
ลูนิค เรียลเอสเตท ผนึกบันยันกรุ๊ป เปิดขายคอนโดในรูปแบบ Branded Residences แห่งแรกในพัทยา ล่าสุดเฟสแรก 899 ยูนิต ยอดขายวิ่งฉิว 42% ปัจจุบันราคา 1.7-2.2 แสนบาท/ตร.ม. ปรับขึ้นแล้ว 15% ไฮไลต์ส่งห้องชุดเพนต์เฮาส์ยกฟลอร์ 3.679 ตร.ม. บนชั้น 54 ตั้งราคาเบา ๆ 110 ล้านบาท
นางสาวอุรดี กุลกีรติยุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลูนิค เรียลเอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า ความคืบหน้ายอดขายคอนโดมิเนียมระดับลักเซอรี่ แบรนด์ สกายพาร์ค ลูเชี่ยน จอมเทียนพัทยา-Skypark Lucean Jomtien Pattaya มูลค่าโครงการ 7,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายเฟสแรกแล้ว 42%
ทั้งนี้ โครงการ Skypark Lucean Jomtien Pattaya ออกแบบเป็นคอนโดฯไฮไรส์ มีจำนวน 3 อาคาร สูง 30-60 ชั้น โดยอาคาร A สูง 60 ชั้น ดีไซน์เป็นห้องชุดพร้อมวิวทะเลทุกยูนิต 647 ยูนิต และอาคาร B สูง 31 ชั้น 252 ยูนิต บริษัทกำหนดก่อสร้างอาคาร A+B ทั้งขายและสร้างในเฟส 1 รวม 899 ยูนิต
จากนั้น อาคาร C สูง 60 ชั้น อีก 588 ยูนิต วางแผนเปิดการขายต้นปี 2569 อยู่ในแผนพัฒนาโครงการเฟส 2 เท่ากับเต็มโครงการมีห้องชุดรวมกัน 1,487 ยูนิต มูลค่าโครงการ 7,500 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ตามแผนคาดว่าสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการในปี 2571
ในด้านโควตาซื้อ 49% ของลูกค้าต่างชาติ มียอดขายเข้ามาแล้ว 36% เท่ากับเหลือยอดขายในโควตาต่างชาติอีก 13% อย่างไรก็ตาม หากมีความสนใจซื้อจากลูกค้าต่างชาติเกินโควตา บริษัทกำลังพิจารณาขายในรูปแบบลีสโฮลด์ (สิทธิการเช่า) ระยะยาว 30+30+30 ปี
โครงการเปิดขายปลายปี 2566 ปัจจุบันยอดขายเฟสแรกในส่วนอาคาร A กับ B เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ทะลุ 42% โดยมีการปรับราคาขึ้นต่อเนื่องตามความก้าวหน้าของยอดขาย เดิมเคยสตาร์ตเฉลี่ย ตร.ม.ละ 1.4 แสนบาท ปัจจุบันเฉลี่ยที่ 1.7 แสนบาท/ตร.ม. โดยราคาเพนต์เฮาส์เฉลี่ยที่ 2.2 แสนบาท/ตร.ม.
