ดีเดย์ธันวาคม 2567 นี้ คอนโดมิเนียมลักเซอรี่ เดอะคราวน์ เรสซิเดนท์เซส เตรียมโอนห้องชุดห้องแรกให้กับลูกค้า หลังใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปีเต็ม
แม้จะนับเป็นโครงการแนวสูงแห่งที่ 2 ของกลุ่มสถาพร เอสเตท แต่บริษัทก็เป็นหนึ่งในตำนานหมู่บ้านจัดสรรของไทยอีกค่ายหนึ่ง มีประสบการณ์อยู่กับอสังหาริมทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 30 ปี ล่าสุด ผู้บริหารสถาพร เอสเตท ได้รับเสียงโหวตเอกฉันท์ให้นั่งเก้าอี้นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร วาระประจำปี 2567-2569
ราคาขยับ 2.8 แสน/ตร.ม.
อินโทรดักชั่นพอสังเขป เพื่อจะได้เข้าใจตรงกันว่าเจ้าของโครงการเดอะคราวน์ เรสซิเดนท์เซส เป็นมือพัฒนาที่ดินตัวพ่อ ทำให้อ่านทำเลขาด มองปราดเดียวก็รู้ถึงวิธีการเบียดแทรกตัวเข้ามาแข่งขัน บนทำเลที่มียักษ์ธุรกิจอย่างน้อย 2 ราย ปักหมุดโครงการล่วงหน้ามาก่อน
เหตุผลที่ทำให้คนมาทีหลังแล้วปรบมือได้ดังกว่า อย่างน้อยที่สุดมาจากสถิติยอดขายคอนโดฯ ลักเซอรี่-ซูเปอร์ลักเซอรี่ที่ตั้งอยู่ใกล้กันแค่ระยะเดินถึง ราคาดันเพดานขึ้นไปอยู่ที่ตารางเมตรละ 3.5-4.5 แสนบาท ขณะที่เดอะคราวน์ เรสซิเดนท์เซส มีราคาเริ่มต้นตอนที่ยังเป็นโครงการบนกระดาษเมื่อ 2 ปีที่แล้ว อยู่ที่ 2.3 แสนบาท
แน่นอนว่าปัจจุบันราคาเดอะคราวน์ ขยับสูงขึ้นไปตามความคืบหน้าของการก่อสร้าง มาอยู่ที่ 2.8 แสนบาท/ตารางเมตร
ห้องชุดเหลือขาย 35%
โดย สุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า เดือนตุลาคมนี้ The Crown Residences ต้องการส่งคีย์เมสเสจถึงลูกค้าและว่าที่ลูกค้า ผู้ที่กำลังมองหาห้องชุดลักเซอรี่ บนทำเลริมถนนพระราม 4 ที่สำคัญอยู่บนหมุดหมายโซนซูเปอร์ไพรมแอเรียของพระราม 4 อีกต่างหาก
ล่าสุดความคืบหน้าการก่อสร้างเกือบ 100% โดยวางแผนส่งมอบห้องชุดห้องแรกให้กับลูกค้าภายในต้นเดือนธันวาคม 2567 นี้ ปัจจุบัน โครงการมียอดขายแล้ว 65% จากจำนวน 178 ห้องชุด เหลือขาย 35% จำนวน 60-70 ห้องชุดเท่านั้น
แม้คลื่นลมและพายุเศรษฐกิจในภาพรวมยังโหมกระหน่ำ แต่เดอะคราวน์ เรสซิเดนท์เซส ไม่มีความจำเป็นจะต้องเข้ามาเล่นเกมสงครามราคาแต่อย่างใด โดยมองเป้าปิดการขายโครงการแบบคอนเซอร์เวทีฟภายในปี 2568 ในขณะที่เป็นห้องชุดพร้อมอยู่ ราคาจับต้องได้เมื่อเทียบกับทำเลที่ตั้ง จึงมั่นใจว่าดึงดูดลูกค้าได้ทั้งกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ (ซื้ออยู่อาศัยเอง) กับลูกค้าซื้อลงทุนปล่อยเช่า รวมทั้งมีโอกาสที่ราคาจะขยับไปถึง 3 แสนบาท/ตารางเมตร
