รถยนต์จีลี่ ย้ำชัดใช้จุดแข็ง กลุ่มธนบุรีฯ สร้างแบรนด์ในไทย เดินหน้าผุดเน็ตเวิร์ก เพิ่มโชว์รูมศูนย์บริการ 30 แห่งในปีนี้ มั่นใจขาย GEELY EX5 รุ่นเดียวเฉียด หมื่นคัน เผย บริษัทแม่อาจพิจารณาศักยภาพประเทศไทย มีความเป็นไปได้ขึ้นโรงงานประกอบรถยนต์ในอนาคต
นายณรงค์ สีตลายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ จีลี่ (GEELY) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจว่า บริษัทตั้งเป้าจะมียอดขายรถยนต์จีลี่ อีเอ็กซ์ 5 (GEELY EX5) ในประเทศไทย ให้ได้อย่างน้อย 8,000-9,000 คัน ควบคู่ไปกับการเดินหน้าขยายเครือข่ายการจัดจำหน่าย
โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะส่งอีวีรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดประเทศไทยอย่างน้อย 1 รุ่นในทุก ๆ ปี เพื่อสร้างความมั่นใจ และพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าชาวไทย
ส่วนปีนี้บริษัทจะเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการให้ได้อย่างน้อย 30 แห่ง โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทได้แต่งตั้งและเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการจีลี่ อย่างเป็นทางการจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น และระยอง
และภายในไตรมาสที่ 2 จะเพิ่มเป็น 15-17 แห่งทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 6 แห่ง ต่างจังหวัด 11 แห่ง จากนั้นภายในสิ้นปี 2568 จะครบ 30 แห่งอย่างแน่นอน
โดยเบื้องต้น จีลี่จะเน้นการเข้าไปตั้งโชว์รูมและศูนย์บริการยังพื้นที่ที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโต โดยพื้นที่จุดยุทธศาสตร์หัวเมืองใหญ่ ๆ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานรถ EV ที่กำลังเติบโตในหัวเมืองต่างจังหวัด
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างบริการหลังการขาย ศูนย์ฝึกอบรม (Training Center) และประสบการณ์ลูกค้าในทุกจุดบริการ พร้อมมุ่งสู่การสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย ด้วยการผสานนวัตกรรม ความคุ้มค่า และความเชื่อมั่นในบริการหลังการขาย เพื่อขับเคลื่อนสังคมสู่อนาคตพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
นายณรงค์ยังกล่าวถึงเป้าหมายในระยะกลางว่า บริษัทต้องการเดินหน้าเพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์จีลี่ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะความเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีคุณภาพและสมรรถนะที่ดี เบื้องต้นสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมเพิ่มการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงการมุ่งเน้นในด้านบริการหลังการขายที่จะทำให้มีความแตกต่างจากทั่วไป
ประกอบกับประสบการณ์ชื่อชั้นของการดำเนินธุรกิจของกลุ่มธนบุรีฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่ได้รับความไว้วางใจในการดูแลลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยมมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมากกว่า 84 ปี ซึ่งบริษัทจะใช้องค์ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมา เพื่อสร้างความแตกต่างและดูแลลูกค้าจีลี่ได้เป็นอย่างดี
หลังจากเราเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา มียอดจองไปกว่า 1,000 คันนั้น แม้ว่าเราจะไม่ได้มีการโปรโมตเยอะในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เราค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับยอดที่มีเข้ามา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้ารู้จักแบรนด์จีลี่ บวกกับความแข็งแกร่งของกลุ่มธนบุรีฯ ทำให้ลูกค้ายิ่งมั่นใจ เราจะพยายามเดินหน้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างดีที่สุด
ส่วนสถานการณ์ของตลาดรถยนต์ในปีนี้ นายณรงค์เชื่อว่าปัญหาสงครามราคาจะยังเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เชื่อว่าผลจากสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้เบาบางลง และกลับเข้าไปอยู่ในจุดที่ใกล้สมดุล
โดยเฉพาะการตั้งราคาจำหน่าย จากเดิมที่รถยนต์เปิดตัวรุ่นใหม่จะมีราคาค่อนข้างสูง จากนี้ไปเชื่อว่าจะเห็นการเปิดตัว เปิดราคาของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ออกมาในราคาที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว
ส่วนจีลี่นั้นจะเน้นความคุ้มค่า คุ้มราคา ภายในนโยบายราคาเดียว (One Price Policy) โดยลูกค้าจะไม่ใช่กลุ่มที่เลือกรถที่ราคาถูกที่สุด แต่ลูกค้าจีลี่จะเป็นกลุ่มที่เลือกแบรนด์ที่ดี และให้ความมั่นใจได้ในระยะยาว
ทั้งนี้ เชื่อว่าจีลี่จะเป็นแบรนด์รถยนต์จากจีนที่สามารถสอดแทรกเข้ามาชิงพื้นที่การขายในตลาดประเทศไทยได้ แม้ว่าปัจจุบันรถยนต์ยังเป็นการนำเข้าจากจีนทั้งคัน
นายณรงค์ยังได้กล่าวต่อไปว่า มีความเป็นไปได้ว่าจีลี่ จะพิจารณาขึ้นไลน์ผลิตรถยนต์ในประเทศไทย เนื่องจากความพร้อมศักยภาพของกลุ่มธนบุรีฯ ก็มีความเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้จะต้องรอดูความต้องการและการตอบรับของตลาดเป็นสำคัญด้วย
ส่วนตลาดรถยนต์ในปีนี้ นายณรงค์คาดว่าในส่วนของตลาดรถอีวีที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปีนี้น่าจะมียอดขายไปได้ถึง 90,000-100,000 คัน ขณะที่ตลาดรวมรถยนต์มองว่ามีโอกาสเติบโตได้เล็กน้อย จากมาตรการการช่วยเหลือจากภาครัฐอยู่ที่ 580,000-600,000 คัน
4/6/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 4 มิถุนายน 2568 )
