info@icons.co.th 02 810 8892-6 216.73.216.176

สมรภูมิสุกี้ 2.5 หมื่นล้านเดือด MK ส่ง BONUS SUKI สู้ศึกบุฟเฟต์ ‘ตี๋น้อย-ลัคกี้’

Retails News / ข่าวหมวดห้างสรรพสินค้า

ตลาดสุกี้ 2.5 หมื่นล้านเปิดศึก “บุฟเฟต์” ระดับแมสราคาต่ำกว่า 300 บาท เซ็กเมนต์ตลาดที่ศักยภาพสูง และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการแข่งขันอย่างคึกคักของทั้งแบรนด์เก่าและแบรนด์ใหม่ที่ตบเท้าเข้าสู่ตลาด

สะท้อนจาก “รายได้-กำไร” ของผู้เล่นแต่ละรายที่ต่างอยู่ในหลักพันล้านบาท และยังมีแผนขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในปี 2567 พบว่า ลัคกี้ สุกี้ มีรายได้รวม 1,015 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดถึง 148.16% จากปี 2566 ที่มีรายได้ 409 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 108 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134%

สอดรับกับ “สุกี้ตี๋น้อย” หรือ บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป ที่มีรายได้รวม 7,075 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% มีกำไรสุทธิ 1,168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.8%

ขณะที่ “เอ็มเค สุกี้” ผู้เล่นรายหลักในตลาดสุกี้ระดับกลาง-บน ซึ่งปี 2567 มีรายได้ 15,418 ล้านบาท ลดลง 7.5% และกำไรสุทธิ 1,442 ล้านบาท ลดลง 14.3% ขณะที่ยอดขายร้านเดิมลดลง 10% เช่นกัน

โดยยักษ์ร้านสุกี้อธิบายว่าเป็นผลจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงจากค่าครองชีพและภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น รวมถึงการแข่งขันดุเดือดในธุรกิจร้านอาหาร

กระทั่งไตรมาส 1 ปี 2568 ที่ผ่านมา พบว่า “สุกี้ตี๋น้อย” สามารถทำกำไรแซงหน้า “เอ็มเค สุกี้” ไปเรียบร้อยแล้ว โดยสุกี้ตี๋น้อยมีกำไรสุทธิ 271 ล้านบาท ส่วนเอ็มเคมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 234 ล้านบาท

MK ผุดบริษัทลูกสู้ศึกบุฟเฟต์

ความร้อนแรงของสุกี้บุฟเฟต์นี้กระตุกให้ “เอ็มเค” ไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป โดยเริ่มปูเส้นทางรุกเซ็กเมนต์ร้านสุกี้บุฟเฟต์ ด้วยการตั้งบริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 มีกรรมการบริษัทประกอบด้วย 3 ทายาทและผู้บริหารระดับสูงจากเอ็มเค อย่าง “ฤทธิ์ ธีระโกเมน” ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป, “ทานตะวัน ธีระโกเมน” กรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด และ “ธีร์ ธีระโกเมน” กรรมการผู้จัดการใหญ่สายปฏิบัติการ

โดยเปิดศึก “บุฟเฟต์” ด้วยการเริ่มจัดโปรโมชั่นบุฟเฟต์ “เอ็มเคคุ้มคุ้ม” อิ่มไม่อั้น ราคา 299 บาท/คน ในช่วงเดือนมิถุนายน 2568 ก่อนที่จะประกาศขยายระยะเวลาเพิ่มเป็นถึง 31 กรกฎาคม 2568 พร้อมขยายสาขาที่ร่วมรายการเป็น 299 สาขา

และทดสอบขยายเวลาเปิดบริการใน 19 สาขา แบ่งเป็น 9 สาขา เปิดถึง 23.00 น. อีก 10 สาขา เปิดถึงเที่ยงคืน โดยให้เหตุผลว่า โปรฯนี้ได้รับผลตอบรับล้นหลาม ทั้งยอดการสั่งอาหารกว่า 20 ล้านคอนโดฯ ดันยอดขายโตกว่า 42% ในเวลาเพียง 22 วัน รวมถึงลูกค้าสมาชิก MK กลับมาใช้บริการมากกว่าปกติถึง 100%

เผย BONUS SUKI สาขาแรก

ล่าสุด “เอ็มเค” ปล่อยหมัดเด็ดตามมาอีก ด้วยการเปิดตัว “BONUS SUKI” แบรนด์ร้านสุกี้บุฟเฟต์ ภายใต้การบริหารของบริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด ในเครือ MK ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 โดยปักธงสาขาแรก ที่โรบินสันไลฟ์สไตล์สระบุรี ในโมเดลสแตนด์อะโลนนอกห้าง บนพื้นที่เดิมของออฟฟิศเมท

พร้อมด้วยจุดเด่นที่ไม่เพียงแค่ท้าชนกับบรรดาผู้เล่นเดิมในเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะ “สุกี้ตี๋น้อย” แบบตรง ๆ ทั้งราคา 219 บาทต่อคน ซึ่งเมื่อรวมเครื่องดื่มรีฟิล และ VAT 7% แล้วจะอยู่ที่ 276 บาท และเวลาให้บริการ 11.00-05.00 น.

