ทิ้งทวนไตรมาส 2/66 แสนสิริปลื้ม 98 ไวร์เลส ถนนวิทยุ ทุบสถิตินิวไฮตารางเมตรละ 1 ล้านบาท ส่อง 11 คอนโดหรูราคาพุ่งไม่หยุด ปี66 ขึ้น 7.9% จากเดิมตารางเมตรละ 3-7 แสน เพิ่มเป็น 3.3-9 แสนบาท จุดขายทำเลแรร์ไอเทม บวกสัญญาซื้อขายแบบฟรีโฮลด์ (โอนกรรมสิทธิ์) จับตาทำเลใหม่ตารางเมตรละล้าน โซนถนนวิทยุ-สารสิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วงการคอนโดมิเนียมในเมืองไทยสิ้นสุดการรอคอยในการผลักดันราคาซื้อขายตารางเมตรละ 1 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว
โดยก่อนหน้านี้เป็นที่จับตามองว่าโครงการที่มีโอกาสสูงจะทำสถิติเป็นรายแรกน่าจะเป็นกลุ่มแสนสิริ เจ้าของโครงการซูเปอร์ลักเซอรี่แบรนด์ 98 ไวร์เลสทำเลถนนวิทยุ ติดกับสถานทูตสหรัฐอเมริกา หรือจะเป็นโครงการวัน แบงค็อก โดยผู้พัฒนาคือเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้ง ของกลุ่มสิริวัฒนภักดี ที่ได้สัญญาเช่าระยะยาวที่ดินแปลงใหญ่ขนาด 100 ไร่ ทำเลหัวมุมถนนวิทยุตัดถนนพระราม 4
98 ไวร์เลสนิวไฮ 1 ล้าน/ตร.ม.
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ว่า คอนโดมิเนียมแฟลกชิปของแสนสิริยังคงรักษาแชมป์มีราคาขายสูงสุด นับตั้งแต่เปิดขายในปี 2559 ซึ่งขณะนั้นมีราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 5.5-5.8 แสนบาท ล่าสุดในปี 2566 ราคาขายสูงสุดของห้องชุดรีเซลในโครงการ 98 ไวร์เลส ถนนวิทยุ มีการซื้อขายเปลี่ยนมืออยู่ที่ 1 ล้านบาท/ตารางเมตร ซึ่งนับเป็นสถิตินิวไฮอีกครั้งของตลาดคอนโดฯ เมืองไทย
ปัจจุบันสถานะโครงการ 98 ไวร์เลส ทางแสนสิริสามารถปิดการขายตั้งแต่ปี 2563 โดยราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรจากวันแรกที่เปิดขายอยู่ที่ 5.8 แสนบาท/ตารางเมตร ความเคลื่อนไหวราคา ณ ปี 2566 ปรับตัวสูงขึ้น 40% เทียบกับปี 2559 มาอยู่ที่ราคาเฉลี่ย 9 แสนบาท/ตารางเมตร และคิดเป็นอัตราการเติบโตของราคา 25% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีราคาเฉลี่ย 7 แสนบาท/ตารางเมตร
ขณะเดียวกัน ราคาที่ดินบนทำเลถนนวิทยุในทุกวันนี้ดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ราคาเสนอขายตารางวาละ 5 ล้านบาท ที่สำคัญไม่สามารถหาที่ดินฟรีโฮลด์บนถนนวิทยุได้อีกแล้ว
77 ยูนิตใช้เวลาพัฒนา 7 ปี
นายอุทัยกล่าวว่า คอนโดฯ 98 Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) นับเป็นโครงการแฟลกชิปคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักเซอรี่ของแสนสิริ หนึ่งในโครงการที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้เวลาพัฒนานานถึง 7 ปีเต็ม สามารถสร้างสถิติห้องชุดราคานิวไฮให้กับวงการตั้งแต่วันแรกที่เปิดขายจนถึงปัจจุบัน ตอกย้ำภาพลักษณ์ที่แสนสิริเป็นเจ้าตลาดเซ็กเมนต์ซูเปอร์ลักเซอรี่ตัวจริงของไทย
รายละเอียด 98 ไวร์เลส ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ปรัชญา The Best Comes as Standard กับกลยุทธ์สร้างเสร็จก่อนขาย และมีลูกค้าจองล่วงหน้าก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ 50% กับห้องชุดจำนวนจำกัดเพียง 77 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 8,700 ล้านบาท ความสำเร็จของโครงการมาจากความเชื่อมั่นและการยอมรับจากลูกค้าระดับลักเซอรี่ที่มีต่อแบรนด์และมาตรฐานคุณภาพโครงการแสนสิริ ตลอดจนการดูแลรักษาสภาพโครงการให้เสมือนวันแรก และเป็นที่ดินแบบฟรีโฮลด์ผืนสุดท้ายบนถนนวิทยุที่หาไม่ได้อีกแล้ว
ตลาดซูเปอร์ลักเซอรี่ต้องใช้เวลาพัฒนานานกว่าปกติ เพราะต้องใส่ใจทุกรายละเอียดจริง ๆ เพื่อให้เข้าถึงความต้องการและพฤติกรรมการอยู่อาศัยของลูกค้าอย่างแท้จริง แน่นอนว่าแสนสิริมีแผนลงทุนสร้างคอนโดฯ แฟลกชิประดับซูเปอร์ลักเซอรี่เพิ่มเติมอีกในอนาคต
แสนสิริบุกต่อทำเล สารสิน
