info@icons.co.th 02 810 8892-6 3.133.116.126

บอร์ด EEC รับทราบแก้สัญญาไฮสปีด-อู่ตะเภาเมืองการบิน เร่งตอกเสาให้ทันปี’67

Transportation News / ข่าวหมวดระบบขนส่ง

บอร์ด EEC เผยความคืบหน้า 4 โครงสร้างพื้นฐานหลัก รับทราบแก้ไขสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ตามที่ ร.ฟ.ท.เสนอ ด้านสนามบินอู่ตะเภา-เมืองการบิน ประกาศเชิญชวนยื่นข้อเสนองานก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 ให้ได้ภายใน มิ.ย. 2567 พร้อมอนุมัติ (ร่าง) แผนสิ่งแวดล้อมอีอีซี

วันที่ 10 มิถุนายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ. หรือบอร์ด EEC) ครั้งที่ 3/2567 ว่า บอร์ด EEC ได้อนุมัติ (ร่าง) แผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2566-2570

ภูมิธรรม เวชยชัย

ซึ่งประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 คือ การจัดการของเสียและมลพิษสิ่งแวดล้อม ทั้งน้ำเสีย ของเสีย เฝ้าระวังการจัดการมลพิษจากแหล่งกำเนิดและในสิ่งแวดล้อมจำนวน 31 โครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการขยะมูลฝอยอำเภอแกลง

ยุทธศาสตร์ที่ 2 การอนุรักษ์ ฟื้นฟู ดูแลรักษา และใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เช่น การจัดการทรัพยากรและการใช้ประโยชน์ที่ดิน การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนจำนวน 65 โครงการ อาทิ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแก้มลิงคลองบางไผ่ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำพร้อมระบบกระจายน้ำเกาะแสมสาร

ยุทธศาสตร์ที่ 3 การส่งเสริมการดำรงชีวิตและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติจำนวน 40 โครงการ อาทิ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบชายหาดบ้านอำเภอ จังหวัดชลบุรี โครงการขับเคลื่อนสู่ Net Zero EEC สนับสนุนการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ

ยุทธศาสตร์ที่ 4 การเสริมความเข้มแข็งแก่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาเครื่องมือและนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนการบริการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจำนวน 54 โครงการ อาทิ โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่สะอาดสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น จากนี้สำนักงาน EEC จะต้องนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ต่อไป

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กล่าวว่า สำหรับความก้าวหน้าโครงสร้างพื้นฐานหลักในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุนรัฐ-เอกชน (PPP) นั้น ที่ประชุมได้รับทราบโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และเอกชนคู่สัญญาตกลงรับมอบพื้นที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ

และเจรจาหลักการแก้ไขปัญหาโครงการจากผลกระทบโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้ข้อยุติแล้ว อยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอ กพอ. (บอร์ด EEC) พิจารณา เพื่อเสนอให้ ครม.ทบทวนหลักการ PPP ตามมติ ครม.ที่อนุมัติโครงการไว้ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2561 คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ภายในเดือน ก.ค. 2567 จากนั้น ร.ฟ.ท.และเอกชนคู่สัญญาจะเจรจาร่างสัญญาแก้ไข เพื่อส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจ และส่ง กพอ. และ ครม.เห็นชอบ และเริ่มงานก่อสร้างภายในธันวาคม 2567

ทั้งนี้ หลักการแก้ไขปัญหาจะอยู่บนพื้นฐานความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน เป็นธรรมต่อคู่สัญญา รัฐไม่เสียประโยชน์ และเอกชนไม่ได้ประโยชน์เกินควร มีหลักการที่สำคัญ ได้แก่ การแก้ไขวิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการ (PIC)

โดยรัฐจะเริ่มลงทุนเร็วขึ้นตามระยะเวลาความแล้วเสร็จของงาน และเอกชนตกลงวางหลักประกัน (Bank Guarantee) เต็มจำนวน ค่าก่อสร้าง และการแก้ไขวิธีการชำระค่าสิทธิโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) เอกชนแบ่งชำระ 7 งวด โดย ร.ฟ.ท.ยังคงได้รับค่าสิทธิครบจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เอกชนรับภาระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายทางการเงินส่วนที่เกินทั้งสิ้น

โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ความก้าวหน้าในส่วนภาครัฐ กองทัพเรือได้ออกประกาศเชิญชวนยื่นข้อเสนองานจ้างก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 และทางขับสนามบินอู่ตะเภาเป็นที่เรียบร้อย และคาดว่าจะพิจารณาข้อเสนอทางเทคนิคได้ภายในเดือน มิ.ย. 2567 และก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2571 ด้านงานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น

มีความก้าวหน้าภาพรวม 26.32% โดยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มีความก้าวหน้ากว่า 94.85% งานด้านระบบบริการเติมเชื้อเพลิงอากาศยานมีความก้าวหน้ารวม 47.38% งานด้านประปาและบำบัดน้ำเสียมีความก้าวหน้ารวม 97.62% เป็นต้น ในส่วนการประสานแจ้งให้เอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการ (NTP) คาดว่าจะสามารถแจ้ง NTP ได้ภายในปี 2567 นี้ ทั้งนี้ คาดว่าสนามบินอู่ตะเภาจะเปิดให้บริการภายในปี 2572

โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ในส่วนท่าเทียบเรือ F งานก่อสร้างทางทะเล มีความก้าวหน้าในภาพรวม 29.02% โดยพื้นที่ถมทะเล 1 และ 2 ได้ดำเนินการถมแล้วเสร็จ ส่วนพื้นที่ถมทะเล 3 อยู่ระหว่างดำเนินการถม คาดว่าจะเปิดดำเนินการท่าเทียบเรือ F1 ได้ภายในปี 2570

โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในภาพรวม

มีความก้าวหน้า 80.93% งานด้านถมทะเล พื้นที่แปลง LNG Plot (แปลง B) และพื้นที่ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (แปลง C) ดำเนินการถมแล้วเสร็จ ส่วนพื้นที่ท่าเรือสินค้าเหลว (แปลง A) มีความก้าวหน้า 30.95% โดยท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570

10/6/2567  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 10 มิถุนายน 2567 )

ช่องยูทูปของ iCONS