โออิชิ เดินหน้ายกระดับแบรนด์ ชาบูชิ ครั้งประวัติการณ์ในรอบ 20 ปี ด้วยการทุ่มงบฯรีโนเวตสาขา เปิดตัวดีไซน์ใหม่นำร่องที่ ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ชูคอนเซ็ปต์ รสชาติความสุขไม่สิ้นสุด ปรับทัพเมนูบุฟเฟต์ 3 ระดับราคา พร้อมไฮไลต์ Sushi-Master Station ครัวเปิดสร้างประสบการณ์ หวังเปลี่ยนภาพลักษณ์จากร้านบุฟเฟต์สู่เดสติเนชั่นที่เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์
นางสาวศสัย ตังเดชะหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ภายหลังจากการประกาศรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ ด้วยการเปิดตัว สกาย วงศ์รวี นทีธร และ นานิ หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ สองพรีเซ็นเตอร์คู่แรกผ่านแคมเปญ ALL YOU CAN กรี๊ด เพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่
ล่าสุด ชาบูชิ ในเครือโออิชิ ได้สานต่อยุทธศาสตร์การยกระดับแบรนด์อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการเผยโฉมร้านดีไซน์ใหม่ ณ ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ชั้น G ซึ่งถือเป็นสาขานำร่อง ที่จะยกระดับแบรนด์ให้ทันสมัยและเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาประสบการณ์ที่มากกว่าแค่ความอร่อย
เราต้องการให้ทุกองค์ประกอบของร้านใหม่นี้ ตั้งแต่ดีไซน์ เมนู ทั้งชาบู-ชาบู และซูชิ ไปจนถึงบรรยากาศ เป็นการถ่ายทอดแนวคิด รสชาติความสุขไม่สิ้นสุด อย่างแท้จริง เพื่อให้ ชาบูชิ เป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้บริโภครู้สึกดีและอยากกลับมาอีก
นางสาวศสัย ตังเดชะหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ โฮลดิ้ง จำกัด
เจาะลึกกลยุทธ์ พรีเมี่ยมแมส
โดยเบื้องต้นสาขานำร่องแห่งนี้จะดำเนินงานภายใต้แนวคิด GOOD TASTE GREAT TIME NEVER END หรือ รสชาติความสุขไม่สิ้นสุด ซึ่งจะมีการนำเสนอทางเลือกบุฟเฟต์ 3 รูปแบบใหม่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ได้แก่
Regular Buffet (สุขอิ่ม) 399 บาท+/ท่าน
Premium Buffet (สุขคุ้ม) 499 บาท+/ท่าน
Platinum Buffet (สุขล้น) 599 บาท+/ท่าน
ซึ่งการแบ่งแพ็กเกจราคาดังกล่าวจะสะท้อนถึงความพยายามในการเจาะกลุ่มลูกค้าในแต่ละเซ็กเมนต์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเสริมทัพด้วยเมนูพิเศษที่ยกระดับวัตถุดิบจากตลาดแมสสู่ตลาด พรีเมี่ยมแมส เพื่อสร้างความคุ้มค่าและหลากหลาย
การเปลี่ยนจุดยืนจากการเป็นเพียงร้านอาหารบุฟเฟต์ มาสู่การเป็นพื้นที่ที่สร้างประสบการณ์ร่วม ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับบรรยากาศและความรู้สึกระหว่างมื้ออาหาร
ชูโรง Sushi-Master Station
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่จะมาร่วมสร้างความแตกต่างและเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้า คือ การเปิดตัว Sushi-Master Station ในรูปแบบครัวเปิด ที่ให้ลูกค้าได้เห็นทุกขั้นตอนการทำซูชิอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบไปจนถึงการปรุงแต่งอย่างประณีตกว่า 30 รายการ
โมเดลครัวเปิดนี้ไม่เพียงแต่สร้างความมั่นใจในคุณภาพและความสดใหม่ แต่ยังเป็นการสร้าง Visual Experience ที่ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคโซเชียลมีเดีย ที่นิยมถ่ายภาพและแชร์คอนเทนต์ระหว่างมื้ออาหาร ซึ่งช่วยตอกย้ำจุดแข็งของชาบูชิในฐานะร้านชาบูที่มีซูชิคุณภาพเยี่ยมไปในตัว
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงสเตชั่นอื่น ๆ ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสเตชั่นซอส ที่มีพื้นที่ให้ลูกค้าผสมสูตรเฉพาะของตัวเอง, สเตชั่นอาหารทานเล่น ที่จัดเก็บในตู้อุ่นร้อนเพื่อคงความสดใหม่ และสเตชั่นของหวาน ที่เพิ่มเมนู คากิโกริ (น้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่น) เข้ามาสร้างสีสันอีกด้วย
ปรับดีไซน์สู่ความทันสมัย
ขณะที่ด้านบรรยากาศและการตกแต่งได้มีการเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งหมด โดยเลือกใช้โทนสีขาวเป็นหลัก เสริมด้วยการจัดแสงให้สว่าง เพื่อสร้างความรู้สึกโปร่ง โล่ง สะอาด และผ่อนคลาย ผนังร้านตกแต่งด้วยกราฟิกสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัย ผสมผสานกับไฟนีออนเฟลกซ์ (Neon Flex) เพื่อสร้างบรรยากาศที่สนุกสนาน สดใส และสอดคล้องกับภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์
โดยในอนาคต ชาบูชิ ก็มีแผนที่จะนำดีไซน์และโมเดลร้านใหม่นี้ไปปรับใช้กับสาขาหลักทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นสาขาในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่มีฐานลูกค้าหลากหลาย เพื่อสร้างภาพจำของแบรนด์ใหม่ให้ชัดเจนในวงกว้าง และตอกย้ำบทบาทการเป็นแบรนด์ที่ไม่หยุดนิ่งและพร้อมปรับตัวไปกับผู้บริโภค
16/7/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 16 กรกฎาคม2568 )