เดอะ ฟอเรสเทียส์ เปิดไฮไลท์ แบรนด์ ดิ แอสเพน ทรี โครงการที่พักอาศัยหรู มิติใหม่ดูแลตลอดชีวิต การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Socity ของไทยในปี 2565 อย่างเต็มรูปแบบ นอกจาก จะนับเป็นความท้าทายของระบบสาธารณสุขไทย ในการวางระบบดูแล เพื่อรองรับแล้ว ในภาคธุรกิจ กลับเป็นโอกาสครั้งสำคัญ ให้ผู้ประกอบการ พัฒนาสินค้าและบริการ ให้ตอบโจทย์กับความต้องการของคนกลุ่มนี้ เพราะเป็นประชากรที่มีความต้องการงานบริการที่มีคุณภาพสูง เมื่อเทียบกับประชากรในกลุ่มอื่นๆ
ขณะเดียวกันผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อ เป็นกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยตั้งแต่ 100,000 ถึงมากกว่า 300,000 บาทต่อเดือน สัดส่วนมากถึง 17.9% ของจำนวนประชากรผู้สูงอายุโดยเฉลี่ย กลายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจยิ่ง
โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ นิยามของทางเลือกชีวิตอย่างมีคุณภาพในช่วงบั่นปลาย เป็นสิ่งที่เข้ามีบทบาท และจะได้รับความสนใจมากขึ้นในอนาคต โดยความคาดหวังของกลุ่มผู้สูงวัยนี้ พบครอบคลุม มิติของการดูแลสุขภาพ (Health), การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัย (Living Environment), การให้ความสำคัญกับบริการ (service),อีกทั้ง มีความสนใจในการใช้เทคโนโลยี (Technology) และคุณภาพของสังคมการอยู่อาศัยที่เหมาะสมร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนสูงวัยแสวงหาสูงสุด คือ การได้อยู่อาศัย แวดล้อมไปด้วยบุตรหลานคนในครอบครัว ซึ่งในหลายบทความก่อนหน้า "ฐานเศรษฐกิจ" เคยนำเสนอ แผนแม่บทของโครงการที่อยู่อาศัยต้นแบบแห่งอนาคตที่น่าจับตามองมากที่สุด การันตีด้วยยอดขาย และการกวาดรางวัลมาหลายเวที สำหรับ เมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ที่สุดของไทย ซึ่งพัฒนาโดยภาคเอกชน MQDC หรือ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น ภายใต้ โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ บนพื้นที่ 398 ไร่ บางนาตราด กม.7 มูลค่า 1.25 แสนล้านบาท
วันนี้ ความหลากหลายของการอยู่อาศัยช่วงวัย ที่ใกล้ชิดธรรมชาติได้อย่างน่าสนใจนั้น ยังถูกตอกย้ำ ด้วยแบรนด์ โครงการ ดิ แอสเพน ทรี อีกด้วย ล่าสุด นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เผยถึงแนวคิดรูปแบบใหม่ในการเป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นมิติใหม่ของตลาดที่อยู่อาศัยของประเทศไทย ว่า แบรนด์ ดิ แอสเพน ทรี คือ การผสานที่พักอาศัย ที่ครบพร้อมด้วยบริการและการดูแลตลอดชีวิตแบบครบวงจรด้วยมาตรฐานระดับโลก การช่วยเหลือดูแลตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน บริการดูแลทำความสะอาด รวมไปถึงประกันสุขภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่จะช่วยเหลือผู้พักอาศัยที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในราคาขายบ้านแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด การดูแลแบบองค์รวมตลอดชีวิต หรือ Holistic Lifetime Care ในการเป็นเจ้าของบ้าน
ที่อยู่อาศัยแบรนด์ ดิ แอสเพน ทรี จะมาช่วยเติมเต็มองค์ประกอบของที่อยู่อาศัยต่างๆ ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ อาทิ แบรนด์ Six Senses, Mulberry Grove และ Whizdom อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ของเราในการสร้างชุมชนที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง และความหลากหลายของช่วงอายุ ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสะดวกสบายง่ายดาย และใกล้ชิดธรรมชาติ
