info@icons.co.th 02 810 8892-6 18.97.14.81

ยักษ์ร้านสลัดทุ่มชิงตลาด ร้านอาหารสุขภาพ 5 พันล้าน

Retails News / ข่าวหมวดห้างสรรพสินค้า

ร้านอาหารสุขภาพ 5,200 ล้านคึกคัก 3 ยักษ์ร้านสลัด “โอ้กะจู๋-สลัดแฟคทอรี่-โจนส์สลัด” ชี้คนไทยใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แถมผู้เล่นหน้าใหม่แห่ร่วมวง หนุนตลาดโตต่อเนื่องปีละ 15-20% ตบเท้าลงทุนผุดสาขา-คอลแลบส์พันธมิตรปั้นเมนูใหม่ขยายฐานลูกค้า สร้างการเติบโต โอ้กะจู๋ทุ่ม 350-400 ล้านปูพรมทั้งร้านสลัด-น้ำผลไม้ ส่วนโจนส์สลัดระดมเมนูใหม่ชิงทุกโอกาสบริโภค

นายปิยะ ดั่นคุ้ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ ผู้บริหารร้านสลัดแฟคทอรี่ (Salad Factory) เปิดเผยว่า ตลาดร้านอาหารเพื่อสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยประเมินว่าช่วง 3 ปีจากนี้ หรือปี 2569-2571 ตลาดร้านอาหารเพื่อสุขภาพจะยังเติบโตต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ย 15-20% บุกปักหมุดหัวเมืองท่องเที่ยว ด้านโอ้กะจู๋ทุ่ม 350-400 ล้านปูพรมทั้งร้านสลัด-น้ำผลไม้ Oh! juice ส่วนโจนส์สลัดระดมเมนูใหม่ชิงทุกโอกาสบริโภค

นายปิยะ ดั่นคุ้ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ ผู้บริหารร้านสลัดแฟคทอรี่ (Salad Factory) เปิดเผยว่า ตลาดร้านอาหารเพื่อสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยประเมินว่าช่วง 3 ปีจากนี้ หรือปี 2569-2571 ตลาดร้านอาหารเพื่อสุขภาพจะยังเติบโตต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ย 15-20% ต่อปี ด้วย 2 ปัจจัยหลักคือ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และผู้เล่นรายใหม่ ๆ ที่ตบเท้าเข้ามาในตลาดตลอดเวลา สะท้อนจากจำนวนผู้เล่นในปัจจุบันที่มีมากกว่า 20 แบรนด์ เพิ่มขึ้นเกินเท่าตัวจากช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีเคยผู้เล่นเพียงไม่เกิน 5 แบรนด์เท่านั้น

โดยคาดว่าสิ้นปี 2568 นี้ตลาดร้านอาหารเพื่อสุขภาพในประเทศไทยจะมีมูลค่ารวม 5,200 ล้านบาท เติบโตประมาณ 15-20% จากปี 2567 ซึ่งตลาดมีมูลค่า 4,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีความท้าทายระยะสั้นและยาวแฝงอยู่ โดยนอกจากสภาพเศรษฐกิจที่เป็นความท้าทายระยะสั้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 แล้ว คาดว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้าอัตราการเติบโตของตลาดจะชะลอลง และเริ่มนิ่งมากขึ้น เนื่องจากฐานที่ใหญ่ขึ้นจากผู้เล่นจำนวนมากที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

สลัดแฟคทอรี่ รุกเมืองท่องเที่ยว

นายปิยะกล่าวว่า เพื่อรับมือความท้าทาย บริษัทจะเร่งสปีดการขยายสาขาออกสู่พื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น เริ่มจากเมืองท่องเที่ยว เพื่อผลักดันให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักและสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้างยิ่งขึ้น หลังจากที่ผ่านมาสาขาส่วนใหญ่กระจุกตัวในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

โดยทุ่มงบฯ ลงทุน 50 ล้านบาทขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 8-9 แห่ง โดยช่วงต้นปีเปิดสาขาไปแล้ว 3 สาขา และเพิ่มอีก 1 สาขา ที่เกตเวย์ เอกมัย ในวันที่ 12 มิถุนายน ก่อนจะทยอยเปิดในช่วงครึ่งปีหลังอีก 4-5 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัด อาทิ ชลบุรี กาญจนบุรี

