แสนสิริโชว์ยอดขาย 4 เดือน ทะลุ 10,500 ล้านบาท มั่นใจปี65 ผลงานตามเป้า โต 34% รุกไตรมาส 2 เปิดตัว 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 13,800 ล้านบาท แย้มแผนพันธมิตรประเทศญี่ปุ่น โตคิว กรุ๊ป เห็นศักยภาพทำเล กรุงเทพกรีฑา เตรียมจับมือพัฒนาโครงการแนวราบโครงการแรก จ่อคิวเปิดตัวปีนี้
วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่าแสนสิริ ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจตามแผนการดำเนินงาน SANSIRI STEP BEYOND เติบโตอย่างแข็งแกร่งยั่งยืนในทุกมิติ ภายใต้ 3 กุญแจสำคัญขับเคลื่อนองค์กร PROFIT PEOPLE PLANET มุ่งสร้างรายได้และผลกำไรเพื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน และสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร ตามที่ได้วางไว้
อุทัย อุทัยแสงสุข ส่งผลให้มียอดขายในช่วง 4 เดือน ทะลุ 10,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% จากเป้าหมายยอดขาย 35,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 7,400 ล้านบาท คิดเป็น 70% และยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม อีก 3,100 ล้านบาท หรือ 30%
โดยบ้านเดี่ยวแบรนด์เศรษฐสิริได้รับการตอบรับมากที่สุด รองลงมา คือไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่แบรนด์ XT และทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่ สิริ เพลส ดรีม เดสติเนชัน สะท้อนถึงความต้องการที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์แสนสิริที่มีดีมานด์ครอบคลุมในทุกระดับราคา ทั้งบ้านเดี่ยวระดับบน คอนโดมิเนียมใจกลางเมืองจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และแบรนด์ทาวน์โฮมระดับราคาเข้าถึงง่าย สิริ เพลส ที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการมีบ้านหลังแรก
แสนสิริมั่นใจว่า จะสร้างผลงานยอดขายได้ 35,000 ตามเป้าหมายที่วางไว้ เติบโตขึ้น 34% โดยในครึ่งปีหลังแสนสิริจะมีรายได้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ จากโครงการแนวราบที่ได้รับการตอบรับที่ดี รวมถึงบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ที่จะทยอยสร้างเสร็จและส่งมอบให้กับลูกค้าได้อีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ในไตรมาสแรกของปี 65 แสนสิริสามารถทำรายได้รวม 5,220 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 4,288 ล้านบาทซึ่งมาจากการโอนโครงการแนวราบถึง 80% และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 20% โดยรายได้จากการขายโครงการมิกซ์โปรดักส์ บ้านและทาวน์โฮมแบรนด์ อณาสิริ โกยรายได้ 668 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 10% จากช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
โดยโครงการอณาสิริ ชัยพฤกษ์-วงแหวน โครงการ อณาสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี และโครงการอณาสิริ รังสิต โกยแชมป์รายได้สูงสุด
ทั้งนี้ รายได้จากการตอบรับโอนที่อยู่อาศัยจากกลุ่มลูกค้าที่ดีอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรก ตอกย้ำถึง Real Demand และส่งผลให้แสนสิริมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งโดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 303 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 5.8% ของรายได้รวม โตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีอัตรากำไรสุทธิ 5.6% โดยปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายโครงการ นายอุทัย กล่าว
นอกจากนี้จากสถานการณ์โควิดที่เริ่มดีขึ้น การผ่อนคลายของมาตรการและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีทิศทางที่ดี ยังส่งผลให้แสนสิริมีรายได้ค่าบริหารโรงแรมจากจากการเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนกว่า 62% ในสแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทแม่ของเครือโรงแรม The Standard (เดอะ สแตนดาร์ด) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกที่มีอิทธิพลที่สุดในธุรกิจบูทีคโฮเต็ล ที่สร้างเสียงชื่นชมทั้งในนิวยอร์ก, ไมอามี่, ลอนดอน และอีกหลายเมืองทั่วโลก สร้างรายได้จากการบริหารโรงแรมในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้อีก 106 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2 แสนสิริวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกประมาณ 11โครงการ มูลค่ารวม 13,800 ล้านบาท โดยล่าสุดแสนสิริได้ตัวโครงการ อณาสิริ รามคำแหง มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท สานต่อความสำเร็จของแบรนด์ อณาสิริ ที่ประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับที่ดีมากในปีที่ผ่านมาจนถึง เพื่อตอบรับความต้องการที่หลากหลาย บ้านและทาวน์โฮมในโครงการเดียว ภายใต้แนวคิดการอยู่อาศัย Feel Just Right ความพอดีที่ลงตัว
