info@icons.co.th 02 810 8892-6 98.84.18.52

SENA เผยครึ่งปีแรก รายได้เติบโต 92% รุกต่อบ้านไฟฟ้าเป็น 0-คอนโด low carbon

Residential News / ข่าวหมวดที่พักอาศัย

อธิกา บุญรอดชู รายได้ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA

SENA เผย 6 เดือนโกยรายได้ 3,840 ล้านบาท เติบโต 92% พร้อมขยายพอร์ต ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทุกช่วงวัย ตุน Backlog 6,879 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ต่อเนื่องอีก 4 โครงการใหม่ ทั้งเฟล็กซี่ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์, เสนาคิทท์ เวสต์เกต-บางบัวทอง เฟส 2, เสนาคิทท์ บีทีเอส สะพานใหม่, เสนาคิทท์ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง

วันที่ 17 สิงหาคม 2566 นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้อำนวยการฝ่ายจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทเสนา และบริษัทย่อย ในช่วงครึ่งปีแรก 2566 มีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น 3,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท

แบ่งเป็นการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของโครงการที่พัฒนาเอง 1,111 ล้านบาท และรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของโครงการร่วมทุน 2,729 ล้านบาท มียอดขาย (Presale) 6 เดือนแรก อยู่ที่ 5,383 ล้านบาท มาจากยอดขายอสังหาริมทรัพย์จากโครงการที่พัฒนาเอง 1,352 ล้านบาท และยอดขายอสังหาริมทรัพย์จากโครงการร่วมทุน 3,521 ล้านบาท

SENA มีรายได้รวม 4,427 ล้านบาท ได้แก่ รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 3,840 ล้านบาท ธุรกิจเช่าและบริการ 307 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจโซลาร์ 280 ล้านบาท ซึ่งมีความสามารถในการทำกำไรขั้นต้น ร้อยละ 35 และมีความสามารถในการทำกำไรสุทธิร้อยละ 9.5 ซึ่งคิดเป็นกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรก เท่ากับ 239 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

เนื่องจากปัจจัยหลักมาจากในงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรพิเศษจากการต่อรองราคาซื้อบริษัท SENX และมีการปรับสัญญาว่าจ้างบริหารโครงการ และรับรู้รายการขายทรัพย์สินของบริษัทย่อย คณะกรรมการบริษัท ได้เล็งเห็นถึงแนวทางการบริหารความเสี่ยงให้สอดรับกับสถานการณ์ การเงินและภาวะดอกเบี้ยของโลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น

รวมถึงการเคลื่อนไหวของตลาดเงิน ตลาดทุนในปัจจุบัน เพื่อให้บริษัทมีความเข้มแข็งของกระแสเงินสดเพื่อรองรับความเสี่ยงจากปัจจัยดังกล่าว จึงมีมติงดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในปี 2566 และจะดำเนินการพิจารณาเรื่องการจ่ายปันผลอีกครั้งในรอบสิ้นปี 2566

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีสถานะความเข้มแข็งของยอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ที่ยังคงเติบโต ทั้งของบริษัท และบริษัทย่อยคิดเป็นมูลค่า 6,879 ล้านบาท

แบ่งเป็นโครงการที่พัฒนาเอง 868 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน 6,010 ล้านบาท พร้อมทั้งเตรียมโอนกรรมสิทธิ์ในครึ่งปีหลัง จำนวน 4 โครงการ

ประกอบด้วย 1. เฟล็กซี่ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ 2. เสนาคิทท์ เวสต์เกต-บางบัวทอง 2 3. เสนาคิทท์ บีทีเอส สะพานใหม่ 4. เสนาคิทท์ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง

ส่งผลให้บริษัทมีสินค้าคงเหลือสะสมรวมทั้งสิ้น 27,224 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าและรายได้ในอนาคต

บริษัทมีแผนขยายธุรกิจใหม่ที่พัฒนาให้ครอบคลุมการดูแลผู้บริโภค ทั้งธุรกิจบริการบริหารนิติบุคคล บริการสินเชื่อ การขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย เพื่อรองรับตลาด E-COMMERCE ในอนาคต

ธุรกิจบริการสุขภาพ ธุรกิจคลังสินค้า และโลจิสติกส์ รวมถึงธุรกิจด้านพลังงานสะอาดและธุรกิจปลูกป่า ซึ่งเป็นกลยุทธ์เชิงรุก ที่จะเป็นมากกว่าผู้พัฒนาอสังหาฯ ภายใต้ แนวคิด “The Essential Lifelong Trusted Partner”

สำหรับแผนลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจภายใต้แนวคิด Made Form Her “คิดละเอียดกว่า ก็อยู่สบายกว่า”

โดยมุ่งเน้นการดูแลคุณภาพชีวิตของลูกค้าในทุกช่วงอายุ และมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโต ด้วย 2 กลยุทธ์หลัก คือ

1.Convenient Living ใส่ใจเรื่องความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้สอยภายในบ้านและคอนโดมิเนียม

2.Sustainable Living ใส่ใจเรื่องการใช้ชีวิตให้ยั่งยืนพร้อมทั้งดูแลสิ่งแวดล้อม โดยนำแนวคิด Smart City มาใช้พัฒนา Feature ต่าง ๆ ในโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านใช้ชีวิตแบบลดคาร์บอนได้ง่าย ๆ ได้ทุกวัน

โดยพัฒนาออกมาเป็นโครงการแนวราบ ภายใต้แนวคิด “บ้านพลังงานเป็น 0” (บ้านไฟฟ้าเป็น 0) หรือ Zero Energy House (ZEH) ที่ต่อยอดมาจาก Hankyu Hanshin Properties Crop. (HHP)

บริษัทวิจัยพัฒนาสินค้าร่วมกับ ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chula Unisearch) เพื่อออกแบบเป็นที่อยู่อาศัย ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของคนไทย

จากงานวิจัยพบว่าแนวคิดบ้านพลังงานเป็น 0 สามารถลดการใช้พลังงานได้สูงสุดถึง 38%

นอกจากนี้ในส่วนของการพัฒนาโครงการแนวสูง หรือคอนโดมิเนียม ก็มีการนำใช้แนวคิดของ Smart City มาใช้พัฒนาเพื่อให้เกิดเป็น “คอนโด Low-Carbon”

เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบายและมีความสุขอย่างยั่งยืน โดยเริ่มพัฒนาสินค้าและเปิดขายตั้งแต่ไตรมาส 3/66 เป็นต้นไป

17/8/2566  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 17 สิงหาคม 2566 )

Youtube Channel