ยิ่งนานยิ่งเด่นชัด เทรนด์พัฒนาโครงการที่ใส่ใจรักษ์โลก ทะนุถนอมสิ่งแวดล้อมในวงการที่อยู่อาศัย
โดยเฉพาะในปี 2565 หลังจากอยู่กับสถานการณ์โควิดย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ดูเหมือนว่าผู้ประกอบการพร้อมสุดขีดในการนำเสนอทั้งสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ดีมานด์การอยู่อาศัยในยุค now normal
แอสเซทไวส์ GrowGreen
กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ-We Build Happiness เดินหน้าวางแนวทางขับเคลื่อนองค์กรสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย Carbon Neutral ประเทศไทย ภาคสมัครใจ โดยให้ความสำคัญในการเข้ารับการตรวจประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร และได้จัดหาคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์
กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์
ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียน Carbon Neutral เต็มรูปแบบ นับเป็นย่างก้าวสู่การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์สีเขียวแบบครบวงจร วางเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 ASW ผนึกพันธมิตรดำเนินงานภายใต้แนวคิด GrowGreen 5 แกนหลัก
ได้แก่ 1.Green Space การออกแบบพื้นที่สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้พักอาศัย 2.Energy Efficiency ดีไซน์ที่อยู่อาศัยเพื่อใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา (Solar Rooftop) ที่สำนักงานใหญ่ Mingle Mall KAVE TU และเร่งติดตั้งที่ โครงการ KAVE Town Space และ KAVE Town Shift ต่อไป
พร้อมทั้งจับมือพันธมิตร Haup Car นำร่องให้บริการรถพลังงานไฟฟ้าที่ Mingle Mall โครงการ KAVE Town Space, KAVE Town Shift และสำนักงานขาย Modiz Rhyme, KAVE AVA ถือเป็นก้าวสำคัญของการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
3.Waste Management บริหารจัดการของเสียอย่างยั่งยืน รณรงค์คัดแยกขยะภายในโครงการเพื่อลดปริมาณ Carbon Footprint 4.Clean Air ใส่ใจอากาศสะอาด เน้นเลือกวัสดุก่อสร้างที่ลดปริมาณการสร้างมลพิษในอากาศ หรือการก่อสร้างที่ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 และ 5.Water Saving การใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำน้ำดีที่ผ่านการใช้แล้วมาผ่านกระบวนการบำบัดเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่
อีกทั้งยังจัดกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมภายในโครงการตลอดทั้งปี เพื่อสร้างจิตสำนึกรักษ์โลกและแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน ล่าสุดได้เชิญชวนลูกบ้านร่วมทำกิจกรรมปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อร่วมลดภาวะโลกร้อน
ASW มีความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอสังหาฯ สีเขียว เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและโลก เรามีความตั้งใจพัฒนาที่อยู่อาศัยตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งการออกแบบ เลือกวัสดุ ลดการใช้ทรัพยากร ใช้พลังงานสะอาดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งการรับรอง Carbon Neutral ภาคสมัครใจนับเป็นความภาคภูมิใจของเราและพร้อมเดินตามเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อมอบสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับคนรุ่นต่อไป
ปัจจุบัน ASW มีบ้านและคอนโดฯ สะสม 39 โครงการ ภายใต้แบรนด์ เคฟ-แอทโมซ-โมดิซ-เอสต้า-ดิ ออเนอร์ รวมมูลค่าโครงการสะสม 38,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ 31 โครงการ กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างพัฒนา 8 โครงการ มียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) 7,338 ล้านบาท
