info@icons.co.th 02 810 8892-6 3.142.124.119

“สุรวัช” รองประธาน สทท.ชงรัฐลงทุน “home port-กาสิโน” เพิ่มศักยภาพแข่งขันอุตฯท่องเที่ยวไทย

Transportation News / ข่าวหมวดระบบขนส่ง

“สุรวัช อัครวรมาส” รองประธาน สทท. เสนอรัฐลงทุนสร้าง “ท่าเรือ home port-man-made attraction-กาสิโน” เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เร่งเก็บค่าเหยียบแผ่นดินดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมหนุนใช้กลไกบริษัทนำเที่ยวเป็นเครื่องมือสกัดปัญหาทัวร์ด้อยคุณภาพ หลังนายกฯ เศรษฐา เปิดฟรีวีซ่าจีน 1 ต.ค.นี้ เชียร์นำระบบ API/Linkage ของกรมการกงสุลมาใช้เก็บข้อมูลนักท่องเที่ยว

นายสุรวัช อัครวรมาส รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจท่องเที่ยวในหลายประเทศขณะนี้ อยากเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มสินค้าและบริการที่มีศักยภาพที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยใน 3 ด้านหลัก

ประกอบด้วย 1.ลงทุนสร้างท่าเรือหลัก หรือ home port ท่าเรือเริ่มต้นขนาดใหญ่ รองรับการท่องเที่ยวทางเรือครุยส์ ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่ประเทศไทยยังไม่มี และปัจจุบันในภูมิภาคอาเซียนมี home port เพียงแค่ 2 แห่งคือ สิงคโปร์และฮ่องกงเท่านั้น ส่วนประเทศไทยมีแค่ท่าจอดเรือยอชต์ ส่วนเรือครุยส์มีเพียงท่าเรือแวะพัก หรือที่เรียกว่า port of call เท่านั้น

2.สนับสนุนการลงทุนแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ดัดแปลงหรือสร้างขึ้น (man-made attraction) โดยเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน อาทิ สวนสนุก สถานบันเทิง ฯลฯ เนื่องจากปัจจุบันจุดขายหลักของการท่องเที่ยวไทยคือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเป็นหลัก

ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย สามารถรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้น และมีศักยภาพในการแข่งขันในระดับโลกได้มากขึ้น

และ 3.สนับสนุนให้มีการลงทุนในธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ขนาดใหญ่ หรือกาสิโน สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเชื่อว่าธุรกิจดังกล่าวนี้จะเข้ามาช่วยสร้างความเจริญในพื้นที่ที่มีการลงทุน ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการกระจายรายได้

นอกจากนี้ ควรจัดตั้งกองทุนเพื่อการท่องเที่ยว และรีบดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมท่องเที่ยว หรือค่าเหยียบแผ่นดินให้เร็วที่สุด เพื่อนำมาดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเงินที่ได้จากการจัดเก็บส่วนหนึ่งต้องนำไปซื้อประกันชีวิตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติตามข้อบังคับของกฎหมาย รวมถึงดูแลสถานที่ท่องเที่ยว พัฒนาบุคลากร พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ

นายสุรวัชยังกล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินหน้ามาตรการ “ฟรีวีซ่า” ให้กับนักท่องเที่ยวจีน หรือเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนให้เข้ามาเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และจะประกาศเริ่มใช้ทันทีในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 นี้นั้น ในฐานะภาคเอกชนมองว่านโยบายนี้ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและคนท่องเที่ยวแน่นอน

เพียงแต่กังวลว่ามีการหารือกับทางการจีนในประเด็นเรื่องความปลอดภัยหรือยัง เนื่องจากการเปิดฟรีวีซ่านั้นเป็นสนธิสัญญาและเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็นประโยชน์ต่างตอบแทนกัน เราฟรีให้เขา เขาฟรีให้เรา

และมีปัจจัยอะไรที่ทำให้มั่นใจว่า หากปลดล็อกวีซ่าแล้วจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวในปริมาณที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นคุ้มกับปัญหาอื่นที่จะตามมาหรือไม่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องทัวร์คุณภาพต่ำ หรือทัวร์ศูนย์เหรียญ

นายสุรวัชกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวเห็นด้วยอย่างมากหากรัฐบาลเปิดฟรีวีซ่าและนำระบบ API/Linkage ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมกันพัฒนาและเชื่อมโยงฐานข้อมูลนักท่องเที่ยวระหว่าง 3 หน่วยงานมาใช้สำหรับนักท่องเที่ยวจีน โดยให้ลงทะเบียนในระบบดังกล่าว ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีข้อมูลนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่ตามมา

ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวเป็นการใช้กลไกของบริษัทนำเที่ยวเข้ามาช่วยดูแล โดยกรุ๊ปทัวร์จีนที่จะได้รับการดูแลต้องเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยว และบริษัทนำเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการจะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยว และบริษัทนำเที่ยวคู่ค้าในฝั่งจีนก็ต้องขึ้นทะเบียนกับสถานทูตไทยด้วย ทั้งนี้เพื่อรับผิดชอบร่วมกัน

“ผมนำเสนอตลอดว่า รัฐบาลควรใช้บริษัทนำเที่ยวมาเป็นเครื่องมือในการช่วยควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะหากเกิดปัญหาเราสามารถเช็กได้ว่าบริษัททัวร์รายใดดูแลอยู่ นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยให้บริษัทนำเที่ยวที่ไม่มีงานทำกันมา 3-4 ปีกลับมาพลิกฟื้นได้อีกด้วย” นายสุรวัชกล่าว

7/9/2566  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 7 กันยายน 2566 )

Youtube Channel