เนสท์เล่ สานต่อปรัชญาการทำงาน Good food, Good life หรือ อาหารที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี เปิด 2 กลยุทธ์หลักครบรอบ 130 ปีในประเทศไทย ชูกลยุทธ์ ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค สานต่อความมุ่งมั่นในเรื่องโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี และกลยุทธ์ ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการดําเนินงานของเนสท์เล่มีความยั่งยืน
วันที่ 8 มีนาคม 2566 นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า เปิดเผยว่า เนสท์เล่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 130 ปี เราภูมิใจกับโอกาสครบรอบครั้งยิ่งใหญ่ในปีนี้ เราเชื่อมั่นในการสร้างคุณค่าร่วมกันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสังคมไทย ตลอดจนยึดมั่นต่อเจตนารมณ์ในการเปิดพลังแห่งอาหาร เพื่อเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อทุกคนในวันนี้ และในอนาคต
นายวิคเตอร์ เซียห์ ย้ำว่า เนสท์เล่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลา 130 ปี โดยได้สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับสังคมไทยตามหลักการ ESG ทุกมิติ ซึ่งได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยมุ่งเน้นการปกป้อง และฟื้นฟูดูแลสิ่งแวดล้อมภายใต้แผนงานด้านความยั่งยืน Net Zero 2050
สร้างคุณค่าให้สังคมไทย ตลอด 130 ปี
นายวิคเตอร์ เซียห์ ระบุว่า เนสท์เล่สร้างคุณค่าให้กับสังคม ด้วยการนําเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและมีรสชาติที่อร่อย ปัจจุบัน เนสท์เล่มีผลิตภัณฑ์ 100 รายการที่ได้รับการรับรอง สัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice Logo) ผลิตภัณฑ์โภชนาการสำหรับเด็กของเนสท์เล่ทั้งหมด 100%
ยังมีการเสริมแร่ธาตุและวิตามิน เพื่อช่วยป้องกันการขาดสารอาหารในเด็กวัยหัดเดินและเด็กเล็ก รวมทั้งยังได้ดำเนินโครงการให้ความรู้ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแก่ประชาชนคนไทยมาหลายทศวรรษ
นอกจากนี้ ยังมีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจไทยผ่านการสร้างงาน โดยเนสท์เล่ประเทศไทยมีพนักงานราว 4,000 คน และทำให้เกิดการจ้างงานทางอ้อมอื่น ๆ อีกกว่า 10,000 ตำแหน่งจากพันธมิตรทางธุรกิจ และมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยกว่า 13,600 ล้านบาท ในการเปิดโรงงานใหม่ 2 แห่ง ในไทยในช่วงปี 2018 -2022 อีกทั้ง ยังมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทยหลายชนิดไปนานาประเทศ
นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า
ทิศทางธุรกิจเนสท์เล่ ปี 2023
นายวิคเตอร์ยังได้เปิดเผยถึงเทรนด์ผู้บริโภคระยะกลางถึงระยะยาวจากการวิจัยล่าสุด ซึ่งพบว่า คนไทยหันมาใส่ใจกับการรับประทานอาหารอย่างสมดุล หรือ Balanced Diet และการมีไลฟ์สไตล์ที่รักษ์โลกมากขึ้น ปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ขณะที่ผู้บริโภคที่มีอายุมากกว่า 45 ปี เริ่มตระหนักถึงความยั่งยืนมากขึ้น
คนรุ่นใหม่ที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี ก็ต้องการสนับสนุนแบรนด์ที่มีแนวทางด้านความยั่งยืน และคาดหวังมากขึ้นว่า แบรนด์จะทําหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีความโปร่งใสมากขึ้น สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์รักษ์โลก ผู้บริโภคใส่ใจว่า ผลิตภัณฑ์มีที่มาจากไหนและผลิตมาอย่างไร ทุกวันนี้ คนไทย 62% ระบุว่า ได้นําแนวการบริโภคอย่างยั่งยืนมาใช้ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์
ในปีนี้และในอนาคตข้างหน้า เนสท์เล่จะเน้นสองกลยุทธ์หลักคือการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค (Good for You) ที่จะสานต่อความมุ่งมั่นของเราในเรื่องโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมรสชาติที่อร่อย และขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา (Good for the Planet) เพื่อให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์และการดําเนินงานของเนสท์เล่มีความยั่งยืน
ทั้ง 2 กลยุทธ์สำคัญนี้จะช่วยให้เราสามารถ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในการรับประทานอาหารอย่างสมดุล ด้วยทางเลือกที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ ในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อม ๆ กับการช่วยให้โลกเราน่าอยู่มากขึ้นด้วย
ชูการ ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค
นายวิคเตอร์กล่าวเสริมว่า ด้วยกลยุทธ์การขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค เนสท์เล่จะมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่อร่อยขึ้นและดีต่อสุขภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาพอร์ตผลิตภัณฑ์ให้มีรสชาติที่อร่อยและมีโภชนาการสูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อให้เป็นตัวเลือกที่ ดีต่อสุขภาพ ให้กับผู้บริโภค เช่น
การนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ลดน้ำตาล ลดโซเดียม การเสริมวิตามินและแร่ธาตุ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพืชให้เป็นตัวเลือกสําหรับผู้บริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ ในรูปแบบขายปลีก
รวมถึงการมีกิจกรรมการให้ความรู้ในปี 2023 อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ เนสท์เล่คาราวานครอบครัวแข็งแรง กิจกรรมให้ความรู้เรื่องโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีในพื้นที่ต่าง ๆ
พร้อมทั้งส่งเสริมเรื่องการจัดการขยะและให้ความรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิล โดยตั้งเป้าในการเข้าถึงผู้บริโภค 300,000 คนใน 130 ชุมชนทั่วประเทศ และ โครงการสาสุขอุ่นใจ โดยร่วมมือกับกรมอนามัย เพื่อขับเคลื่อน 130 ชุมชนทั่วประเทศ สร้างสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา
และด้วยความมุ่งมั่นในการดูแลและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เนสท์เล่ยังมีอีกหนึ่งกลยุทธ์หลักในขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา (Good for the Planet) เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ซึ่งจะเป็นสิ่งที่กําหนดทิศทาง และการดำเนินงานหลัก ๆ ของบริษัท
จากการดำเนินงานตามแผนงานด้านความยั่งยืนของเนสท์เล่ ในประเทศไทย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในทุกด้าน อาทิ 95% ของบรรจุภัณฑ์เนสท์เล่ประเทศไทย ได้รับการออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ มีการใช้พลังงานทดแทนในกระบวนการผลิต และได้มีการใช้เมล็ดกาแฟ ที่มีการจัดหาอย่างยั่งยืน 100%
ในปีนี้ เนสท์เล่จะดำเนิน 2 โครงการใหม่เพื่อช่วยให้ก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero ซึ่งโครงการแรกเป็นการต่อยอดความสําเร็จของโครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำที่อยุธยา โดยขยายไปสู่โครงการใหม่ในการพิทักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำหนองทุ่งทองในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำของโรงเรียนและชุมชนโดยรอบพื้นที่ชุ่มน้ำริมแม่น้ำตาปี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานสุราษฎร์ธานี ที่ใช้ผลิตน้ำดื่มของเนสท์เล่
8/3/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 8 มีนาคม 2566 )