info@icons.co.th 02 810 8892-6 18.97.9.175

FPT โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 2568 กวาดรายได้ 6,000 ล้านบาท

Residential News / ข่าวหมวดที่พักอาศัย

FPT พิสูจน์ศักยภาพฝ่าภาวะเศรษฐกิจซบ ครึ่งปีแรกกวาดรายได้ 6,000 ล้านบาท ธุรกิจที่อยู่อาศัยเดินหน้าได้ตามแผนแม้ตลาดไม่สดใส โฟกัสบ้าน-ทาวน์โฮมระดับบน โรงงาน-คลังสินค้ามาแรง อัตราเช่าเพิ่มทะลุ 90% ออฟฟิศ-รีเทลโตแกร่งต่อเนื่อง

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” กล่าวว่า ในครึ่งปีแรกของปีงบการเงิน 2568 (ตุลาคม 2567-มีนาคม 2568)

ถึงแม้บริษัทจะเผชิญหน้ากับความท้าทายทางเศรษฐกิจอย่างหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว การผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว เป็นต้น

แต่ด้วยความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอซึ่งมีทั้งธุรกิจที่สร้างรายได้จากการขายและรายได้ประจำ พร้อมด้วยการบริหารพอร์ตโฟลิโออย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทยังคงสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ดี

โดยในรอบ 6 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2568 (ตุลาคม 2567-มีนาคม 2568) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีรายได้ 6,298 ล้านบาท ลดลง 4.4% มีกำไรสุทธิ 550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.9%

ขณะที่ผลประกอบการของไตรมาส 2 ปีงบการเงิน 2568 (มกราคม-มีนาคม 2568) บริษัทมีรายได้ 3,030 ล้านบาท จำนวนนี้เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,754 ล้านบาท รายได้จากค่าเช่าและบริการ 836 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ 440 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 221 ล้านบาท

รายละเอียด “กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย” มีการเปิดตัว 2 โครงการใหม่รวมมูลค่า 3,450 ล้านบาท ได้แก่ คอนโดมิเนียมโคลส รามอินทรา-แฟชั่น และบ้านระดับลักเซอรี่โครงการแกรมเมอร์ สาทร

โดยบริษัทได้แสดงความโดดเด่นในการเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์จากโครงการเดอะ แกรนด์ ริเวอร์ฟร้อนท์ ราชพฤกษ์-พระราม 5 ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวแห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED ระดับ Gold

ในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบการเงิน 2568 (เมษายน-กันยายน 2568) บริษัทเตรียมเปิดเพิ่มอีก 4 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในกรุงเทพมหานคร นครราชสีมา และขอนแก่น รวมมูลค่ากว่า 6,300 ล้านบาท

ซึ่งสอดรับกับกำลังซื้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และการลดค่าธรรมเนียมการโอนสิทธิและค่าจดจำนอง

“กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม” ได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติที่ย้ายฐานการผลิตมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ผลักดันอัตราการเช่าเฉลี่ยในและต่างประเทศทำ All Time High ที่ 90%

โดยไตรมาส 2 ปีงบการเงิน 2568 (มกราคม-มีนาคม 2568) บริษัทได้ปิดดีลและเดินหน้าก่อสร้างศูนย์ กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของวัตสัน ประเทศไทย ด้วยพื้นที่ 25,000 ตร.ม. รองรับการส่งสินค้าไปยังร้านค้าในเครือกว่า 750 สาขาทั่วประเทศ อยู่ในเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ (บางพลี 4) สมุทรปราการ

รวมถึงได้ส่งมอบศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุด พื้นที่ 89,000 ตร.ม. ของบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และอาคารคลังสินค้า พื้นที่ 30,000 ตร.ม. ในบินห์เยือง อินดัสเทรียล พาร์ค ประเทศเวียดนาม ให้กับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซอีกด้วย

“กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม” อาคารสำนักงานเกรดเอและพื้นที่รีเทล สามารถรักษาอัตราการเช่าได้สูงถึง 91%

โดยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา และส่งผลมายังประเทศไทยเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ทุกอาคารที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบในด้านโครงสร้าง เพราะถูกออกแบบมาให้รองรับแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวอาจกระตุ้นให้ผู้เช่าพิจารณาถึงการย้ายมายังอาคารสำนักงานเกรดเอที่มีคุณภาพมากขึ้น เพราะมีมาตรฐานการก่อสร้างและการดูแลรักษาความปลอดภัยในระดับสูง ส่งผลให้อาคารสำนักงานเกรดเอในพื้นที่ CBD เป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจมากกว่าเดิม

11/5/2568  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 11 พฤษภาคม 2568 )

ช่องยูทูปของ iCONS