โครงการล่าสุด อณาสิริ รามคำแหง สีสันของความพอดี ในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ดีไซน์ใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยมีในโครงการของแสนสิริมาก่อน ให้คุณใช้ชีวิตอย่างมีสีสันในบ้านที่พอดีกับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่ลงตัวกับทุกคนในครอบครัว เปิดต้อนรับด้วยบรรยากาศอบอุ่นและสดใสในพื้นที่ส่วนกลางที่ถูกถ่ายทอดผ่านดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองตากอากาศในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
พร้อมครั้งแรกของแสนสิริ บนทำเลแห่งอนาคต รามคำแหง กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เพียง 10 นาที ถึงสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม และมอเตอร์เวย์ เดินทางสะดวกเชื่อมต่อเมืองรวดเร็วด้วย 4 ถนนสายหลัก ได้แก่ รามคำแหง, กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่, ร่มเกล้า และเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้านครบ
ประกอบด้วย บ้านแฝดและทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่จำนวน 272 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 99 148 ตารางเมตร กับ 4 แบบบ้าน 4 ฟังก์ชัน รองรับการอยู่อาศัยในทุกรูปแบบความต้องการ ในราคาจับต้องง่าย 3.69 8 ล้านบาท ข้อมูลโครงการเพิ่มเติม http://siri.ly/5Iy5fR5 รวมถึงโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมในไตรมาส 2 ซึ่งการดำเนินงานตามแผนธุรกิจที่วางไว้จะทำให้แสนสิริสร้างผลงานได้ตามเป้าหมายยอดขาย ยอดโอน 35,000 ล้านบาท ตามที่วางไว้ นายอุทัย กล่าว
นอกจากนี้ จากศักยภาพของทำเล กรุงเทพกรีฑา ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง จากการเป็นทำเลที่อยู่อาศัยคุณภาพ แวดล้อมด้วยไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ดี ทั้งโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ โรงพยาบาลชั้นนำ และคอมมูนิตี้มอลล์ที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตสู่การเป็นเมืองเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีที่สุด รวมทั้งยังเป็นทำเลที่เดินทางสะดวก ด้วยเส้นทางคมนาคมที่หลากหลายและเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจได้โดยง่าย ด้วยเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบาย ทั้งถนนศรีนครินทร์ ร่มเกล้า หรือถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ขนาด 6 เลน เชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญเข้าสู่เมือง อาทิ ถนนศรีนครินทร์ ร่มเกล้า, ถนนกรุงเทพกรีฑา, ถนนพระรามเก้า มอเตอร์เวย์, ถนนพัฒนาการ และถนนหัวหมาก
รวมทั้งรถไฟฟ้าอีก 3 สาย ทั้งแอร์พอร์ตเรลลิงค์ เส้นทางพญาไท สุวรรณภูมิ ที่เดินทางเข้าสู่ CBD ได้อย่างรวดเร็ว และโครงการรถไฟฟ้าที่จ่อคิวเปิดให้บริการในอนาคตอีก 2 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองและรถไฟฟ้าสายสีส้ม
โดยแสนสิริได้พัฒนาสังคมที่อยู่อาศัยคุณภาพในทำเลนี้มาแล้ว 2 โครงการ ขนาดพื้นที่รวม 155 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 7,500 ล้านบาท ในทำเลดีที่สุดของกรุงเทพกรีฑา ที่มีความโดดเด่นของพื้นที่โครงการ เชื่อมต่อถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) และ รามคำแหง และเข้าออกโครงการได้ถึง 2 เส้นทาง
รวมทั้งมีแผนพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มเติมในปีนี้ โดยล่าสุดพันธมิตรที่สำคัญของแสนสิริ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ยังได้ให้ความสนใจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยร่วมกันจากการมองเห็นศักยภาพของการพัฒนาเมืองในทำเลนี้ หลังจากประสบความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมร่วมกันในก่อนหน้านี้มาแล้ว โดยคาดว่าจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้
20/5/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (20 พฤษภาคม 2565)