info@icons.co.th 02 810 8892-6 52.15.111.109

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 จ.บึงกาฬ กรมทางหลวงชี้ ปี’67 นี้ ได้ใช้แน่

Infrastructure News / ข่าวหมวดงานสาธารณูปโภค

สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ – บอลิคำไซ) จ.บึงกาฬ กรมทางหลวงอัพเดตการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จ.บึงกาฬ คืบหน้ากว่า 93% เพื่อส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ คาดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2567 นี้

วันที่ 2 สิงหาคม 2567 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ตามที่กรมทางหลวงได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬ ตามนโยบายตามยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ เพื่อเชื่อมระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร้รอยต่อ ในการตอบสนองต่อความต้องการด้านการขนส่งสินค้าและการสัญจรของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยและ สปป.ลาวนั้น

ซึ่งปัจจุบันงานถนนและด่านพรมแดนฝั่งไทย งานถนนและด่านพรมแดนฝั่ง สปป.ลาว ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างดำเนินการงานสะพานข้ามแม่น้ำโขงฝั่งไทยและงานสะพานข้ามแม่น้ำโขงฝั่ง สปป.ลาว โดยโครงการมีผลการดำเนินงานภาพรวมคืบหน้ากว่า 93.71% (ข้อมูลเดือน มิ.ย. 67)

อธิบดีกรมทางหลวงกล่าวต่อไปอีกว่า โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จ.บึงกาฬ มีระยะทางประมาณ 16.340 กิโลเมตร แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 5 ตอน ฝั่งไทย 3 ตอน และฝั่ง สปป.ลาว 2 ตอน ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.บึงกาฬ และเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว

โดยแนวเส้นทางในประเทศไทย มีจุดเริ่มต้นโครงการแยกจากทางหลวงหมายเลข 222 ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อสายสำคัญ ระหว่างจังหวัดสกลนครและจังหวัดบึงกาฬ โดยสามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor-EWEC) ไปยังท่าเรือน้ำลึก ที่เมืองวุงอ่าง และเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ในส่วนแนวเส้นทางฝั่ง สปป.ลาว จะเชื่อมต่อกับถนนหมายเลข 13 ต่อไปยังถนนหมายเลข 8 ซึ่งเป็นเส้นทางจาก สปป.ลาว ไปเมืองวินห์ เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม และเชื่อมต่อไปยังประเทศจีนทางตอนใต้ ผ่านทางหลวงอาเซียนหมายเลข 1 (AH1) ประเทศเวียดนาม

ทั้งนี้ เมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่ได้พัฒนาไว้แล้วของแต่ละประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด เกิดการเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือที่สำคัญในภูมิภาค สามารถลดต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่ง ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของทั้ง 2 ประเทศในเวทีโลก โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศได้ภายในปี 2567

2/8/2567  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 2 สิงหาคม 2567 )

Youtube Channel