ทั้งนี้ คาดว่าสิ้นปี 2568 จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 54 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 48 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 33 สาขา, นนทบุรี 6 สาขา, ปทุมธานี 3 สาขา, สมุทรปราการ 2 สาขา, นครปฐม 2 สาขา, นครสวรรค์ 1 สาขา และชลบุรี 1 สาขา

รักษาลูกค้าเก่า-ขยายลูกค้าใหม่

ขณะเดียวกัน ยังได้เดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ควบคู่ไปกับการรักษาฐานลูกค้าเก่า ด้วยการนำเสนออาหารคุณภาพในราคาเข้าถึงง่าย และพัฒนาเมนูใหม่ ๆ ต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขาย และสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด ตามเป้ากระตุ้นความถี่ในการกลับมาใช้บริการให้เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีการกลับมาใช้บริการอยู่ที่ 2-3 ครั้งต่อเดือน และมียอดใช้จ่ายต่อบิลอยู่ที่ 200-300 บาท

โดยโฟกัสลูกค้า 3 กลุ่มหลักคือ 1.กลุ่มลูกค้าประจำ ได้แก่ กลุ่มครอบครัว, กลุ่มมิลเลนเนียล และผู้ที่รักสุขภาพ 2.กลุ่มคนเมือง ได้แก่ กลุ่มมิลเลนเนียล และกลุ่ม Gen Z ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบและให้ความสำคัญกับสุขภาพ และ 3.กลุ่มครอบครัวใหญ่ ได้แก่ ผู้ปกครอง ผู้สูงอายุ ที่มองหาทางเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพสำหรับทุกคนในครอบครัว ในราคาที่คุ้มค่าและเข้าถึงได้

ล่าสุดบริษัทได้สานต่อความร่วมมือกับเอสเพียว (S-Pure) เป็นปีที่ 2 เปิดตัวแคมเปญ “อกไก่ฉ่ำ So Yummy” พร้อม 5 เมนูใหม่ อาทิ คัตสึอกไก่ซอสนากาโนะมิโซะ, สลัดครันชี่อะโวคาโดอกไก่ย่าง, สปาเกตตีเมนไทโกะอกไก่ย่างมิโซะ เป็นต้น เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้นประมาณ 20%

“โอ้กะจู๋” ทุ่มขยายสาขา

นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเชนร้านอาหาร-เครื่องดื่ม อาทิ โอ้กะจู๋, Oh! juice และอื่น ๆ กล่าวในงาน Opportunity Day ว่า แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2568 เศรษฐกิจ, กำลังซื้อ และการท่องเที่ยวจะชะลอตัว รวมถึงเหตุแผ่นดินไหวจะกระทบการเติบโตของยอดขายร้านเดิม (SSSG) ของโอ้กะจู๋ โดย 29 สาขาจากทั้งหมด 41 สาขาติดลบ แต่ยอดขายโดยรวมยังคงเติบโตสะท้อนถึงศักยภาพของตลาด

ทำให้บริษัทเดินหน้าขยายสาขาโอ้กะจู๋ และแบรนด์อื่นในเครือต่อเนื่อง โดยเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โฟกัสโลเกชั่นที่ตอบโจทย์ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ พร้อมกับขนเมนูใหม่ ๆ ทั้งที่พัฒนาเอง และคอลลาบอเรชั่นกับพันธมิตรออกมาอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน เพื่อรักษาทราฟฟิกในร้าน และสร้างการรับรู้กับผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ๆ ให้เข้ามาทดลองทานไปพร้อมกัน

โดยมีแผนลงทุน 350-400 ล้านบาทสำหรับขยายโอ้กะจู๋อีก 6 สาขา ทำให้สิ้นปี 2568 นี้โอ้กะจู๋จะมีสาขาเพิ่มจาก 41 สาขา เป็น 47 สาขา ส่วน Oh! juice จะขยายเพิ่ม 12 สาขา หลังจากเปิดไปแล้ว 3 สาขาเมื่อไตรมาส 1 ทำให้สิ้นปี 2568 Oh! juice จะมีสาขาเพิ่มจาก 15 สาขา เป็น 30 สาขา สำหรับ JOE WINGS เชนร้านไก่ทอดแบรนด์น้องใหม่ในเครือจะเปิดให้ครบ 6 สาขาภายในสิ้นปี