เพอร์เฟครุกพลังงานสะอาด
ถัดมา วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การใช้พลังงานสะอาดมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก เพอร์เฟคจึงวางแผนขยายเข้าสู่ธุรกิจ ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป-เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้าน เพื่อยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัย ให้เป็นชุมชนที่ประหยัดพลังงานและมีสภาพแวดล้อมที่ดียั่งยืน
โมเดลลงทุนพลังงานสะอาด ได้แก่ ร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ บริษัท เอสซีจี รูฟฟิ่ง จำกัด บุกตลาดโซลาร์รูฟท็อป ควบคู่กับ บริษัท อีวีโลโม เทคโนโลยีส์ จำกัด จากสหรัฐอเมริกา ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้าน โดยเริ่มจากการติดตั้งให้กับบ้านเดี่ยวสร้างใหม่ในโครงการไฮเอนด์แบรนด์ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ-เลค เลเจ้นด์
สเต็ปต่อไปวางเป้าขยายไปยังกลุ่มลูกค้าทั่วไป ครอบคลุมทั้งโครงการบ้านของเพอร์เฟค ชุมชนบริเวณใกล้เคียง และธุรกิจในกลุ่มบริษัททั้งโรงแรม คอมมิวนิตี้มอลล์ โดยร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดแพ็กเกจทางการเงิน ตามแผนภายใน 5 ปี ตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป 30,000 หลัง และติดตั้งอีวีชาร์จเจอร์ในบ้าน 50,000 หลัง คำนวณแล้วคาดว่าช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1 ล้านตัน CO2
นอกจากนี้เพอร์เฟคเปิดตัวความร่วมมือกับ กัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช ติดอันดับ 1 ใน 10 สวนสวยที่สุดในโลก โดยเป็นครั้งแรกที่นำแนวคิดในการออกแบบสวนสวยระดับโลกมาใช้ในการออกแบบสวนในบ้านโครงการ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ และสวนส่วนกลางริมทะเลสาบในโครงการ เลค รีสอร์ท ราชพฤกษ์ตัดใหม่ ซึ่งเป็นมิติใหม่ของการออกแบบพื้นที่สีเขียวในโครงการและในบ้าน
โดยเพอร์เฟคมีโจทย์พัฒนาโครงการสไตล์รีสอร์ต จึงเน้นให้เป็นสวนพักผ่อนในสไตล์ไทย ด้วยการเลือกพรรณไม้เมืองร้อนที่มีรูปทรงสวยงาม ดูแลง่าย แต่ให้ประโยชน์ใช้สอยสูงสุด รวมถึงเป็นพรรณไม้ที่ทรงคุณค่า โดยจัดวางต้นไม้ในแบบ Borrow View ซึ่งหมายถึงเพื่อนบ้านรั้วติดกันมีการแชร์วิวสวนสีเขียวในบ้านซึ่งกันและกัน รวมถึงการเลือกใช้ต้นไม้ประจำบ้านที่เป็นพรรณไม้อายุ 100 ปี ตอบเทรนด์ความนิยมในปัจจุบันด้วย
SCG เดินเกมโซลาร์รูฟ
ยักษ์ธุรกิจวงการวัสดุ นิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเกมสำหรับปี 2565 ว่า เอสซีจีมุ่งมั่นใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชั่น ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของลูกค้า ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยนำแนวทาง ESG-Environmental, Social and Governance เป็นกรอบการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นใหม่ ๆ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs (Sustainable Development Goals) ของสหประชาชาติ
ตามต่อด้วย ธงชัย โสภณ Head of Housing Products Business บริษัท เอสซีจี รูฟฟิ่ง จำกัด กล่าวสอดคล้องกันว่า สถานการณโควิดในช่วงปี 2563-2564 ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้การทำงานแบบไฮบริด เน้นทำงาน work from home มากขึ้น ส่งผลโดยตรงกับการใช้ไฟในช่วงเวลากลางวัน ค่าไฟฟ้าก็เพิ่มขึ้น จึงร่วมมือกับพาร์ตเนอร์เฉพาะด้าน ภายใต้กลยุทธ์ Partnership Integration นำจุดแข็งเทคโนโลยีผสานเข้ากับการสร้างสรรค์นวัตกรรมสู่การเป็นโซลูชั่นพลังงานสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูง
