เซ็นทรัลพัฒนาเร่งเครื่องปั้นมิกซ์ยูส เปิดแผน 4 ธุรกิจหลัก 30 จังหวัดทั่วประเทศ ขึ้นแท่นกลุ่มธุรกิจไทยมุ่งเน้น Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่งที่สุด ด้วยแผนลงทุน 5 ปี มูลค่า 120,000 ล้านบาท พัฒนาทุกธุรกิจรวมกันกว่า 180 โครงการ
เตรียมพบโครงการใหม่ เซ็นทรัล จันทบุรี เปิด 26 พ.ค. 65 นี้, คอมมิวนิตี้ มอลล์ Marche Thonglor ไตรมาส 4/65 นี้, เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ไตรมาส 4/66, Central Park shopping center & office ภายในปี 2567, คอนโดมิเนียม PHYLL Phuket ด้านหลังเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า เปิดจองแล้ววันนี้ และโครงการโรงแรมที่โคราช, อุบลฯ และบ่อวิน ชลบุรี ปี 2569 เป้าหมายมีพอร์ตอสังหาริมทรัพย์รวมกัน 180 โครงการ มีการเติบโตใน 4 ธุรกิจอย่างคู่ขนานด้วยสัดส่วน Retail Property 72% และ Non-Retail 28% โดยมีพื้นที่รีเทลรวม 2.7 ล้าน ตร.ม., พื้นที่อาคารสำนักงานรวม 0.5 ล้าน ตร.ม., โรงแรมรวม 4,000 ห้อง และโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงรวม 68 โครงการภายใต้อย่างน้อย 6 แบรนด์ที่ตอบโจทย์ทุกเซ็กเมนต์
วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า เรามุ่งมั่นที่จะต่อยอดธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all นับจากนี้ทุกโครงการของเราจะมีมากกว่า 1 องค์ประกอบเป็นมิกซ์ยูสที่สมบูรณ์แบบ ด้วยกลยุทธ์ Retail-Led ที่มีศูนย์การค้าเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงทุกองค์ประกอบแบบ Fully-Integrated
โดยทั้ง 4 ธุรกิจสามารถเติบโตไปด้วยกันใน Ecosystem ของเซ็นทรัลพัฒนา มีศักยภาพที่จะขยายธุรกิจไปเองได้อย่างมีอิสระ ขึ้นอยู่กับทำเลและการตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละพื้นที่ เติมเต็มให้เป็น Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นทั้งในกลุ่มธุรกิจของเซ็นทรัลพัฒนา และของเซ็นทรัลกรุ๊ป
ดังนั้น การพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสของเราจึงไม่ได้มองแค่การเป็น shopping center เท่านั้น แต่เรามองไปถึงการเริ่มต้นชีวิตที่บ้าน คิดไปถึงการทำงานที่ที่ทำงาน และการไปพักผ่อนที่โรงแรมด้วย
รายละเอียดการพัฒนา 4 ธุรกิจหลัก ดังนี้
50 ศูนย์การค้า + 16 คอมมิวนิตี้มอลล์ นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและโครงการ กล่าวว่า กลยุทธ์สำคัญคือ 1) Develop District : บุกเบิกสร้างย่าน เปิดเมือง นำพาความเจริญไปยังทุกที่ที่เราไปถึง
2) Strong Synergy and Ecosystem : การมี Ecosystem ระหว่างทุกองค์ประกอบในโครงการ มอบความสะดวกสบายและ privilege ให้กับผู้ใช้งานในทุกส่วน รวมไปถึงการผนึกกำลังในกลุ่มเซ็นทรัลทั้งการแบ่งปันความเชี่ยวชาญและการใช้ Big Data จาก The 1 ทำให้เราเข้าใจตลาดทั่วประเทศ
และ 3) Community at heart: ยึดหลักการ co-create กับท้องถิ่น ทั้งในด้านการสร้าง Local Wealth และการส่งเสริม Local Essence ของท้องถิ่นนั้น ๆ
นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ Head of Community Mall Business กล่าวเสริมว่า สำหรับธุรกิจคอมมูนิวตี้มอลล์ เราตั้งใจที่จะปรับกลยุทธ์และต่อยอดให้ดีขึ้นด้วยแนวคิด Center of Life พร้อมยกระดับไลฟ์สไตล์ให้เข้าถึงลูกค้าและชุมชนมากขึ้น
โดยธุรกิจ Small Retail นี้จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงการขนาดใหญ่ที่มีอยู่แล้ว ทำให้ขยายไปสู่ทำเลศักยภาพสูงและย่าน CBD ได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น โดยวางแผนเปิดให้บริการในไตรมาส 4/65 โครงการ Marche Thonglor ที่จะตอบโจทย์ neighborhood ที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ
สำหรับแผนขยายโครงการในต่างประเทศ เซ็นทรัลพัฒนาตั้งเป้าเป็น Regional Retail Platform ที่นำพาธุรกิจต่าง ๆ ต่อยอดความสำเร็จร่วมกัน ปัจจุบันได้เปิดโครงการศูนย์การค้าไทยแห่งแรกคือเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ ที่มาเลเซีย
นอกจากนี้ ยังคงศึกษาโอกาสใหม่ ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะมาเลเซียและเวียดนาม ต่อยอดจากที่กลุ่มเซ็นทรัลได้เข้าไปบุกเบิกการทำธุรกิจ
ปั้นธุรกิจที่อยู่อาศัย 68 โครงการ ร.อ.กรี เดชชัย President of Residential Business กล่าวว่า ธุรกิจ Residential เป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับเซ็นทรัลพัฒนามากกว่า 8 ปี วันนี้เราพร้อมก้าวสู่การเป็น Top Developer พัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ครอบคลุมทั้งแนวราบและแนวสูง
โดยมีกลยุทธ์ในการพัฒนาต่อยอดกับโลเกชั่นของศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนา และจับมือกับโครงการต่าง ๆ ร่วมกับเครือกลุ่มเซ็นทรัล รวมถึงการพัฒนาโครงการเดี่ยวอีกมาก เราเป็นผู้นำคอนโดมิเนียมและโครงการหมู่บ้านจัดสรรบนทำเลศักยภาพสูงที่อยู่ติดหรือใกล้กับศูนย์การค้า ซึ่งมอบความสะดวกสบายครบทุกไลฟ์สไตล์ให้กับลูกบ้าน
อีกทั้งมุ่งมั่นที่จะส่งมอบโครงการคุณภาพภายใต้แบรนด์และฟอร์แมตที่หลากหลายทั้งแนวสูงและแนวราบ ได้แก่ คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ นอกจากนี้ เรายังเลือกทำเลที่ดีที่สุดของย่านและเมืองนั้น ๆ ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเสมอ เรียกว่าการเป็นลูกบ้านเซ็นทรัลแตกต่างด้วย คุณภาพการอยู่อาศัยที่ดี ลงทุนก็มั่นคง ให้บ้านเซ็นทรัลเป็นบ้านที่ดีที่สุดในทุกย่าน ทุกเมือง และทุกจังหวัดของไทย
ปัจจุบัน Central Pattana Residential มีทั้งหมด 22 โครงการรวมมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งมียอดโอนแล้ว 10,000 ล้านบาท และยอดรอรับรู้รายได้ 3,700 ล้านบาท มีลูกบ้านเซ็นทรัลแล้วกว่า 10,000 ราย
บุกโรงแรม 37 โครงการ 4,000 ห้อง นายภูมิ จิราธิวัฒน์ Head of Hotel Property กล่าวว่า ธุรกิจโรงแรมเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เซ็นทรัลพัฒนามีความเชี่ยวชาญ ปัจจุบันเรามีเซ็นทารา อุดรธานี และฮิลตัน พัทยา โดยเล็งเห็นถึงการเพิ่มศักยภาพของธุรกิจโรงแรมในทุกจังหวัดให้มีมาตรฐาน ยกระดับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวได้ มีความมั่นใจในการขยายธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศ ด้วยจุดแข็งของทำเลที่ตั้งอยู่บนทำเลโดดเด่นใจกลางเมืองเป็นจุดเริ่มต้นของทุกการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน อีกทั้งการเชื่อมโยงกับศูนย์การค้ายังมอบความสะดวกสบายครบครัน