ผู้บริหารโปรเจ็กต์ ยังกล่าวให้เห็นภาพว่า วันนี้ ผู้คนอยู่ภายใต้ความไม่แน่นอน และ ต้องการเอาความไม่แน่นอนต่างๆ ออกไปจากชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น และในเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหามากมายที่ทำให้ยากต่อการคาดเดาอนาคต การลงทุนครั้งเดียวในการซื้อที่อยู่อาศัยที่ ดิ แอสเพน ทรี ทำให้เราสามารถขจัดความกังวลและความไม่แน่นอนทั้งหมดในหลายๆเรื่องไปได้ เช่น จะเกิดอะไรขึ้นกับค่าครองชีพรอบตัวเราที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี นี่จึงนับว่าเป็นข้อเสนอที่คุ้มค่า ที่นำมาซึ่งความสบายใจอย่างแท้จริง
ซึ่งองค์ประกอบต่างๆของ โครงการที่อยูอาศัยแบรนด์ ดิ แอสเพน ทรี จะส่วนหนึ่งของการสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของบ้านในอนาคตโดยปราศจากความกังวล แม้แต่ค่าส่วนกลางที่ปกติอาจจะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะได้รับการยกเว้นด้วย ภายใต้แนวคิดใหม่ของการเป็นเจ้าของบ้านที่เรากำลังนำเสนออยู่นี้
จากข้อมูลของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่าในกลุ่มผู้สูงอายุแต่ละคนมักมีโรคประจำตัว ราว 2-5 โรคต่อคน จึงทำให้ผู้สูงอายุมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลด้านสุขภาพแบบต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่ง ที่อยู่อาศัย แบรนด์ ดิ แอสเพน ทรี ได้นำเรื่องนี้ไปเป็นองค์ประกอบสำคัญด้วย พร้อมๆกับการออกแบบพื้นที่ในบ้านที่เหมาะสมด้วย
เฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการ ดิ แอสเพน ทรี ที่ เดอะ ฟอเรสเทียส์ กล่าวว่า โครงการนี้ อยู่บนพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ มีจำนวน 290 ห้อง ขนาด 83 - 253 ตารางเมตร สัดส่วนพื้นที่ 23 ไร่ ณ ใจกลางสำคัญของโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ช่วยให้บ้านเกือบทุกหลัง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของป่าปลูก 30 ไร่ โดยตั้งเป้าลูกค้า ไปที่กลุ่มคนที่มีความพร้อมทางการเงิน อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ผ่านบริการด้านสุขภาพและการดูแลครบวงจรอย่างมืออาชีพที่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงเวลา
นอกเหนือจากการอยู่อาศัยตลอดชีพแล้ว ยังรวมไปถึงการบริการและการดูแลสุขภาพตลอดชีวิตแบบครบวงจร บริการทำความสะอาด และการจัดเตรียมอาหารสำหรับความต้องการพิเศษทางด้านโภชนาการ รวมถึงการสามารถเข้าถึงพื้นที่รับประทานอาหารส่วนกลางร่วมกับเพื่อนบ้าน และคลับเฮาส์ที่มีกิจกรรมทางสังคมต่างๆ อาทิ ศิลปะและการจัดเวิร์กช็อปงานฝีมือ รวมไปถึงโปรแกรมการออกกำลังกายทางร่างกายและจิตใจเป็นประจำ โดยหลากหลายกิจกรรมไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และที่มากกว่านั้นคือโปรแกรมประกันสุขภาพที่ครอบคลุมความต้องการทางการแพทย์และการพยาบาลจนถึงอายุ 99 ปี
สำหรับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่นำมาใช้ภายในบ้านคือ พื้นที่ห้องน้ำที่กว้างขวางเป็นพิเศษ รวมไปถึงทางเดินและประตูทางเข้าที่กว้างกว่าปกติ ซึ่งโครงการได้ให้ความใส่ใจเป็นพิเศษในเรื่องของความปลอดภัยและการบำรุงรักษาที่ง่าย โดยบ้านประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เป็นแบบ Fully-fitted และ Semi-decorated
ทั้งนี้ ปัจจุบัน โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ มียอดขายที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ต่างๆมูลค่าเกิน 17,200 ล้านบาท หรือประมาณ 40% ของที่อยู่อาศัยที่มีอยู่ ขณะช่วงการเปิดตัวแบรนด์ ดิ แอสเพน ทรี ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม นี้ ยังได้จัดแคมเปญ หากลูกค้าชวนกลุ่มเพื่อนจองห้องด้วยกัน จะได้รับแพ็คเกจพิเศษ Best Friends Forever ส่วนลดค่าที่พักอาศัยให้ผู้ซื้อแต่ละรายสูงสุดถึง 1.8 ล้านบาท พร้อมเครดิตเงินสดจำนวน คนละ 300,000 บาท ซึ่งสามารถใช้ได้กับร้านค้า ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่เดอะ ฟอเรสเทียส์ อีกด้วย
30/3/2565 ฐานเศรษฐกิจ (30 มีนาคม 2565)