นายมาริส อโบลตินส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ ศูนย์การค้าเมกาบางนา แต่งตั้ง มาริส อโบลตินส์ นั่งแท่นตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ ลุยโครงการเมกาซิตี้ เต็มสูบ พร้อมกางแผนปี 2567 ทุ่มงบการตลาด 200 ล้านบาท อัดแคมเปญ-โปรโมชั่นตลอดทั้งปี ตลอดจนเดินหน้าเสริมแกร่งศูนย์การค้า ผ่านการเพิ่มแบรนด์ใหม่ เพื่อหวังขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์
วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ศูนย์การค้าเมกาบางนา ประกาศแต่งตั้ง นายมาริส อโบลตินส์ นั่งแท่นตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้คนใหม่ พร้อมทีมงานมืออาชีพที่จะมาร่วมกันขับเคลื่อนและต่อยอดการเป็น YOUR EVERYDAY MEETING PLACE ของศูนย์การค้าเมกาบางนา
นายมาริส อโบลตินส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ กล่าวว่า การได้เข้ามาร่วมงานกับเมกาบางนาครั้งนี้ นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะนำประสบการณ์จากการทำงานในธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์กว่า 15 ปี มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
เพิ่มแบรนด์ใหม่-ดึงลูกค้า
โดยแนวทางการบริหารศูนย์การค้าเมกาบางนาในปี 2567 นี้ บริษัทฯ จะเน้นชูจุดแข็งในด้าน TENANT MIX ที่มีความหลากหลายครบครันของร้านค้าในทุก CATEGORY ผ่านการดึงแบรนด์ที่ตอบโจทย์กับลูกค้าของเมกาบางนาเข้ามาเพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเดิมและเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่
ซึ่งในปีนี้มีแบรนด์ที่เข้ามาเปิดสาขาแล้ว อาทิ NIKE FLAGSHIP STORE, H&M HOME, FAMTIME, LA MEOW BBQ & BISTRO และมีแบรนด์ที่กำลังจะมาเปิดในเร็วๆ นี้ อาทิ POP MART , LONGINES, CARE BEAR CAF?, NIKO AND , LONG JOHNS SILVER, BHC CHICKEN, SINDOSEGI และ EASY! BUDDY เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีแผนงานในการดึงร้านค้า แบรนด์ดัง ร้านค้าที่อยู่ในกระแสได้รับความนิยม ร้านอาหาร ศูนย์บริการต่างๆ ที่ครอบคลุมในทุก CATEGORY เพื่อมาเสริมศักยภาพของเมกาบางนาให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันศูนย์การค้าเมกาบางนา มีผู้เข้ามาใช้บริการรวมแล้วกว่า 550 ล้านคน อีกทั้งยังมีอัตราการเช่า 100% โดยผู้เช่าหลักที่เป็นแม็กเน็ตสำคัญ ได้แก่ IKEA, CENTRAL @MEGABANGNA, HOMEPRO, BIG C Extra, MEGA CINEPLEX และมีร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์บริการต่างๆ รวมทั้งหมดกว่า 900 ร้านค้า
ลุยโครงการเมกาซิตี้ เต็มสูบ
นายมาริส กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนของโครงการเมกาซิตี้ ยังมองว่าสามารถพัฒนาได้อีกมาก โดยหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการเมกาซิตี้ คือ การดึงสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนท์ชื่อดังที่เปิดมาแล้ว 70 แห่งทั่วโลก อย่าง TOPGOLF มาเปิดให้บริการเป็นสาขาแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ตลอดจนส่วนต่อขยายของเมกาบางนา การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน รวมถึงการพัฒนาพื้นที่รีเทลเพิ่มเติม ซึ่งจากจุดแข็งของทำเลย่านบางนา-ตราดที่ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จะทำให้ย่านบางนา-ตราด ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการมีโครงการมิกซ์ ยูส ขนาดใหญ่อย่างโครงการเมกาซิตี้ คาดว่าจะสามารถรองรับความต้องการทั้งด้านที่อยู่อาศัยและการบริโภคได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ปัจจุบัน โครงการฯ อยู่ระหว่างการขยายระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งได้มีแนวทางการพัฒนาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อผลักดันให้โครงการเมกาซิตี้ เป็นโครงการมิกซ์ ยูส ที่สมบูรณ์แบบของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก
ยกระดับ LOYALTY PROGRAM
นอกจากแผนงานดังกล่าว บริษัทฯ ก็ยังคงให้ความสำคัญกับ LOYALTY PROGRAM สำหรับสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส ที่ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 360,000 คน อยู่อย่างต่อเนื่อง
โดยในปีนี้ มีแผนงานเพื่อยกระดับสิทธิพิเศษให้กับสมาชิก ภายใต้แนวคิด THE ULTIMATE EXPERIENCE ที่จะมอบประสบการณ์และสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส ที่แตกต่างและเหนือกว่าเดิม โดยจะมุ่งเน้นการให้สิทธิพิเศษที่มากยิ่งขึ้น อาทิ ที่จอดรถพิเศษสำหรับสมาชิกฯ ส่วนลดและบัตรกำนัลที่มากกว่าเดิม
รวมถึงการรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ตรงกับความต้องการ ความชอบ ไลฟ์สไตล์ของสมาชิก โดยจะมีการเปิดตัวโปรแกรมต่างๆ ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้
ปี67 ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท
รวมถึงในเดือนพฤษภาคมนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 12 ปี ของเมกาบางนา บริษัทฯ จึงตั้งใจมอบความพิเศษสำหรับลูกค้าทุกคน เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จร่วมกัน ในแคมเปญ 12th ANNIVERSARY 365 MEGA MOMENTS
โดยเป็นการสานต่อกลยุทธ์ COLLABORATED EXPERIENCE ด้วยการร่วมมือกับศิลปินนักวาดภาพชื่อดัง JIRAYU KOO หรือ คุณจิรายุ คูอมรพัฒนะ ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ ซึ่งจะนำผลงานมาต่อยอดสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้า ตั้งแต่การตกแต่งบรรยากาศของศูนย์การค้า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การจัดทำของสมนาคุณเอ็กซ์คลูซีฟคอลเลคชั่น
ทั้งนี้ นอกจากความร่วมมือดังกล่าวแล้ว ยังได้มอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส ตลอดเดือนพฤษภาคม 2567 เมื่อใช้จ่ายภายในศูนย์ฯ ครบตามเงื่อนไข สามารถแลกรับฟรี ของสมนาคุณจากการออกแบบของ JIRAYU KOO ได้แก่
รับประทานอาหารครบ 3,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ แลกรับฟรี MEGA 12th ANNIVERSARY LANYARD มูลค่า 159 บาท
รับประทานอาหารหรือช้อปครบ 15,000 บาท ขึ้นไปต่อใบเสร็จ แลกรับฟรี MEGA MOMENT SHOPPING SET ประกอบด้วย กระเป๋า 1 ใบ และ เข็มกลัด 1 ชิ้น มูลค่า 599 บาท
รับประทานอาหารหรือช้อปครบ 30,000 บาท ขึ้นไปต่อใบเสร็จ แลกรับฟรี MEGA DIARY BOX SET ประกอบด้วยสมุด 1 เล่ม และ สติ๊กเกอร์ 1 แผ่น มูลค่า 999 บาท
รับประทานอาหารหรือช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ แลกรับฟรี MEGA PUZZLE BOX SET 1 กล่อง บรรจุจิ๊กซอว์ จำนวน 1,000 ชิ้น มูลค่า 1,999 บาท และยังมีสิทธิพิเศษอีกมากมายตลอดทั้งเดือนพฤษภาคมนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับงบการตลาดปี 2567 บริษัทฯ ได้วางงบประมาณไว้ที่ 200 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการจัดแคมเปญทั้ง Seasonal Campaign และ Monthly Campaign มาตั้งแต่เทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน และสงกรานต์ รวมถึงการจัดกิจกรรมสำหรับคอมมูนิตี้ต่างๆ เช่น Mega Pet Day
นายมาริส กล่าวทิ้งท้ายว่า ทิศทางต่อไปจากนี้ เราจะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาในทุกมิติ ทั้งเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ สังคม และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้ภาคการค้าปลีกของไทยโดดเด่นและแตกต่างในระดับโลกต่อไป... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/marketing/news-1555271
2/5/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 2 พฤษภาคม 2567 )