ภาพรวมที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ เดือนมีนาคม เร่งตัว 38 โครงการ มูลค่ากว่า 3.4 หมื่นล้านบาท ผู้พัฒนาฯ เจาะบ้านราคากลาง ค่อนสูง เฉลี่ยต่อหน่วย 4.785 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 116.8%
16 เมษายน 2565 - นาย โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผย ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการเปิดตัวกันค่อนข้างคึกคักก่อนจะปิดไตรมาสแรก ปี 2565 โดยในเดือน มีนาคม มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 38 โครงการ เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 24 โครงการ อีกทั้งยังมีมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นด้วย โดยลักษณะการพัฒนาเป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยทั้งหมด มีจำนวนหน่วยขายรวม 7,236 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 34,627 ล้านบาท
ทาวน์เฮ้าส์เปิดใหม่สูงสุด
ทั้งนี้ ในแง่จำนวนหน่วยเปิดใหม่เดือน มี.ค. มีทั้งหมด 7,236 หน่วย ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 1,036 หน่วย (เดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีจำนวน 8,272 หน่วย) หรือลดลงประมาณ -13% เนื่องจากมีจำนวนหน่วยขายต่อโครงการเล็กลง จึงทำให้จำนวนหน่วยขายของเดือนนี้ลดลง แต่ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนโครงการเปิดใหม่เพิ่มขึ้นมากก็ตาม โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ คือทาวน์เฮ้าส์ 40.2% รองลงมาคือ อาคารชุด 35.7% ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านแฝด 12.7% ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด
มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนมีนาคม 2565 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 34,627 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ประมาณ 53% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะเน้นระดับปานกลางค่อนข้างสูงเป็นสำคัญ ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คืออาคารชุด 12,849 ล้านบาท (37.1%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 9,082 ล้านบาท (26.2%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 6,937 ล้านบาท (20.0%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ ดังนั้นภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ส่วนใหญ่หากเป็นบ้านเดี่ยวจะเน้นที่ระดับราคา 10-20 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์จะเน้นราคา 3-5 ล้านบาท และอาคารชุดที่ราคา 3-5 ล้านบาท
อัตราการขายสูงขึ้น
อัตราการขายได้เฉลี่ยต่อเดือน พบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 52% เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 18% ต่อเดือน ซึ่งถือว่ามีอัตราการขายได้เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขายได้สูงสุด คืออาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาท ขายได้แล้วถึง 71% รองลงคือ ทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ขายได้ 41% และอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 2-3 ล้านบาท ขายได้แล้ว 19%)
บริษัทประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ พบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 12 บริษัท คือ บริษัทไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) บริษัทบริทาเนีย จำกัด (มหาชน) บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทเฟรเชอร์สพร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทลลิลพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทเสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทเอ็นซี เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัทเอพี (ไทยแลนด์)จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซีแอสเซทคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทแอสเซทไวส์จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือและบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง
เจาะทำเลเขตเมือง - แหล่งชุมชน
ในด้านทำเลที่ตั้ง จะพบว่าในเดือนนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในจำนวน 3 โครงการ ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) จำนวน 29 โครงการ เช่น ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนวงแหวนตะวันตก ถนนบางนา ถนนสวนหลวง ถนนประชาอุทิศ-สุขุสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ ถนนปิ่นเกล้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีก 6 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งใกล้แหล่งงาน และชุมชนที่อยู่อาศัยและสถาบันการศึกษาในย่านนั้น เช่น ย่านรังสิต-นครนายก สมุทรสาคร บางบ่อ เป็นต้น
16/4/2565 ฐานเศรษฐกิจ (16 เมษายน 2565)