นิโตริ เดินหน้าเต็มสูบ เตรียมตัดริบบิ้นเปิดอีก 2 สาขาใหม่ เซ็นทรัลเวสต์เกต-เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ส่งท้ายปี ตั้งเป้าเปิดครบ 25 สาขาทั่วประเทศ ภายใน 5 ปี กางแผนปี67 เปิดครบ 10 แห่ง โฟกัสกรุงเทพฯ ก่อนบุกออกต่างจังหวัด พร้อมขยายช่องทางออนไลน์ ขนทัพสินค้าใหม่ช่วยขยายฐาน
หลังจาก นิโตริ แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านครบวงจร แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น ได้บุกชิงเค้กตลาดสินค้าของตกแต่งบ้านในไทย โดยประเดิมสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (ชั้น 5 โซน i) และถือเป็นแฟลกชิปสโตร์ใจกลางกรุง บนพื้นที่กว่า 2,600 ตร.ม. ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และถัดมาอีกเดือน นิโตริเดินหน้าขยายสาขาที่ 2 เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่ศูนย์การค้าซีคอน บางแค โลเกชั่นที่สามารถเดินทางสะดวกทั้งทางรถยนต์ และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีภาษีเจริญ และมีสกายวอล์กเชื่อมต่อเข้ามายังศูนย์การค้าได้โดยตรง และถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ที่สำคัญในฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ
ตั้งเป้าเปิด 25 สาขา ใน 5 ปี
นายโอดะ โซอิจิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิโตริ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ ถึงแนวทางการดำเนินงานและยุทธศาสตร์จากนี้ไปว่า บริษัทยังมีแผนจะรุกตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ มีแผนจะเปิด นิโตริ สาขาที่ 3 และ 4 ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต และเดอะมอลล์บางกะปิ (ชั้น 1 บนพื้นที่กว่า 1,500 ตร.ม. คอนเซ็ปต์ A WIDE RANGE OF PRODUCTS AT AFFORDABLE PRICES ภายใต้แนวคิดการใช้พื้นที่ที่คุ้มค่า และราคาที่จับต้องได้) โดยทั้ง 2 สาขานี้จะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมนี้ และถัดไปในปี 2567 ก็มีแผนจะขยายสาขาให้ครบ 10 สาขา ตามแผนที่วางไว้ โดยจะเน้นการขยายสาขาไปในศูนย์การค้าเป็นหลัก
ทั้งนี้ เนื่องจากนิโตริเป็นแบรนด์ใหม่สำหรับประเทศไทย ยังมีการรับรู้ในแบรนด์ไม่มาก บริษัทจึงเน้นการขยายสาขาในศูนย์การค้าเป็นหลัก โดยช่วงแรกจะเน้นโฟกัสการเปิดสาขาในเขตกรุงเทพฯก่อน จากนั้นเมื่อพร้อมบริษัทจึงจะขยายสาขาในต่างจังหวัดต่อไป โดยแผนระยะยาวในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เราตั้งเป้าว่าจะสามารถเปิดสาขาครบ 25 สาขาในประเทศไทย ภายในระยะเวลา 5 ปี
ขนสินค้าใหม่ขยายฐานลูกค้า
กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิโตริ รีเทล กล่าวด้วยว่า นอกจากการเดินหน้าขยายสาขาดังกล่าวแล้ว ต้นปีหน้าบริษัทก็จะมีการเพิ่มไลน์สินค้าใหม่หลายรายการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเครื่องครัว เนื่องจากยอดขายสินค้าในกลุ่มเครื่องครัวเติบโตอย่างมากในไทย หลายสินค้าดั้งเดิมของนิโตริที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่นจะได้รับการปรับใหม่ให้สามารถใช้งานได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทก็ให้ความสำคัญและเน้นการพัฒนาระบบ supply chain ให้ดียิ่งขึ้น
ตอนแรกเราคิดว่าคนไทยนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านมากกว่าทำเองที่บ้าน จึงอาจจะทำให้ขายสินค้ากลุ่มอุปกรณ์ทำอาหารไม่ดี แต่ความจริงแล้วสินค้ากลุ่มนี้กลับขายดีมากในเมืองไทย และเราสังเกตเห็นว่าสินค้าที่เน้นเรื่องประโยชน์ใช้สอย (high functionality) ก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นเดียวกัน จึงมีแผนที่จะเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ ๆ เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องครัว