ไฮไลต์อยู่ที่คอนโดฯ สกายพาร์ค ลูเชี่ยน จอมเทียนพัทยา พัฒนาภายใต้โมเดล Branded Residences โดยร่วมกับบันยันกรุ๊ป ทำให้โครงการนี้กลายเป็น Branded Residences แห่งแรกของบันยันกรุ๊ปในพัทยา
สำหรับแผนการตลาดเพื่อผลักดันยอดขายหลังจากนี้ มีการนำห้องชุดเพนต์เฮาส์ ขนาด 120-130 ตารางเมตร แต่เสนอขายเป็นห้องเดียวทั้งฟลอร์ บนชั้น 54 พื้นที่ 379 ตารางเมตร ราคา 110 ล้านบาท
จุดโฟกัสของสกายพาร์ค ลูเชี่ยน จอมเทียนพัทยา อาคาร B จำนวน 252 ยูนิต นำเสนอขายในรูปแบบซื้อลงทุนปล่อยเช่า ภายใต้การบริหารจัดการของบันยันกรุ๊ป เพื่อสร้างความเป็นสัดส่วนให้กับผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านตากอากาศ โดยบริษัทการันตีผลตอบแทนค่าเช่า 6% เป็นเวลา 3 ปี
ความสำเร็จของเฟสแรกกับยอดขาย 42% หลังจากโครงการเริ่มก่อสร้างได้ไม่นาน ถือเป็นการตอบรับจากลูกค้าจริงที่มั่นใจในคุณภาพของโครงการ ทำเลพรีเมี่ยม ศักยภาพการเติบโตของตลาดหาดจอมเทียน และความเชื่อมั่นของลูกค้าจากการเป็น Branded Residence ในเครือบันยันกรุ๊ป
นางสาวอุรดีกล่าวว่า ลูนิค เรียลเอสเตท พัฒนาโครงการแรกเป็นบ้านหรู The Scholar ดอนเมือง จำนวน 14 ยูนิต มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท เฉลี่ยหลังละ 42 ล้านบาท และคอนโดฯ สกายพาร์ค ลูเชี่ยน จอมเทียนพัทยา
โครงการ Skypark Lucean ที่หาดจอมเทียนแห่งนี้ นำเสนอการพักอาศัยให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ Resort Living with Hotel Services เป็นมากกว่าโครงการที่อยู่อาศัย แต่เป็นโอกาสการลงทุนระยะยาวที่มาพร้อมผลตอบแทนที่มั่นคง
เราเชื่อมั่นว่าหาดจอมเทียนจะกลายเป็นลักเซอรี่เดสติเนชั่นชั้นนำระดับโลก ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยระยะยาวของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติทั่วโลก
สำหรับเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกลงทุนบิ๊กโปรเจ็กต์ในพัทยา เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ และภูเก็ต นางสาวอุรดีอธิบายว่า ตลาดกรุงเทพฯ บูมมากจนแทบไม่เหลือมาร์เก็ตแชร์ให้รายใหม่เข้าไปเบียดแทรก
ส่วนภูเก็ตแม้ลูกค้าต่างชาติให้ความนิยม แต่ก็เป็นคนละทาร์เก็ตเซ็กเมนต์กับพัทยา ในขณะที่มีศักยภาพเป็นเดสติเนชั่นระดับโลกเหมือนกัน
โดยเทรนด์ของพัทยาหลังยุคโควิดมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังโควิด และได้รับความนิยมสูงจากชาวต่างชาติกลุ่ม Long Stay มีดีมานด์การเช่าระยะยาวเข้ามาต่อเนื่อง มีผลตอบแทนการลงทุนหรือ ROI สูงถึง 6-10% จากการเติบโตของกลุ่มลูกค้าระดับลักเซอรี่และซูเปอร์ลักเซอรี่ในพื้นที่อีอีซี
ทำให้พลิกโฉมหน้าพัทยาเปลี่ยนจากการเป็นเมืองท่องเที่ยวระยะสั้น ไปสู่เมืองที่กลุ่มไฮเอนด์ย้ายถิ่นฐานมาทำงานและอยู่อาศัยระยะยาว
จุดเด่นของหาดจอมเทียนคือเป็นทำเลที่ผสมผสานความเงียบสงบ วิวทะเลสวยงามเหมาะแก่การพักผ่อน แต่ยังคงใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำของเมืองพัทยา การเดินทางที่สะดวกจากกรุงเทพฯ เพียง 150 กิโลเมตร หรือขับรถ 2 ชั่วโมง ทำให้เป็นทำเลทอง ที่เหมาะสำหรับทั้งการลงทุนและการพักตากอากาศในช่วงวันหยุด
