เซ็นทรัลเวิลด์ ย้ำ Global Destination ต้อนรับแบรนด์ดังทั่วโลก เปิดกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง ปูพรมอีเวนต์ระดับประเทศ-ระดับโลกส่งท้ายปี ปลุกเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวไทย
วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า เซ็นทรัลเวิลด์ ถือเป็น The Real Global Landmark ที่ดึงดูดแบรนด์ดังต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยความเป็น Lifestyle Brand ที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม เข้าถึงทุก Target หลากหลายระดับ ที่ผ่านมา เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นจุดเริ่มต้นของหลายแบรนด์ดังที่เปิดสาขาแรกในไทย และได้ขยายสาขาไปทั่วประเทศกับเซ็นทรัลพัฒนาด้วย Ecosystem ที่แข็งแกร่ง
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา
ผู้ช่วยกรรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN รวมทั้งแบรนด์ทั่วโลกที่เปิดสาขาแรกในไทยที่เซ็นทรัลเวิลด์ อาทิ Uniqlo, Haidilao, Tsuta, Saemauel Sikdang, Sushiro, Kam Roast, Shake Shack, Maks noodle, Yakiniku Like Flagship Store, Canton Paradise, Nitori, Lululemon, On-running, HOKA, Marimekko, Kate Spade, Marc Jacobs, MLB, Pandora, H&M Home เป็นต้น
เนื่องจากจุดแข็งที่สะท้อนความเป็นเดสติเนชั่นระดับโลกของเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ประกอบด้วย
1) Location ดี Traffic ดี ที่ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเทพฯ และราชประสงค์เป็นย่านการค้าและท่องเที่ยวที่สำคัญ
2) ทีม B2B Collaboration แข็งแกร่งด้วย 360degree support ทำงานร่วมกันแบบ Tenant Centric พร้อมนำเสนอโซลูชั่นที่ครบวงจร ด้วยเครื่องมือ ซีอาร์เอ็ม เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า
3) Top of Mind ในใจ Partners แบรนด์ดังระดับโลก รวมแบรนด์ดังที่มารวมตัวกันกว่า 3,000 แบรนด์ และทำให้เซ็นทรัลเวิลด์เป็น No.1 Food destination รวมร้านดังไว้กว่า 500 ร้าน ทั้งร้านแรกในไทย ร้านมิชลินสตาร์ และ Flagship Stores อาทิ
Shake Shack, Canton Paradise, Maks noodle, Yakiniku Like Flagship Store, Tsuta เป็นต้น, No.1 Flagship stores อาทิ Lululemon สปอร์ตแวร์ดัง แฟล็กชิพใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย-แปซิฟิก, Adidas แบรนด์เซ็นเตอร์ใหญ่ที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก, Nike ร้านรูปแบบใหม่ใหญ่ที่สุดในไทย นอกจากนี้ ยังมี Casetify แบรนด์เคสมือถือชื่อดังแห่งแรกแห่งเดียวในไทย
ล่าสุด NITORI ร้านเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น และปัจจุบันมีมากกว่า 900 สาขาใน 5 ประเทศและภูมิภาค ได้เลือก เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อปักหมุดเปิด NITORI สาขาแรกในประเทศไทย และจะขยายสาขาต่อไปกับเซ็นทรัลพัฒนา ที่เซ็นทรัลเวสต์เกต ช่วงเดือนธันวาคมนี้
นอกจากนี้ เซ็นทรัลเวิลด์ยังเป็น No.1 World-Class Event เป็นแลนด์มาร์กการจัดงานทั้งในระดับประเทศและระดับโลก และเป็น Festive Landmark Destination, centralwOrld Bangkok Countdown ที่ยกระดับ Countdown ไทยให้มีชื่อเสียงระดับโลก, งาน Thailands Pride Celebration งานของเล่นระดับโลก Thailand Toy Expo งาน Japan Expo เป็นต้น
ดร.ณัฐกิตติ์ ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบัน Traffic Recovery ของเซ็นทรัลเวิลด์จากปี 2019 เติบโตเฉลี่ย 120% เฉลี่ย Traffic ต่อวัน 150,000 คน และสูงขึ้นไปถึง 180,000-200,000 คนต่อวัน หากมี Event ใหญ่ภายในศูนย์ อาทิ งานโครงการหลวงที่ผ่านมา
โดยลูกค้าที่มาใช้บริการแบ่งเป็น คนไทย 65% และต่างชาติ 35% นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการมากที่สุดคือ Southeast Asia ได้แก่ จีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย และตะวันออกกลาง โดย 83% เป็นกลุ่ม FIT (Free Independent Traveler)
สำหรับครึ่งปีหลัง เซ็นทรัลเวิลด์ มีแผนจะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ด้วยกลยุทธ์ The Magnitude of World Phenomenon ตอกย้ำการเป็นเบอร์ The Real Global Landmark ด้วย 1) การสร้างปรากฏการณ์อีเวนต์ Signature ระดับประเทศ-ระดับโลกที่ทุกคนต้องมา เป็น First-time ever ไม่เคยเกิดขึ้นที่ใดมาก่อน อาทิ
การเปิดตัวครั้งแรกในไทยของ POP MART ผู้นำด้านพ็อปคัลเจอร์จากจีน, งานแสดงกันดั้มสุดยิ่งใหญ่ GUNDAM Docks at THAILAND พร้อมกันดั้มสูงกว่า 6 เมตร, งาน Thailand Coffee Hub, เทศกาลดนตรี Melody of Life, งาน YWCA จำหน่ายสินค้าโดยร้านค้าจากสถานทูตในไทย, เทศกาลเปิดไฟต้นคริสต์มาส และ centralwOrld Bangkok Countdown ส่งท้ายปีสุดยิ่งใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยไตรมาสสุดท้ายของปีให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
2) การต้อนรับแบรนด์ระดับโลกที่จะมาเปิดตัวไม่ต่ำกว่า 10 แบรนด์ดังทั้งอาหาร แฟชั่น กีฬาและอุปกรณ์กีฬา ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย แบรนด์ที่ปรับโฉมคอนเซ็ปต์ใหม่ และ Flagship store in Thailand ตอกย้ำการเป็น Global destination ที่ต้อนรับแบรนด์ดังทั่วโลก และ 3) เตรียมพบเทศกาลแห่งปีที่ไม่เคยมีมาก่อน กับการ Collaboration ครั้งยิ่งใหญ่กับแบรนด์ระดับโลก
31/8/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 31 สิงหาคม 2566 )