โดยมุ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่ภายใต้ 3 แบรนด์ ได้แก่ Centara แบรนด์ระดับ Upscale ที่มาพร้อมส่วนสัมมนาและการจัดเลี้ยง, แบรนด์ Lifestyle Midscale ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกแบบทั้งทำงานและพักผ่อน และแบรนด์ Premium budget อยู่ในทำเลที่โดดเด่น สะดวก สะอาด ปลอดภัย ทั้งนี้ เราจะพัฒนาโรงแรมที่ได้ระดับมาตรฐาน พร้อมทั้งคุณภาพและการให้บริการ ภายใต้การบริหารของเชนโรงแรมให้กับทุกจังหวัด โดยมีทั้งแผนเปิดในโครงการศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนาในจังหวัดต่าง ๆ และพัฒนาร่วมกับศูนย์การค้าในเซ็นทรัลกรุ๊ปด้วย
ปักหมุด 13 สำนักงานทำเลไพร์มแอเรีย นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ Chief Financial Officer and Senior Executive Vice President, Finance, Accounting and Risk Management กล่าวว่า ประสบการณ์กว่า 40 ปี ธุรกิจออฟฟิศได้รับความเชื่อมั่นจากธุรกิจชั้นนำตั้งแต่องค์กร Corporate ขนาดใหญ่ไปจนถึงบริษัทและสตาร์ตอัพรุ่นใหม่ โดยเราครองความเป็น Leading Player ในย่าน Bangkok CBD และ Prime Locations เชื่อมต่อเข้ากับพื้นที่ศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่บน Financial & Business District ที่สำคัญ
โดยที่ผ่านมาอาคารสำนักงานของเรารักษา Occupancy Rate ได้มากกว่า 90% มาโดยตลอด พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาและปรับปรุงโครงการของเราอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ด้วยความเชี่ยวชาญในการพัฒนา Space รูปแบบใหม่ ๆ และความใส่ใจในคุณภาพชีวิตทุกคนที่ต้องเข้ามาใช้พื้นที่
นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นพัฒนาอาคารสำนักงานเป็น LEED Green Building ภายใต้วิสัยทัศน์ด้าน Sustainability ของเราด้วย
สำหรับปี 2565 โฟกัสสำคัญคือการปรับโฉม The Offices at centralwOrld และวางแผนขยายโปรเจ็กต์ในอนาคต ได้แก่ Central Park Office ภายในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ที่จะพลิกโฉมสู่ Professional Hub ระดับโลก และโครงการภายใต้บริษัท GLAND ในย่านพระราม 9 CBD ศักยภาพสูง เพื่อตอบรับเทรนด์แห่งอนาคต
นอกจาก 4 ธุรกิจหลักภายใต้ Retail-Led Mixed-Use Development เซ็นทรัลพัฒนายังมีกลุ่มธุรกิจ Alternative Assets เพื่อมองหาโอกาสในการขยายและลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะเติมเต็ม Ecosystem และเชื่อมโยงกับธุรกิจหลัก อาทิ การร่วมทุน Grab ที่เป็น Delivery Platform และ Common Ground ที่เป็น Co-Working Space และเตรียมศึกษาการลงทุนใน Venture Capital ที่เตรียมเปิดเผยรายละเอียดเร็ว ๆ นี้
19/5/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (19 พฤษภาคม 2565)