คาดการณ์กันว่า มูลค่าการบริโภคภายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีโอกาสเติบโตสูงถึง 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในอีกหนึ่งทศวรรษข้างหน้า จากจำนวนประชากรชาวเอเชียกว่า 1,000 ล้านคนที่จะเข้าสู่สถานะชนชั้นกลางภายในปี 2573
Hilton (NYSE : HLT) หรือ ฮิลตัน เจ้าของแบรนด์ระดับโลกที่มีโรงแรมมากกว่า 7,300 แห่ง และห้องพักกว่า 1.1 ล้านห้อง ภายใต้ 22 แบรนด์ใน 123 ประเทศ มองเห็นถึงผลลัพธ์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และทางเลือกในการเข้าพักที่เน้นความคุ้มค่าในกลุ่มชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น
จึงจัดงาน Hilton Garden Inn Roadshow ที่กรุงเทพฯ นำเสนอแผนกลยุทธ์สำหรับการขยายธุรกิจของแบรนด์ ฮิลตัน การ์เดน อินน์ (Hilton Garden Inn) ในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยนำเสนอการทำธุรกิจในแบบแฟรนไชส์ และการทำข้อตกลงร่วมเพื่อบริหารโรงแรม และเน้นย้ำถึงความสำคัญในการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่เจ้าของกิจการ พร้อมแนะนำต้นแบบห้องพักชุดใหม่สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของแบรนด์ ฮิลตัน การ์เดน อินน์ 1 ใน 22 แบรนด์โรงแรมชั้นนำของฮิลตัน กับนักพัฒนาและเจ้าของกิจการจากประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 100 ราย
กาย ฟิลลิปส์ รองประธานอาวุโสด้านการพัฒนา ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ยกเว้นประเทศจีน) ฮิลตัน ให้ข้อมูลว่า แบรนด์ ฮิลตัน การ์เดน อินน์ เป็นแบรนด์แรก ๆ ของฮิลตันที่ได้รับเลือกจากนักลงทุนสำหรับการเปิดโรงแรมในตลาดรอง หรือตลาดลำดับ 3
ซึ่งกลุ่มเจ้าของกิจการหลายรายได้แสดงความสนใจต่อการลงทุนในแบรนด์ฮิลตัน การ์เดน อินน์ อาทิ ต้นแบบห้องพัก ข้อเสนอที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการได้ และความยืดหยุ่นในการทำข้อตกลงร่วมธุรกิจทั้งในแบบแฟรนไชส์ และการร่วมบริหารโรงแรม
รวมถึงศักยภาพของแบรนด์ที่จะได้ประโยชน์จากการบริหารงานด้านการขาย และการตลาดของกลุ่มฮิลตัน และการปรับตัวของแบรนด์ให้เข้ากับตลาดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
โดยองค์ประกอบหลักของแบรนด์ได้ถูกสร้างขึ้นจากการทำวิจัยในกลุ่มลูกค้า และศึกษาข้อมูลในเชิงลึก แผนการทำงานของแบรนด์ที่เน้นการให้ความสำคัญกับภูมิภาค โดยเฉพาะการให้คุณค่าในความเป็นท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละประเทศ
ขณะที่ บิลล์ บาร์เนต ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมการบริการ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ C9 Hotelworks บอกว่า ประเทศไทยยังเติบโตได้ดีในฐานะจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวในระดับแนวหน้าของภูมิภาค กับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มีจำนวนเกือบเท่ากับจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดของปีที่ผ่านมา
ประเทศไทยเหมาะสำหรับแบรนด์ฮิลตัน การ์เดน อินน์ และได้รับส่วนแบ่งในตลาดที่ขยายตัว ด้วยเหตุผลจากปัจจัยด้านต้นทุนที่ไม่สูงนัก และยังมีโอกาสสำหรับการสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงตลาดได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับแบรนด์ ฮิลตัน การ์เดน อินน์ นั้น ปัจจุบันมีโรงแรมเปิดให้บริการแล้วรวม 75 แห่ง ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และมีโรงแรมที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาอีกกว่า 130 แห่ง ในปี 2566 นี้ โดยทางแบรนด์ได้ให้การต้อนรับแขกผู้เข้าพักแล้วเกือบ 2 ล้านคนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ตั้งแต่ปี 2564 ฮิลตัน การ์เดน อินน์เข้าไปเปิดตัวในตลาดใหม่ และเมืองสำคัญในประเทศไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย โดยในปี 2566 นี้จะมีการเปิดตัวโรงแรม ฮิลตัน การ์เดน อินน์ ดานัง ประเทศเวียดนาม
สำหรับประเทศไทยจะเปิดให้บริการฮิลตัน การ์เดน อินน์ 4 แห่ง ได้แก่ ฮิลตัน การ์เดน อินน์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ (ถนนเจริญนคร), ฮิลตัน การ์เดน อินน์ อ่าวนาง กระบี่, ฮิลตัน การ์เดน อินน์ รามอินทรา กรุงเทพฯ และฮิลตัน การ์เดน อินน์ พัทยา ภายในปี 2567
24/8/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 24 สิงหาคม 2566 )