
เจาะยุทธศาสตร์ โอโตยะ ขยับโพซิชั่นบุกร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมี่ยมเต็มรูปแบบ หลังรัวเปิดแบรนด์ใหม่ต่อเนื่องทั้ง โอโตยะ โทคุเซ็น พร้อม 8 เมนูใหม่เน้นสุขภาพ และโอโตยะ โอกิ ชิงโพซิชั่น ชาบูมันปู เจ้าแรกในไทย
คาดสิ้นปี 68 อาหารญี่ปุ่นโต 3%
ธีรวัฒน์ เลิศถิรพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่ม Asian Cuisine บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ CRG ฉายภาพว่า ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยสิ้นปี 2568 คาดว่าตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นจะขยายตัวมากกว่า 3% เทียบกับปีก่อน
เซ็กเมนต์พรีเมี่ยมโอกาสทอง
โดยแม้การแข่งขันจะดุเดือดจากผู้เล่นใหม่ที่เข้ามาในเซ็กเมนต์ร้านอาหาร Full Service แต่เซ็กเมนต์พรีเมี่ยมมีศักยภาพเติบโตสูง หลังผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมองหาคุณภาพ ประสบการณ์ที่ใหม่-แตกต่าง และความสมดุลด้านสุขภาพ ของเมนูอาหาร
อัพภาพลักษณ์-ประสบการณ์ พร้อมความแตกต่าง
ธีรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อพลิกโฉมโอโตยะ สู่การเติบโตใน Premium Segment อย่างเต็มรูปแบบ บริษัทจึงเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ คือ โอโตยะ โทคุเซ็น (OOTOYA TOKUSEN) และ โอโตยะ โอกิ (OOTOYA OKI)
เพื่อมายกระดับทั้งภาพลักษณ์แบรนด์ และประสบการณ์ลูกค้า พร้อมสร้างความแตกต่างในตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีการแข่งขันสูงด้วย
โอโตยะ โทคุเซ็น แฟลกชิป คอนเซ็ปต์ คัดพิเศษ
สำหรับคอนเซ็ปต์ของร้าน OOTOYA TOKUSEN มาจากภาษาญี่ปุ่น คือ ? (Toku) หมายถึง พิเศษ และ ? (Sen) หมายถึง การคัดเลือก สะท้อนถึงการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร
โดยเมนูอาหารมาในรูปแบบ Premium Set Menu รวม 8 เมนูใหม่ ที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ดีต่อสุขภาพ ตั้งแต่ Appetizer ไปจนถึงของหวาน พร้อมบริการข้าวเติมไม่อั้น และชาเขียวร้อนเย็น ฟรี ตามเอกลักษณ์ของโอโตยะ
สำหรับเมนูไฮไลต์ของ โอโตยะ โทคุเซ็น ประกอบด้วย 4 เมนู คือ ข้าวต้มแซลมอนสไตล์ญี่ปุ่น โทคุเซ็นเซต (499 บาท) เสิร์ฟพร้อมซุปดาชิ, ข้าวหน้าแฮมเบิร์กปลาโทโร่ โทคุเซ็นเซต (599 บาท) แฮมเบิร์กเนกิโทโร่ เสิร์ฟพร้อมซอสไข่แดงดอง
ปลาชิมาฮอกเกะย่างถ่าน โทคุเซ็นเซต (679 บาท), ปลาชิมาฮอกเกะไซซ์ใหญ่จากทะเลน้ำลึก ย่างถ่านจนหอม เสิร์ฟคู่ข้าวคลุกสาหร่ายฮิจิกิ, สุกี้ยากี้เนื้อวากิว A5 โทคุเซ็นเซต (759 บาท) ทำสดบนเตาฮิดะ พร้อมเครื่องเคียง และซาชิมิเกรดพรีเมี่ยม
สปีด 10 สาขาก่อนสิ้นปี 68
ผู้บริหาร CRG เผยว่า ตั้งเป้าขยายสาขา OOTOYA TOKUSEN รวมกว่า 10 สาขา ภายในปี 68 นี้ หลังเริ่มปักหมุดที่เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพไปแล้ว
ย้ำพรีเมี่ยมแต่คุ้มค่า ชิงตลาดชาบู 20,000 ล้านบาท
ส่วน โอโตยะ โอกิ (OOTOYA OKI) เป็นร้านชาบูและสุกี้ยากี้พรีเมี่ยม ชูเอกลักษณ์ด้วยการเป็น ชาบูมันปู เจ้าแรกในประเทศไทย เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดชาบูที่มีมูลค่าสูงกว่า 20,000 ล้านบาท และเติบโตต่อเนื่อง
โดยบริษัทร่วมมือกับ OOTOYA Japan พัฒนาแบรนด์ใหม่นี้ มีไฮไลต์เป็น ซุปมันปู ที่เสิร์ฟปูซูไวทั้งตัวพร้อมแกะมันปูใส่ในหม้อชาบู เสริมด้วยเนื้อปลาเกรดพรีเมี่ยม, เนื้อ Japanese Wagyu A4 และเนื้อหมู
พร้อมสานต่อเอกลักษณ์ความคุ้มค่าด้วยการเสิร์ฟ ข้าวรีฟิลฟรีเมื่อสั่งเป็นเซต และ บริการชาเขียวฟรี ในราคาเซตเริ่มต้น 369 บาท
ทั้งนี้ตั้งเป้าให้ โอโตยะ โอกิ ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์เรือธงอีกหนึ่งแบรนด์ ที่ช่วยขยายฐานลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยมที่ใส่ใจในสุขภาพ เสริมความแข็งแกร่ง และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ขยายช้าแต่มั่นคง สู่แบรนด์หลักในพอร์ต
สำหรับแผนขยายสาขานั้น ธีรวัฒน์ ระบุว่า ตั้งเป้าเปิดโอโตยะ โอกิ อย่างน้อย 5 สาขา ภายใน 3 ปี เน้นทำเลศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อเจาะตลาดพรีเมี่ยม กับกลุ่มลูกค้าโอโตยะ และกลุ่มลูกค้าชาบู ควบคู่กับการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ตามแผนผลักดันให้กลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์หลักในพอร์ตกลุ่ม Asian Cuisine
หลังเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ชั้น 5 ไปเมื่อวันที่ 26 กันยายน 68
7/10/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 7 ตุลาคม 2568 )