พร้อมเสริมจุดแตกต่างด้วยเมนูอาหาร 60 เมนู ไม่ว่าจะเป็น หมูสันคอ, เนื้อบริสเกตออสเตรเลีย, กุ้งสด, ลูกชิ้น, ติ่มซำ, ของทานเล่น, เครื่องดื่มและสลัชชี่ พร้อมโปรโมชั่น 1 ฟรี 1 จนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม จำกัด 100 สิทธิต่อวันอีกด้วย

ตี๋น้อยอัดโปรฯแรงรับน้อง

ด้านเจ้าตลาดบุฟเฟต์อย่าง “สุกี้ตี๋น้อย” ได้ประกาศจัดโปรโมชั่นแรงในช่วงเวลาเดียวกันกับการเปิดบริการของ BONUS SUKI ด้วยการลดราคา 50% เหลือ 117 บาท เปิดโต๊ะในช่วงเวลา 00.01-05.00 น. พร้อมเครื่องดื่มรีฟิลฟรี ระหว่างวันที่ 17-18 กรกฎาคม 2568 ใน 10 สาขา ได้แก่ 1.พหล-วัชรพล 2.เดอะสตรีท รัชดา 3.Rainforest กิ่งแก้ว 4.ลำลูกกา คลอง 2 5.เพชรเกษม 69/1 6.โลตัส โคกช้าง จ.พิษณุโลก 7.K-Space ลำลูกกา คลอง 6 8.โลตัส บ้านศิลา จ.ขอนแก่น 9.Porto Chino จ.สมุทรสาคร 10.ลาดกระบัง 24/1

พร้อมกับประกาศทิศทางรุกจับผู้บริโภคระดับบน เพื่อผลักดันรายได้แตะ 10,000 ล้านบาท ในปี 2569 จากเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่จะมีรายได้ 9,000 ล้านบาท

โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ Tn Lounge เลานจ์ที่ตกแต่งเหมือนเลานจ์ในสนามบิน มีขนม เครื่องดื่ม พร้อมจอแสดงคิว เพื่อแก้ Pain Point การรอคิวนานของลูกค้า ประเดิม 4 สาขา ได้แก่ บ้านบางเขน ศรีนครินทร์ ลำลูกกา และชลบุรี

และยกเครื่องระบบสมาชิก แบ่งเป็น 4 ระดับ Tn Family Member, Tn Family Silver, Tn Family Gold, Tn Family Platinum ซึ่งมีเงื่อนไขการรับบัตรและสิทธิประโยชน์แบบขั้นบันได ตามจำนวนครั้งที่ทานใน 1 ปี

รวมถึงเตรียมปูพรมสาขาเพิ่มจากปัจจุบันที่มีตี๋น้อยสุกี้ 86 สาขา และตี๋น้อยบาร์บีคิว 4 สาขา โดยปี 2568 ตั้งเป้าเปิดเพิ่ม 21 สาขา รวมทั้ง 2 แบรนด์ ตามด้วยปี 2569 จะเปิดเพิ่มอีก 32 สาขา

“นัทธมน พิศาลกิจวนิช” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด และผู้ก่อตั้งแบรนด์ “สุกี้ตี๋น้อย” ระบุว่า ช่วงจัดโปรโมชั่นลดราคาเหลือ 213 บาทนั้น ทุกสาขามีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ยวันละถึง 1.2 แสนคน

“ลัคกี้ สุกี้” เสิร์ฟเมนูเป็ดย่าง

สอดคล้องกับ “วิรัตน์ โรจยารุณ” กรรมการบริหาร บริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด ผู้บริหาร “ลัคกี้ สุกี้” ที่กล่าวว่า ในปี 2568 นี้ นอกจากการทำโปรโมชั่นเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ และเพื่อให้เกิดการกลับมาใช้บริการซ้ำ ทั้งการทำน้ำซุปซีซั่นนอลทุก ๆ 3 เดือน หรือโปรโมชั่นราคาในแต่ละเดือน และแต่ละไตรมาส

อาทิ เมนูบุฟเฟต์พิเศษ เป็ดย่างโชคดี ในช่วง 16-27 กรกฎาคม 2568 และโปรโมชั่น กุ้งแก้ว เมื่อจ่ายเพิ่มหัวละ 19 บาท และเด็กเพิ่มหัวละ 9 บาท ฯลฯ แล้วบริษัทจะทุ่มงบฯ 300 ล้านบาท ขยายสาขาภายใต้แบรนด์ลัคกี้เพิ่มอีก 16-20 สาขา

โดยแบ่งเป็น ลัคกี้ สุกี้ 60% และลัคกี้ บาร์บีคิว 40% เน้นทำเลคอมมิวนิตี้มอลล์ และห้างสรรพสินค้า ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงหัวเมืองต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ จากเดิมเมื่อเมษายน 2568 มีสาขาลัคกี้ สุกี้ และลัคกี้ บาร์บีคิว รวมกัน 25 สาขา เพื่อบรรลุเป้าหมายมียอดขายแตะ 2,000 ล้านบาทในปี 2568

ทั้งนี้ ต้องจับตาว่า แผนการส่งแบรนด์ลูกอย่าง BONUS SUKI ของเครือ “เอ็มเค” มาสู้ศึกครั้งนี้ จะสร้างแรงกระเพื่อมให้กับเซ็กเมนต์ “สุกี้บุฟเฟต์” ในไทยได้มากน้อยเพียงใด และแก้โจทย์ตัวเลข “กำไร” ที่ลดลงได้หรือไม่…

16/7/2568  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 16 กรกฎาคม2568 )

Banner Ads