Moshi Moshi เปิดแผนปี66 ผุดสาขา Standalone พัฒนาแฟรนไชส์ เพิ่มสินค้า 2 หมวดใหม่ พร้อมโหมอีเว้นท์ต่อเนื่อง หวังผลักดันยอดขายเติบโตระดับเลข 2 หลัก เผยปี 2565 กำไรสุทธิ 253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.9%
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 Moshi Moshi เชนร้านสินค้าไลฟ์สไตล์ เผยแผนเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งขยายสาขา เพิ่มความหลากหลายของสินค้า และอัดกิจกรรมต่อเนื่องทั้งปี หวังดันยอดขายเติบโตดับเบิลดิจิต
นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ Moshi Moshi อธิบายแผนการดำเนินงานในปี 2566 ว่า กำลังซื้อในอุตสาหกรรมค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ฟื้นตัวดีขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากจีน
ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวเร็ว แรง และเติบโตสูง พร้อมกับปริมาณการจับจ่ายใช้สอยก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่นเดียวกับสถานการณ์จับจ่ายในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากเทศกาลเฉลิมฉลองในช่วงปลายปี 2565
ดังนั้นจึงต้องรักษาโมเมนตั้มด้วยการผลักดันยอดขายเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักจาก 4 ส่วน คือ
เพิ่มความหลากหลายของสินค้า
โดยตั้งเป้าเพิ่มสินค้า 2 Categories ใหม่ จากปัจจุบันที่มี 12 กลุ่ม รวมถึงเพิ่มประเภทและรูปแบบของสินค้าให้สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น
เปิดสาขาเพิ่มเติม
เน้นเปิดในพื้นที่-จังหวัดที่ยังไม่มีสาขาทั้งเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหัวเมือง รวมถึงการเปิดสาขาแบบ Standalone และการพัฒนาแฟรนไชส์ พร้อมทั้งศึกษาตลาดต่างประเทศไปควบคู่กัน โดยในไตรมาส 1/2566 เตรียมเปิดสาขาอีกไม่น้อยกว่า 3 สาขา
ทั้งนี้ในไตรมาส 4/2565 บริษัทเพิ่มจำนวนสาขา 5 สาขา ได้แก่ ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต, Big C บางพลี, Robinson ราชพฤกษ์, Terminal 21 พระราม 3 และ Lotus หาดใหญ่ ส่งผลให้ในปัจจุบันมีสาขาของบริษัทฯ ที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 106 สาขา
โหมกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขาย
พัฒนากิจกรรมการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลาของปี ให้สอดคล้องกับแต่ละสถานการณ์และเพื่อกระตุ้นยอดขาย อาศัยการศึกษาเทรนด์ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย
โดยล่าสุด บริษัทเป็นผู้สนับสนุนคอนเสิร์ต NCT DREAM TOUR THE DREAM SHOW2: In A DREAM in BANGKOK ในวันที่ 10-12 มีนาคม 2566 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ซึ่ง NCT DREAM นับเป็นวงบอยแบนด์จากค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ SM Entertainment ที่มีชื่อเสียงและฐานแฟนคลับผู้ติดตามอยู่ทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับสูงจากกกลุ่มลูกค้าร้าน Moshi Moshi และ NCTzen ชาวไทย
ผนึกอินฟลูเอ็นเซอร์-แคแรกเตอร์ดัง
เดินหน้ากลยุทธ์ Co-Branding กับ Influencer หรือตัวการ์ตูนลิขสิทธิ์ต่างๆ มาวางจำหน่ายในร้านเพื่อเพิ่มยอดขายต่อบิล (Ticket Size) และต่อสาขาให้มากขึ้น
เตรียมปันผล 0.1 บาท
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 642.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.14% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 475.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 118.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.15% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 85.19 ล้านบาท
นับเป็นผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญผลักดันภาพรวมการดำเนินงานในปี 2565 เติบโตเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ด้วยรายได้รวม 1,895.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,263.84 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 253.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 131.27 ล้านบาท โดยอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 40% ถือเป็นการรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
จากผลการดำเนินงานในปี 2565 ที่เติบโตได้อย่างโดดเด่น ในที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล โดยแบ่งเป็นการจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล หรือจำนวนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 30 ล้านบาท และจ่ายเป็นเงินสด ในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record date) พร้อมกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นี้
28/2/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 28 กุมภาพันธ์ 2566 )