เซ็นทรัล รีเทล (CRC) ส่ง GO Wholesale ชิงตลาดค้าส่งอาหาร ชูโพซิชั่นวันสต็อปโซลูชั่น พร้อมขนบริการพิเศษตอบโจทย์ผู้ประกอบการร้านอาหาร ทั้งตัดแต่งวัตถุดิบ อบรม-เวิร์กช็อป จนถึงรีโนเวตร้านค้า ประกาศสปีดเปิดเดือนละสาขา ปักธงสาขาแรกที่ย่านศรีนครินทร์ ตามต่อด้วย เชียงใหม่ พัทยา อมตะนคร ก่อนสิ้นปี วางเป้า 5 ปี ปูพรม 50 สาขา สร้างรายได้ 7 หมื่นล้าน
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า ธุรกิจค้าส่งเป็นเซ็กเมนต์ที่มีศักยภาพสูง ด้วยขนาดตลาดที่อาจสูงถึง 3 ล้านล้านบาท เมื่อคำนวณจากรายได้ของผู้เล่นรายปัจจุบัน และจำนวนฐานลูกค้าผู้ประกอบการ โดยเฉพาะด้านอาหารที่มีหลากหลายและเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจจัดเลี้ยง (โฮเรกา) ไปจนถึงร้านอาหารตามสั่ง และยังมีดีมานด์จากธุรกิจอื่น ๆ อย่าง โรงพยาบาล โรงงาน ฯลฯ อีกด้วย และคาดว่าเฉพาะการจับจ่ายเฉพาะในกลุ่มอาหารนั้นสูงถึง 2.6 ล้านล้านบาท
ซีอาร์ซี จึงเปิดตัว GO Wholesale ธุรกิจค้าส่งด้านอาหาร ภายใต้การบริหารของบริษัทลูก คือ เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ พร้อมเป้าหมายภายใน 5 ปี หรือภายในปี 2571 จะสร้างรายได้ 6-7 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 25-26% ของรายได้ซีอาร์ซี และปักธง 40-50 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงหากมีโอกาสจะรุกไปยังประเทศเวียดนามด้วย โดยวางโพซิชั่นเป็นวันสต็อปโซลูชั่นด้านค้าส่ง ด้วยการเสริมจุดเด่นด้านบริการที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการ และไปไกลกว่าที่คู่แข่งมี เพื่อชิงความได้เปรียบในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นบริการตัด-แต่ง-ปรุงวัตถุดิบตามสั่ง หรือบริการให้คำปรึกษา-เวิร์กช็อป ไปจนถึงการจัดหาวัสดุอุปกรณ์สำหรับรีโนเวตร้าน รวมถึงการรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทุกธนาคาร และการส่งสินค้าให้ถึงรถ หรือส่งถึงร้าน ตอบโจทย์ความสะดวกให้ผู้ประกอบการ เป็นต้น
นอกจากนี้ ต่อยอดทรัพยากรและโนว์ฮาวของเครือเซ็นทรัล ไม่ว่าจะเป็นที่ดินซึ่งปัจจุบันมีสถานที่พอสำหรับการขยายกว่า 70 สาขาแล้ว และระบบสมาชิก The 1 ที่สามารถสะสม-แลกแต้มเป็นส่วนลด-สิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้ ช่วยจูงใจลูกค้าทั้งผู้ประกอบการและลูกค้าทั่วไป
แม้เราจะเน้นลูกค้าผู้ประกอบการ แต่ก็เปิดรับลูกค้าทั่วไปด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มสามารถสมัครได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และซื้อสินค้าได้ทุกชนิด แต่สมาชิกผู้ประกอบการจะมีบริการเสริม เช่น สามารถสั่งสินค้าผ่านทีมเทเลเซลส์ การติดต่อแนะนำสินค้าโปรโมชั่นผ่านโทรศัพท์ ขณะที่สมาชิกทั่วไปจะได้รับข้อมูลผ่านไปรษณี เป็นต้น
พร้อมกันนี้จะเร่งสปีดขยายสาขาในอัตราประมาณ 1 สาขา/เดือน ด้วยงบฯลงทุน 300-400 ล้านบาท/สาขา เน้นทำเลที่มีผู้ประกอบการด้านอาหารและครัวเรือนหนาแน่นในระยะที่สามารถเดินทางได้ใน 30 นาที หรือนานกว่าหากเป็นในต่างจังหวัด แต่ละสาขาจะมีพื้นที่ประมาณ 7,000-8,000 ตร.ม มีไฮไลต์เป็นอาหารสดที่จะใช้พื้นที่ถึง 40% ของพื้นที่สาขา ส่วนที่เหลือจะเป็นของแห้งและโซนศูนย์อบรม-เวิร์กช็อป
โดยจะประเดิมปักธงสาขาแรกที่ถนนศรีนครินทร์ ในพื้นที่ติดกับไทวัสดุ มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ และจะรุกต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ในเดือนพฤศจิกายน ต่อด้วย พัทยา และนิคมอมตะนคร ในเดือนธันวาคม หรือรวม 4 สาขาภายในสิ้นปี ก่อนจะขยายสาขาต่อเนื่องตามแผน โดยเน้นใช้ที่ดินของเครือเป็นหลัก และคาดว่าแต่ละสาขาจะสามารถมีฐานสมาชิก 10,000-20,000 คน และใช้เวลาคืนทุนประมาณ 24 เดือน
14/9/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 14 กันยายน 2566 )