม กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ ภาพรวมตลาดเฮลท์แอนด์บิวตี้ในประเทศไทยยังคงเติบโตแข็งแกร่ง เนื่องจากผู้บริโภคหันมาดูแลตัวเองทั้งภายในภายนอก รวมถึงผลสำรวจของบริษัทเมื่อปลายปี 2567 ที่พบว่า 80% ของผู้บริโภคทานวิตามินอย่างน้อยวันละ 1-2 เม็ด และพร้อมใช้จ่ายกับสินค้าสุขภาพสูงถึง 1,000-3,000 บาทต่อเดือน
บริษัทจึงเตรียมเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง ผ่าน 6 กลยุทธ์หลัก เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการ พร้อมตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความงามควบคู่กัน
รุกขยายสาขา-รีโนเวตเต็มสูบ
โดยกลยุทธ์แรกบริษัทจะมุ่งสร้างเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ ด้วยการเดินหน้าขยายสาขาใหม่อีก 55 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 50% และต่างจังหวัด 50% ซึ่งกว่า 80% จะเปิดในศูนย์การค้า หลังจากปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 750 สาขา ครอบคลุมครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ
พร้อมรีโนเวตสาขาเดิมอีกกว่า 80 สาขา เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยคาดจะใช้งบฯลงทุนขยายสาขามากกว่าปี 2568
เพิ่มไลน์สุขภาพ-สกินแคร์ 150 รายการ
ขณะที่กลยุทธ์ Health Accelerate จะเดินหน้าขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ในหมวดสุขภาพกว่า 350 รายการ ควบคู่ไปกับการจ้างงานเภสัชกรที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในด้านบริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพเชิงลึก
ส่วนกลยุทธ์ Smart Wellness จะเพิ่มไลน์สินค้าภายใต้แบรนด์วัตสัน เข้ามาจำหน่ายอีก 150 รายการ จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 800 รายการ โดยเน้นกลุ่มสุขภาพและสกินแคร์เป็นหลัก เช่น วิตามินสำหรับบุคคลอายุ 50+ ตอบโจทย์ความต้องการทั้งชายหญิง พร้อมรุกตลาดเวชสำอางสำหรับผิวแพ้ง่ายภายใต้แบรนด์ Dermaction Plus by Watsons เป็นต้น
หากเรามีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ออกมาตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากขึ้น จะสามารถทำให้บริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันในกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพมีอัตราการเติบโตสูงถึง 30% และเชื่อมั่นว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต จากกระแสการดูแลสุขภาพที่ขยายตัวต่อเนื่อง
ลุยกลยุทธ์ O+O ดันยอด
นอกจากนี้ บริษัทยังเน้นกลยุท
ธ์ O+O (Offline plus Online) ผสมผสานการช็อปปิ้งระหว่างหน้าร้านกับแพลตฟอร์มออนไลน์แบบไร้รอยต่อ ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าออนไลน์มากถึง 15,000 รายการ พร้อมบริการ Click and Collect เพื่อให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และไปรับได้ที่ร้าน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคต้องการความสะดวกและรวดเร็ว โดยคาดว่าในช่องทางออนไลน์จะยังคงเติบโตในระดับดับเบิลดิจิต
รวมถึงยังเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ Driving Loyalty หรือสร้างความผูกพันกับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้ฐานข้อมูลเชิงลึกจากฐานสมาชิก วัตสัน คลับ ที่เติบโตแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งกว่า 88% เป็นผู้หญิง คิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของประชากรหญิงทั่วประเทศ นำมาต่อยอดด้วยการพัฒนา Store Segmentation ที่เลือกสินค้าให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงสมาชิกวัตสัน คลับ ยังจะได้สิทธิประโยชน์พิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กช็อปเอ็กซ์คลูซีฟ หรือกิจกรรมใกล้ชิดกับเซเลบริตี้ชื่อดัง เพื่อเสริมสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์และลูกค้าให้ลึกซึ้งและยั่งยืนยิ่งขึ้น
การสร้าง Loyalty Program บนพื้นฐานของการเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้วัตสันยังคงครองตำแหน่งแบรนด์ค้าปลีกสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งในใจลูกค้าอย่างเหนียวแน่น
ชูแนวคิด 3P-สู่ธุรกิจยั่งยืน
พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งด้านคน เช่น การสนับสนุนบ้านพักชุมชนและโครงการผ่าตัดเพื่อคืนคุณภาพชีวิต, ด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ตามเป้าซีโรคาร์บอนภายในปี 2573 และด้านสินค้า ด้วยการเพิ่มสินค้าเพื่อความยั่งยืนกว่า 900 รายการ
ตั้งเป้าโตเหนือตลาด
นอกจากกลยุทธ์ด้านการตลาดและการขยายสินค้า บริษัทยังเตรียมกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ได้รับความนิยม อาทิ แคมเปญ ชิ้นที่ 2 หนึ่งบาท ซึ่งจัดเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น เพื่อเพิ่มความถี่ในการซื้อซ้ำ และกระตุ้นการใช้จ่ายของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
นางสาวนวลพรรณย้ำว่า แม้ปีนี้ภาพรวมตลาดค้าปลีกจะเติบโตช้ากว่าปีก่อน จากผลกระทบของปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะเศรษฐกิจและภัยธรรมชาติ แต่ยังคงเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์และศักยภาพในการดำเนินงานดังกล่าวจะสามารถทำให้บริษัทเติบโตได้มากกว่าตลาดค้าปลีกไทยโดยรวมได้อย่างแน่นอน
2/5/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 2 พฤษภาคม 2568 )