info@icons.co.th 02 810 8892-6 18.117.7.212

35 ปี แลนดี้โฮม เติบใหญ่ในวงการรับสร้างบ้าน

Residential News / ข่าวหมวดที่พักอาศัย

เดือนสิงหาคม 2566 มีกำหนดครบรอบก่อตั้ง 35 ปี ธุรกิจรับสร้างบ้านแบรนด์ “แลนดี้ โฮม”

อาจฟังคุ้นหูที่บริษัทประกาศตัวเป็นผู้นำศูนย์รับสร้างบ้านอันดับ 1 ซึ่งหากพิจารณาจากยอดออร์เดอร์รับสร้างบ้านปี 2565 ที่ทำผลงานได้น่าประทับใจจำนวน 2,600 ล้านบาท จากจำนวน 5 สาขาในปัจจุบัน ถือว่าเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่ไม่ธรรมดากันเลยทีเดียว

ดันเป้ายอดขาย 2,750 ล้าน

ผู้บริหารเจเนอเรชั่นที่ 2 “พรรัตน์ มณีรัตนะพร” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด สะสมประสบการณ์ 10 ปีเต็ม เดินหน้าขยายอาณาจักรธุรกิจแลนดี้ โฮม ไม่หยุดยั้ง

น่าสนใจว่าภายใต้สถานการณ์โควิด แลนดี้ โฮมทำยอดขายได้สูงถึง 2,600 ล้านบาทมาจากธุรกิจรับสร้างบ้าน 100% ยังไม่นับรวมการลงทุนแตกไลน์ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ

ดังนั้น เมื่อรากฐานแข็งแกร่งแล้ว แผนธุรกิจปี 2566 จึงตั้งเป้ายอดขายขอเติบโตเล็กน้อยที่ 5% จำนวน 2,750 ล้านบาท นำมาสู่การลงรายละเอียดแผนกลยุทธ์รอบด้าน

เริ่มต้นจาก 3 แบรนด์ดังของบริษัท ได้แก่ “แลนดี้ แกรนด์” รับสร้างบ้านหรูหลังละ 20 ล้านบาทขึ้นไป สัดส่วนยอดขาย 37%, “แลนดี้ โฮม” บ้านขนาดกลางราคา 8-20 ล้านบาท สัดส่วน 37% และแบรนด์น้องเล็ก “เทรนดี้ โฮม” ราคา 2-8 ล้านบาท สัดส่วน 26%

เรื่องใหม่ปีนี้ เตรียมแผนรีแบรนดิ้ง “เทรนดี้ โฮม” ขนานใหญ่เพื่อสร้างภาพจำ “สร้างบ้านสุดชิค ดีไซน์ดี…ราคาโดน” นำเสนอบ้านสไตล์มินิมอล น้อยแต่มาก เรียบง่ายแต่ทันสมัย เจาะลูกค้า young gen ที่มีงบประมาณไม่มาก แต่ต้องการขยายครอบครัว เตรียมอวดโฉมแบบบ้านนิวซีรีส์ในเดือนมีนาคม 2566 นี้

ปฏิบัติการรีแบรนดิ้ง “เทรนดี้ โฮม” บริษัทคาดหวังว่าจะเป็นหมัดเด็ดในการสร้างยอดขายครึ่งปีแรก 2566 จำนวน 1,300 ล้านบาท

ควบคู่ขยายสาขาต่างจังหวัดเพิ่มอีก 3 สาขา จากปัจจุบันมี 5 สาขาในกรุงเทพฯ เล็งเข็มทิศไปที่ภูมิภาคตะวันออกหรือโซน EEC ที่จังหวัดชลบุรี-ระยอง กับเปิดตลาดภาคอีสานอีกจุด รวมเป็น 8 สาขา เป้าหมายมีไว้พุ่งชนต้องการเพิ่มยอดขายต่างจังหวัด จาก 10% เป็น 15%

คิดนอกกรอบน็อกเอาต์คู่แข่ง

ผู้บริหารอีกราย “พานิช มณีรัตนะพร” ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ แลนดี้ โฮม ประสบการณ์ตกผลึก 8-9 ปีกล่าวเสริมว่า เรื่องใหม่ปีนี้ บริษัทรุกคืบธุรกิจ precast solution center ภายใต้ชื่อ “บริษัท NOVA Modular” โฟกัสวิจัยและพัฒนา “เสา+คานสำเร็จรูป” ซึ่งมองว่ามีโอกาสทางการตลาดสูงลิบลิ่ว

เพราะทั้งบ้านที่ก่อสร้างระบบก่ออิฐฉาบปูนและก่อสร้างสำเร็จรูป ล้วนต้องการใช้เสาและคาน ในขณะที่คู่แข่งถือว่ายังมีไม่มาก การแข่งขันไม่อยู่ในโซนเรดโอเชียน

ถัดมา เนื่องจากเป็นผู้บริหารคนรุ่นใหม่ จึงคิดนอกกรอบแบบคนรุ่นใหม่ มองเห็น pain point ว่า ธุรกิจบ้านจัดสรรมีบริการหลังการขาย หรือ after sale service คือนิติบุคคลบ้านจัดสรร-นิติบุคคลอาคารชุด แต่ธุรกิจรับสร้างบ้านหลังจากสร้างเสร็จและส่งมอบ 1 ยูนิต สัญญาตามกฎหมายมีเพียงการรับประกันความแข็งแรงของโครงสร้างหลัก 1 ปี

ในขณะที่ธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นธุรกิจสร้างที่อยู่อาศัย มีความต้องการบริการหลังการขายเช่นเดียวกับหมู่บ้านจัดสรร ดังนั้น จึงได้จัดตั้งบริการ “Landy Care” เอกสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่สร้างบ้านกับแลนดี้ โฮม โดยบริษัทจะเป็นตัวกลางในการจัดหาผู้รับเหมาฝีมือมาตรฐาน เข้ามาเป็นตัวช่วยในการบำรุงรักษา-ต่อเติม-ซ่อมแซมแก้ไขทุกปัญหาเกี่ยวกับบ้าน เจรจาต่อรองค่าใช้จ่ายระหว่างเจ้าของบ้าน-ผู้รับเหมารายย่อย ลูกค้าไม่ต้องปวดหัวกับการติดต่อ-ติดตามผู้รับเหมา ที่สำคัญไม่ต้องกังวลปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน

โดยแลนดี้ โฮม ตั้งใจว่า บริการ “Landy Care” จะเป็นบริการหลังการขายที่ปฏิวัติวงการรับสร้างบ้าน และเป็นจุดขายที่เป็นหมัดเด็ดน็อกเอาต์คู่แข่งขันในปี 2566 นี้

17/2/2566  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 17 กุมภาพันธ์ 2566 )

Youtube Channel