แนวทางการทำตลาดอีกอย่างหนึ่งคือ การขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากขึ้น โดยมีแผนจะขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ เนื่องจากในประเทศญี่ปุ่นมีแบรนด์สินค้าที่มีสไตล์ค่อนข้าง feminine หรือสินค้าเกี่ยวกับผู้หญิงมากกว่าที่นิโตริเป็นอยู่ และบริษัทวางแผนจะพัฒนาสินค้าของเราไปในแนวทางนั้นในอนาคต
กางแผนรุกขายออนไลน์
กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิโตริ รีเทล กล่าวด้วยว่า ในส่วนการทำการตลาดในช่องทางออนไลน์ บริษัทได้มีการพัฒนาเว็บไซต์ www.nitori.co.th เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าดูสินค้า และศึกษาสินค้าล่วงหน้าได้สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทางมาที่หน้าร้าน โดยได้เริ่มให้ทดลองใช้แล้วที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นต้น รวมถึงในอนาคตบริษัทก็มีแผนจะพัฒนาและขยายช่องทางการขายใหม่ ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee เพื่อให้ลูกค้าสามารถช็อปออนไลน์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
โดยตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นิโตริ ได้เปิดให้บริการสำหรับการสั่งซื้อสินค้าผ่าน www.nitori.co.th และรับสินค้าที่หน้าร้านสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ โดยร้านค้าจะดำเนินการจัดเตรียมสินค้าภายใน 24 ชั่วโมง และลูกค้าสามารถเข้ามารับสินค้าได้ 1 วันถัดไปหลังจากสั่งซื้อ
เมื่อถามถึงความคาดหวังและเป้าหมายการดำเนินงานในแง่ของรายได้ในปี 2566 นายโอดะ โซอิจิ กล่าวว่า ในขั้นแรกตั้งเป้าว่าจะสามารถจบปี 2566 ด้วยผลประกอบการที่มีกำไร และสามารถเปิดสาขาในประเทศไทยได้ครบ 10 สาขาภายในปี 2567
ปูพรมเจาะตลาดเอเชีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามยุทธศาสตร์การดำเนินงานของนิโตริ กรุ๊ป บริษัทแม่จากประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป มีแผนจะเร่งขยายสาขาในเอเชียเพิ่มเติมให้ถึง 3,000 สาขา เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดเอเชียที่เป็นหนึ่งในตลาดหลักของนิโตริ กรุ๊ป พร้อมตั้งเป้ายอดขายในเอเชียไว้ราว 7.2 แสนล้าน ภายในปี 2032 โดยหลังจากที่ นิโตริ ได้เปิดสาขาแรกในประเทศไทย เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทยังมีแผนจะเปิดสาขาแรกในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ เพิ่มเติมอีกด้วย โดยคาดการณ์ว่าภายในเดือนมีนาคม 2024 นิโตริจะสามารถเปิดสาขาได้เพิ่มได้มากขึ้นกว่า 78 สาขา ส่งผลให้จะมีสาขารวมทั่วภูมิภาคเอเชียมากถึง 206 สาขา พร้อมตั้งเป้าว่าตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป จะเปิดสาขาใหม่ในต่างประเทศให้ได้ปีละประมาณ 300 สาขา
ปัจจุบันร้านนิโตริมีสาขาทั่วโลกรวมกว่า 954 สาขา แบ่งเป็นสาขาในประเทศญี่ปุ่น 805 สาขา และสาขาในภูมิภาคเอเชีย เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง อีกกว่า 149 สาขา และประเทศไทยอีก 2 สาขา โดยได้วางแผนจะขยายสาขาเพิ่มเติมเป็น 25 สาขาในไทย ภายในระยะเวลา 5 ปี
สำหรับสินค้าที่วางจำหน่ายในร้านนิโตริหลัก ๆ จะเป็นเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน อาทิ โซฟา โต๊ะกาแฟและโต๊ะข้าง เก้าอี้รับประทานอาหาร ที่นอนเดี่ยว ตู้เสื้อผ้า และกลุ่มเครื่องนอน อาทิ หมอนนอน ปลอกหมอนและแผ่นรอง หมอนข้างและหมอนหนุน รวมทั้งจะมีกลุ่มเครื่องครัว อาทิ หม้อและกระทะ ชามและกระชอน มีดและเขียง เป็นต้น นอกจากนี้ นิโตริ กรุ๊ป ยังมีสินค้าแบรนด์อื่น ๆ ในเครือมากมาย อาทิ แบรนด์ DECO HOME ที่เน้นสินค้าตกแต่งบ้านที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน แบรนด์ SHIMACHU?ที่เพิ่มการจำหน่ายสินค้างานช่าง เครื่องมือช่าง ไปพร้อม ๆ กับสินค้าตกแต่งบ้าน และแบรนด์ N PLUS เครื่องแต่งกายสำหรับผู้หญิง เป็นต้น
9/11/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 9 พฤศจิกายน 2566 )
