ศุภาลัย โชว์ผลงานปี 2565 คว้ายอดขาย 32,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เทียบกับปี 2564 วางแผนธุรกิจปี 2566 ลุยเปิดใหม่ทั่วประเทศ 37 โครงการ มูลค่า 41,000 ล้านบาท ตั้งเป้าทำยอดขายนิวไฮ 36,000 ล้านบาท มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมการออกแบบบ้านใหม่ นวัตกรรมการให้บริการลูกค้า ควบคู่กับการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบด้าน
วันที่ 23 มกราคม 2566 ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2565 ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ เริ่มฟื้นตัว มาตรการรัฐลดค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ และมาตรการผ่อนคลาย LTV ทำให้เกิดการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค
แนวโน้มปี 2566 คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง กำลังซื้อจากต่างชาติจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมทั้งมีปัจจัยบวกจากการต่อลดค่าโอนจาก 2% เหลือ 1% และลดค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ส่งผลให้เป็นปีที่ดีแม้จะมีเรื่องภาวะเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม
ล่าสุด บริษัทขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ออสเตรเลีย (ลงทุนแล้ว 12 โครงการ มูลค่า 52,600 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนรวมของศุภาลัย 9,748 ล้านบาท) มีการเติบโตเป็นที่น่าพอใจมาก
นอกจากนี้ยังมีการลงทุนธุรกิจอื่น ๆ เช่น Resort Housing ที่โครงการศุภาลัย ซีนิค เบย์ พูล วิลล่า ภูเก็ต, Rental Office ที่โครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร, Serviced Condo ในหลายโครงการ Home Office ที่โครงการศุภาลัยแกรนด์ เอสเซ้นส์ @ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ Community Mall/Market ในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ และ Co-Working แบรนด์ MEET & CO ที่อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ เป็นต้น
ด้านนวัตกรรมการออกแบบที่อยู่อาศัย มีการดีไซน์แบบบ้านซีรีส์ใหม่ อาทิ Romantic Charm และ Wellness Residence เดินหน้าพัฒนาโครงการแนวราบราคา 10-30 ล้านบาทเพิ่มมากขึ้น พร้อมเปิดขายทั่วประเทศทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด เจาะลูกค้าระดับบน
ที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวแบรนด์ เอเลแกนซ์ ได้แก่ ศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี 121 แบบบ้านเดี่ยวใหม่ล่าสุด 3 แบบ 3 สไตล์ ระดับลักเซอรี่ ราคาเริ่มต้น 20-30 ล้านบาท ทำเลแรกบนถนนบรมราชชนนี และศุภาลัย เอเลแกนซ์ พหลโยธิน 50 บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น ในสไตล์ Modern Metro เริ่มต้น 17.99 ล้านบาท ทำเลถนนเทพรักษ์
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปี 2565 บริษัท ทำผลงานได้ประสบความสำเร็จ มียอดขายทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 28,000 ล้านบาท ทำได้จริง 32,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ทำได้ 24,069 ล้านบาท
ปี 2565 มีการเปิดตัวโครงการใหม่ 31 โครงการ มูลค่ารวม 37,800 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนวราบ 28 โครงการ (กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 10 โครงการ, ภูมิภาค 18 โครงการ) และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ (กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 2 โครงการ, ภูมิภาค 1 โครงการ) จากความสำเร็จด้านยอดขายมีผลอันเนื่องมาจากบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง สามารถเปิดตัวโครงการใหม่ในแต่ละจังหวัดโดยมีการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี สินค้ามีความหลากหลาย และตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับแผนธุรกิจปี 2566 บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 36,000 ล้านบาท เป้ารายได้ 36,000 ล้านบาท วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 37 โครงการ แบ่งเป็นบ้านแนวราบ 34 โครงการ มูลค่า 32,700 ล้านบาท คอนโดฯ 3 โครงการ มูลค่า 8,300 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวม 41,000 ล้านบาท โดยตั้งงบจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท
ปีนี้บริษัทมุ่งเน้นสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ด้วยความมั่นคง และยั่งยืน ปัจจุบันศุภาลัยพัฒนาโครงการ 28 จังหวัด ในปี 2566 เสริมความแข็งแกร่งพัฒนาโครงการใหม่ใน 5 จังหวัดใหม่ ได้แก่ ลำปาง ลำพูน นครปฐม ราชบุรี และจันทบุรี
นายไตรเตชะกล่าวต่อว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2566 ศุภาลัยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อการให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ เช่น Supalai Sabai แอปที่ช่วยให้ลูกบ้านศุภาลัยใช้ชีวิตในบ้านได้สบายยิ่งขึ้น ทั้งการจ่ายบิล แจ้งซ่อม สิทธิพิเศษ อัพเดตทุกข่าวสาร เป็นต้น
Supalai Privilege นำเสนอสิทธิพิเศษใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกบ้าน สามารถใช้บริการตกแต่ง ซ่อมแซม ที่อยู่อาศัยให้ใช้งานได้ยาวนาน รวมทั้งมอบสิทธิพิเศษเกี่ยวกับสุขภาพให้ลูกบ้าน เป็นต้น
Supalai Care บริการให้คำแนะนำลูกค้าสำหรับการใช้งานที่ถูกต้องในบ้านและคอนโดมิเนียม การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาทั้งในช่วงรับประกันและหลังหมดประกัน เป็นต้น นอกจากนี้ ศุภาลัยผนึกพันธมิตรธุรกิจ เช่น เอสซีจี ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, ติดตั้งโซลาร์รูฟในโครงการของศุภาลัย ร่วมกับธนาคารกสิกรไทยนำร่องโครงการแรกที่ ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ รังสิต คลอง 2, ร่วมกับทรู ดิจิทัล ติดตั้ง Smart Residence 40 โครงการทั่วประเทศ และร่วมกับชาร์จ ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า ติดตั้ง EV Charger เป็นต้น นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานก่อสร้างอาคารสูง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2566 ขับเคลื่อนนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียวบ้านและคอนโดมิเนียมศุภาลัย คัดสรรวัสดุการก่อสร้างเน้นประหยัดพลังงาน ลดความร้อน ลดการใช้น้ำ ลดขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสานต่อโครงการ Waste Management ในกระบวนการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เช่น เลือกใช้ท่อที่ตัดพอดีกับความยาวที่ใช้จริง การเปลี่ยนพาเลทไม้ที่ใช้ขนส่งอิฐมวลเบาให้เป็นพาเลทพลาสติก ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น การกำหนดขนาดของลูกปูนในการทดสอบกำลังรับแรงอัดของคอนกรีตให้มีขนาดที่เหมาะสม แต่ยังคงประสิทธิภาพเดิมไว้ได้ กิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล กิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล ตลอดจนการนำเศษวัสดุเพื่อกลับมาใช้ใหม่ อย่างเช่น สายรัดวัสดุก่อสร้างนำไปสานเป็นตะกร้า หรือเศษอิฐมวลเบานำไปทำเป็นกระถางต้นไม้ เพื่อลดปริมาณความสูญเสียของวัสดุก่อสร้าง และสามารถจัดการกับเศษวัสดุก่อสร้างให้เกิดมูลค่า และประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ยังการบริหารจัดการของเสียอย่างยั่งยืน โดยจัดวางถังขยะภายในโครงการก่อสร้าง ซึ่งมีอยู่ 9 ประเภท ได้แก่ เศษกระดาษ กระป๋อง เศษโฟม ขวดแก้ว ขยะอันตราย ขยะเปียก ขยะติดเชื้อ ขยะพลาสติก และฝาขวดพลาสติก เพื่อคัดแยกขยะเหลือใช้อย่างเป็นระบบ อีกทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการก่อสร้าง เช่น ข้อต่อท่อระบายน้ำ 4 ทาง เพื่อลดจำนวนข้อต่อท่อระบายน้ำเสียให้น้อยลง ลดระยะเวลาในการทำงาน ลดช่องท่องานระบบสุขาภิบาลให้เล็กลง และเพิ่มพื้นที่ภายในห้องน้ำของลูกค้าให้กว้างมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาระบบสีรองพื้นและสีทับหน้า Direct to Metal รูปแบบใหม่ ลดเวลาในการทำงานมีประสิทธิภาพการกันสนิม และยังมีนวัตกรรมข้อต่อท่อระบบดับเพลิง เพื่อลดจำนวนข้อต่อท่อระบบดับเพลิง ลดการเชื่อม ลดระยะเวลาในการทำงาน ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการปลูกต้นไม้อย่างยั่งยืนเพื่อคืนธรรมชาติสู่สังคมนับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บริษัทฯให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
23/1/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 23 มกราคม 2566 )