ด้านเมนูใหม่ ๆ จะมีทั้งเมนูสุขภาพแบบดั้งเดิม และเมนูที่ฉีกจากความเป็นโอ้กะจู๋ แต่ยังดีต่อสุขภาพ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ ๆ อาทิ แบรนด์เผ็ดเผ็ด (Phed Phed) ซึ่งร่วมมือกันพัฒนาเมนูใหม่และวางขายลากยาว 3 เดือนตั้งแต่ 1 พฤษภาคม-31 กรกฎาคม 2568 หลัง JOE WINGS ซึ่งเป็นไก่ทอดรสเผ็ด สไตล์อเมริกัน พร้อมจุดเด่นอย่าง ใช้น้ำมันคาโนลา, เนื้อไก่ที่เลี้ยงตามธรรมชาติ และอื่น ๆ ได้กระแสตอบรับดีจนกลายเป็นหนึ่งในเมนูถาวรของร้านโอ้กะจู๋แล้ว หลังเดิมจะขายแบบจำกัดเวลาเพียง 3 เดือน รวมถึงสามารถแตกเป็นแบรนด์ใหม่ได้

ทั้งนี้ เชื่อว่ากลยุทธ์การขยายสาขาและการพัฒนาเมนูใหม่จะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโต 20-30% พร้อมมีอัตราการเติบโตของยอดขายร้านเดิมที่ 2-5% ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้นปี แม้จะมีความท้าทายด้านเศรษฐกิจ-กำลังซื้อก็ตาม

“โจนส์สลัด” ร่วมชิงตลาด

ด้านร้าน “โจนส์สลัด” เชนร้านอาหารสุขภาพใหญ่อีกรายนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันร้านโจนส์สลัดมี 41 สาขาทั่วประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ยังเดินหน้าขยายสาขาและเปิดตัวเมนูใหม่ ๆ ออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายไลน์ให้ครอบคลุมมื้ออาหารและโอกาสการทานอื่น ๆ มากขึ้น เช่น High-Protein Wraps และเมนูอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ รวมไปถึงเครื่องดื่ม Functional Drinks พร้อมจุดขายด้านภูมิคุ้มกันและพลังงาน หวังเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความหลากหลาย

ล่าสุดเปิดตัวเมนูเครื่องดื่ม Healthy SMOOTHIE หลากหลายสูตร อาทิ “Salad Pun” สลัดทั้งชามปั่นไว้ในแก้ว, “Princess Glow” สมูทตี้ผสมคอลลาเจนจากญี่ปุ่นปั่นคู่กับผลไม้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ฯลฯ

ส่วนการขยายสาขานั้น เมื่อวันที่ 6 และ 10 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา บริษัทเปิดตัวสาขาใหม่ที่ “ตลาดบองมาร์เช่ มาร์เก็ตพาร์ค” 1 สาขา และ “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค” 1 สาขา พร้อมจัดโปรโมชั่นฉลองเปิดสาขาใหม่ สำหรับสมาชิกรับ สมูทตี้ 1 แถม 1 เมื่อซื้อสมูทตี้ Unicorn 1 แก้ว ในราคา 159 บาท รับฟรีสมูทตี้ Berry Mellow 1 แก้ว ในราคา 149 บาท เพื่อเอาใจสายรักสุขภาพโดยเฉพาะอีกด้วย

นอกจากนี้ แบรนด์โจนส์สลัดยังคงย้ำโพซิชั่นผู้ให้ความรู้ด้านโภชนาการผ่านแคแร็กเตอร์ “ลุงโจนส์” ด้วยการทำคอนเทนต์ให้ความรู้ ทั้งในรูปแบบวิดีโอสั้น Reels, TikTok และบทความเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความผูกพันกับผู้บริโภคให้มากกว่าการเป็นเพียงร้านอาหาร รับมือการแข่งขันดุเดือดในวงการตลาดร้านอาหารเพื่อสุขภาพ

11/6/2568  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 11 มิถุนายน 2568 )

ช่องยูทูปของ iCONS