ผู้สื่อข่าว ประชาชาติธุรกิจ รายงานเพิ่มเติมว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวในการซื้อขายที่ดินบนทำเลซูเปอร์ไพรมของกรุงเทพฯ พบว่า เมื่อกลางปี 2563 แสนสิริแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการจัดซื้อที่ดินขนาด 1 ไร่ (400 ตารางวา) ราคา 3.9 ล้านบาท/ตารางวา หรือไร่ละ 1,560 ล้านบาท บนถนนสารสิน ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงที่สุดอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ดังนั้น จึงคาดหมายได้ว่าที่ดินแปลงนี้ แสนสิริเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ และวางเป้าหมายให้เป็นโครงการที่จะเป็น talk of town อีกครั้ง ในด้านสร้างการจดจำว่าเป็นคอนโดฯ ที่มีราคาขายตารางเมตรละ 1 ล้านบาทขึ้นไป
3 ทำเลดัง วิทยุ-สุขุมวิท-ริมน้ำ
ทั้งนี้ ตลาดคอนโดฯ ซูเปอร์ลักเซอรี่ในปัจจุบันมีจุดแบ่งอยู่ที่สถานการณ์โควิด ที่สร้างผลกระทบในไทยและทั่วโลก ทำให้ห้องชุดราคาแพงที่เป็นโครงการพัฒนาใหม่ ยังจำกัดราคาไม่เกิน 2.5-3 แสนบาท/ตารางเมตร ในขณะที่มีดีมานด์ต้องการซื้ออยู่ตลอดเวลาจากลูกค้าที่มีศักยภาพสูง
ดังนั้น ทางเลือกจึงเป็นการหันมาเทรดห้องชุดรีเซลแทน ทำให้ราคาคอนโดฯ ซูเปอร์ลักเซอรี่ใน 3 ทำเลหลัก ได้แก่ โซนถนนวิทยุ ถนนสุขุมวิท ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยังมีสภาพคล่องในการซื้อขายเปลี่ยนมืออยู่ตลอดเวลา จุดโฟกัสที่จะทำให้ราคารีเซลดีดตัวได้แรงอย่างสม่ำเสมอ มาจากการเป็นห้องชุดฟรีโฮลด์ หรือห้องชุดที่มีการซื้อขายแบบโอนกรรมสิทธิ์นั่นเอง
จากการสำรวจความเคลื่อนไหวด้านราคาซื้อขายที่เป็นราคาเฉลี่ยในเทอม บาท/ตารางเมตร ของตลาดรีเซลห้องชุดลักเซอรี่ใน 3 ทำเลดังกล่าว พบว่ามีอย่างน้อย 12 โครงการ ที่มีสภาพคล่องอยู่ตลอดเวลา (ดูกราฟิกประกอบ) โดยภาพรวมปี 2566 มีอัตราเติบโตของราคา 7-8% เทียบกับปี 2565 นิยามคือเป็นห้องชุดลักเซอรี่แบบฟรีโฮลด์ ที่มีราคาเปิดตัวเริ่มต้นตารางเมตรละ 3 แสนบาทขึ้นไป ที่สำคัญมีซัพพลายเหลือขายเพียง 19%
11 แบรนด์ราคาพุ่ง 7.9%
รายละเอียดประกอบด้วย 1.โครงการ 98 ไวร์เลส ของ บมจ.แสนสิริ ราคาเฉลี่ยปี 2565 ตารางเมตรละ 7 แสน ปรับเพิ่มเป็นเฉลี่ย 9 แสนบาท/ตารางเมตรในปี 2566
2.เดอะ เรสซิเดนเซส แอท แมนดาริน โอเรียนทอล แบงค็อก ของ MQDC อยู่ในโครงการไอคอนสยาม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เจริญนคร มีราคาเฉลี่ย 5.5 แสน/ตารางเมตร ในปี 2565 เพิ่มเป็นเฉลี่ย 7 แสนบาท/ตารางเมตร ในปี 2566
3.สโคป หลังสวน ของ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน เฉลี่ย 4.9 แสน ในปี 2565 เพิ่มเป็น 6 แสน/ตารางเมตร ในปี 2566 4.เดอะริทช์ คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส แบงค็อก ของกลุ่มคิง เพาเวอร์ เฉลี่ย 4.8 แสนบาท ในปี 2565 เพิ่มเป็น 5.5 แสนบาท/ตารางเมตร ในปี 2566 5.บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ แบงค็อก ของ บมจ.เนอวานา ไดอิ ปี 2565 เฉลี่ย 4 แสน เพิ่มเป็น 4.3 แสนบาท/ตารางเมตรในปี 2566
6.คูน บาย ยู ของ บมจ.แสนสิริ ปี 2565 เฉลี่ย 3.2 แสนบาท เพิ่มเป็น 3.8 แสนบาท/ตารางเมตร ในปี 2566 7.ต้นสน วัน ของ บมจ.แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป ปี 2565 เฉลี่ย 3.5 แสน เพิ่มเป็น 3.7 แสนบาท/ตารางเมตร ในปี 2566 8.เดอะ แบงค็อก ทองหล่อ ของ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปี 2565 เฉลี่ย 3.1 แสน เพิ่มเป็น 3.7 แสนบาท/ตารางเมตร ในปี 2566
9.มิวนิค หลังสวน ของ บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ปี 2565 เฉลี่ย 3.4 แสน เพิ่มเป็น 3.5 แสนบาท/ตารางเมตร ในปี 2566 10. 28 ชิดลม ของ บมจ.เอสซี แอสเสทฯ ปี 2565 เฉลี่ย 3.2 แสน เพิ่มเป็น 3.5 แสนบาท/ตารางเมตร ในปี 2566 และ 11.ESSE สุขุมวิท 36 ของ บมจ.สิงห์ เอสเตท ปี 2565 เฉลี่ย 3 แสน เพิ่มเป็น 3.3 แสนบาท/ตารางเมตร ในปี 2566
17/6/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 17 มิถุนายน 2566 )