โดยร่วมมือกับ 3 พันธมิตรธุรกิจ เริ่มจาก หัวเว่ย-Huawei นำนวัตกรรมแบตเตอรี่มาเพิ่มความสามารถในการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าให้สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้ในเวลากลางคืน ร่วมกับ เอนเฟส เอ็นเนอร์จี้-Enphase Energy อเมริกา นำเทคโนโลยีไมโครอินเวอร์เตอร์ช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยโซลาร์ให้ดียิ่งขึ้น
และด้านไฟแนนซ์ร่วมกับสถาบันการเงินเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น คู่ขนานไปกับร่วมมือพันธมิตร MEA-การไฟฟ้านครหลวง และ PEA-การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในการอำนวยความสะดวกด้านการขออนุญาตให้รวดเร็วมากขึ้น แผนธุรกิจ เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชั่น แบ่งสัดส่วนลูกค้ากลุ่ม B2B (SME) 70% กับลูกค้า B2C 30%
เราเชื่อมั่นว่า SCG Solar Roof ระบบ Hybrid จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มยอดขายในกลุ่มหลังคาโซลาร์ เติบโตด้วยยอดขายมากขึ้น 300%
พฤกษาฯ ชูดีไซน์พลิกโฉมบ้าน
สุดท้ายกับ ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดบิสสิเนสโมเดลว่า การสร้างที่อยู่อาศัยของพฤกษาฯจากนี้ไปคือ การพัฒนาลีฟวิ่งโซลูชั่นที่มุ่งพัฒนาบ้านเพื่อตอบรับเมกะเทรนด์การอยู่อาศัยใน 3 เทรนด์สำคัญ
ประกอบด้วย 1.เทรนด์การดูแลสุขภาพ 2.เทรนด์ไลฟ์สไตล์วิถีใหม่หลังยุคโควิดที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาอำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และ 3.เทรนด์การสร้างความยั่งยืนในมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและการอยู่อาศัยเพื่อร่วมกันดูแลสภาพแวดล้อม สร้างสังคมคุณภาพส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป ภายใต้แนวคิด Tommorow.Reimagined.-พฤกษา ใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต
ประสบการณ์พัฒนาที่อยู่อาศัยมาอย่างยาวนานเกือบ 3 ทศวรรษ บวกกับความล้ำหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีการสร้างบ้าน พฤกษาฯ เพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าด้วยดีไซน์บ้านยุคใหม่ที่เป็นพื้นที่รองรับทุกกิจกรรมในชีวิต
ดีไซน์บ้านทั้งแนวราบและคอนโดฯ จึงเน้นพื้นที่ Multi Space เป็นจุดเด่นใหม่ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามใจชอบ พื้นที่สีเขียวส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ดีไซน์ฟังก์ชั่นตอบโจทย์ทั้งการทำงาน เรียน ช็อปปิ้ง ท่องเที่ยว พักผ่อน งานอดิเรก สังสรรค์ และออกกำลังกาย
ลีฟวิ่ง โซลูชั่นของพฤกษาเฟ้นการเลือกใช้วัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โครงการแนวราบมีพื้นที่กิจกรรมเพิ่มความเป็นส่วนตัว ประตูดีไซน์ใหญ่ขึ้นเผื่อผู้ที่ต้องใช้รถเข็น กระจกหน้าต่างแบบพิเศษป้องกันฝุ่น PM 2.5 พื้นบ้านออกแบบเป็นทางเรียบ ป้องกันอุบัติเหตุสะดุดล้ม ใช้วัสดุพื้นกันกระแทกมาตรฐานสากล มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะโฮมออโตเมชั่นเชื่อมต่ออุปกรณ์ดิจิทัลและเครื่องใช้ไฟฟ้า
นอกจากดีไซน์บ้านแล้ว เทรนด์การใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริง เมตาเวิร์ส เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่พฤกษาฯ อยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าจะสร้างสรรค์ประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้กับลูกค้า เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตในอนาคตอย่างยั่งยืน
14/4/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (14 เมษายน 2565)