ทั้งยังอยู่ในช่วงราคาที่จับต้องได้เมื่อเทียบกับทำเลชายทะเลอื่น ๆ แต่มีศักยภาพการเติบโตสูงไม่แพ้กัน จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในภาคตะวันออก
โดยมีเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐมูลค่าลงทุน 12,000 ล้านบาท ทั้งการขยายถนน สาธารณูปโภค และระบบขนส่งเชื่อมโยงไปยังกรุงเทพฯ อย่างสะดวก เช่น มอเตอร์เวย์ และรถไฟความเร็วสูงในอนาคต ใกล้สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งกำลังพัฒนาเป็นสนามบินนานาชาติเต็มรูปแบบ
จุดเน้นย้ำรวมถึงสิทธิประโยชน์การเป็น Branded Residences ภายใต้บันยันกรุ๊ป ที่มีเครือข่ายการบริหารโรงแรมและรีสอร์ต 91 แห่งใน 18 ประเทศทั่วโลก ลูกค้าที่ซื้อห้องชุดสกายพาร์ค ลูเชี่ยน จอมเทียนพัทยา จะได้รับแพ็กเกจเป็นสมาชิก Sanctuary Club โดยได้รับส่วนลด 10-30% ใช้บริการในเครือข่ายบันยันกรุ๊ปทั่วโลก
อาทิ ส่วนลดสูงสุด 30% สำหรับการเข้าพักโรงแรมและรีสอร์ตในเครือ รวมถึงบริการระดับโรงแรม 5 ดาว อาทิ เช่น บริการทำความสะอาด, บริการจัดเลี้ยงส่วนตัว บริการดูแลด้านเวลเนสครบวงจร และบริการเอ็กซ์คลูซีฟอีกมากมาย ตลอดจนการบริหารการปล่อยเช่าแบบมืออาชีพโดย Banyan Living สำหรับอาคาร B
ในด้านพื้นที่ส่วนกลาง ออกแบบให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาส อาทิ สระว่ายน้ำลอยฟ้า, ยิมและซาวน่า, โคเวิร์กกิ้งสเปซกว้างขวาง, สกายเลานจ์, คิดส์คลับ และสวนสวยสำหรับออกกำลังกายและพักผ่อนรับวิวงดงาม
โครงการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Let The Sky Relax You แรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวอันนุ่มนวลของคลื่นทะเลและทิวเขา จากผลงานการออกแบบจากทีมสถาปนิกจาก Tandem Architects (2001) และการตกแต่งภายในโดย PADEE STUDIO
โครงการแบ่งพัฒนาเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกอาคาร A และ B มีห้องชุดให้เลือกตั้งแต่ห้องสตูดิโอ, ห้องชุด 1-2-3 ห้องนอน และเพนต์เฮาส์ จำกัดจำนวน 1-14 ยูนิตต่อชั้น ส่วนเฟสสองจะต่อยอดไปสู่การสร้างพื้นที่รีเทลและไลฟ์สไตล์เพื่อรองรับการใช้ชีวิตอย่างครบครันของผู้พักอาศัย
สำหรับห้องเพนต์เฮาส์ Sky Penthouse หนึ่งเดียวบนชั้น 54 ของอาคาร A พื้นที่ใช้สอย 379 ตารางเมตร ในราคา 110 ล้านบาท ฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน (ห้องน้ำในตัวทุกห้อง) พร้อม Master Bedroom วิวทะเลแบบพาโนรามาและ Walk-in Closet
โดยได้ปรับแต่งพื้นที่เป็นพิเศษให้มีพื้นที่กว้างขวางเต็มที่ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตระดับซูเปอร์ลักเซอรี่ที่มีเพียงครอบครัวเดียวจะได้ครอบครอง
บริษัทยังได้จัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายเฟส 1 จองซื้อวันนี้รับส่วนลดสูงสุด 1.9 ล้านบาท พร้อมรับทองคำแท่งสูงสุด 20 บาท และเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด
5/9/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 5 กันยายน 2568 )