รายละเอียด ออกแบบเป็นคอนโดฯ ไฮไรซ์สูง 32 ชั้น 1 อาคาร ดีไซน์หวงความเป็นส่วนตัวมีห้องชุดชั้นละ 6-7 ห้อง บนพื้นที่โครงการ 1-0-68 ไร่ ในรูปแบบ Freehold (โอนกรรมสิทธิ์) ท่ามกลางคอนโดฯ Leasehold (สิทธิการเช่า) มูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 2,200 ล้านบาท ปัจจุบันห้องชุดราคาเริ่มต้น 6.9-25 ล้านบาท
ดีไซน์ชีวิต Own Your Crown
ทั้งหมดนี้ สนับสนุนให้เดอะคราวน์ เรสซิเดนท์เซส มีจุดขายโดดเด่น สามารถเดินทางเชื่อมแบบไร้รอยต่อทั้งสุขุมวิท และสีลม-สาทร ซึ่งเป็นทำเลอัลตรา CBD เอกสิทธิ์การเป็นเจ้าของห้องชุดสามารถเทกวิวสวนสาธารณะสีเขียวของเมือง ทั้งสวนลุมพินี สวนเบญจกิติ ทะลุแม่น้ำเจ้าพระยาไปถึงบางกระเจ้า
สถาปนิกโครงการรับผิดชอบโดยบริษัท Tandem ออกแบบฟาซาด (หน้าตาโครงการ) โดยใช้เส้น Horizontal Shading ให้ทุกห้องรับวิวธรรมชาติด้วยการไล่ระดับของระเบียงสลับซ้าย-ขวา เพื่อเปิดรับวิวแบบ Utmost Park View รวมพื้นที่สวนกว่า 850 ไร่
ภายในห้องชุดดีไซน์ห้องหน้ากว้างแบบ Wide Frontage สามารถเทกวิวได้อย่างต่อเนื่องแบบ Unlimited ถึง 9 เมตร เพื่อให้ทุกช่วงเวลาคือความพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ให้เพลิดเพลินไปกับวิวสวนสีเขียว และวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา
หนึ่งในไฮไลต์เป็นพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้า ปักหมุดบนชั้น 32 นำเสนอ Starry Night Rooftop Riverview พื้นที่ชั้นดาดฟ้าที่สามารถชมวิวสวนสาธารณะได้แบบพาโนรามา, Starry Night Infinite Pool สระว่ายน้ำไร้ขอบ มาพร้อม Aqua Sunken Seat สระจากุซซี่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ, Crystal Lounge มาพร้อมฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานตลอดทั้งวัน อาทิ Crown Bar, All-Day Dining, ฟิตเนสและเลานจ์ โดยร่วมกับแบรนด์ชนินทร์ หนึ่งใจผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ชั้นนำของไทย
นอกจากนี้ เดอะคราวน์ เรสซิเดนท์เซส ยังมีบริการ Concierge Services อาทิ บริการต้อนรับ, บริการขนสัมภาระ, บริการรถขนของสำหรับลูกบ้านย้ายเข้า, บริการทำความสะอาด, บริการรับและส่งพัสดุ-อาหารดีลิเวอรี่จากหน้าคอนโดฯ, บริการพนักงานอำนวยความสะดวก, บริการเรียกรถแท็กซี่ให้กับลูกบ้าน เป็นต้น น่าสนใจมาก ๆ ว่าลิสต์รายการบริการเป็นหางว่าว แต่มีค่าใช้จ่ายส่วนกลางไม่ถึงเดือนละ 100 บาท/ตารางเมตร
6 ปัจจัยซื้ออนาคตพระราม 4
ถัดมา ณัฏฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า เดอะคราวน์ เรสซิเดนท์เซส ตั้งบนสุดยอดทำเลยุทธศาสตร์ หรือ Hub of Bangkok Connections โดยมีข้อพิจารณาจากปัจจัยที่ว่า 1.ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 4 ซึ่งเป็นย่านไพรมแอเรีย 2.อยู่กึ่งกลางระหว่าง 2 สถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที ได้แก่ สถานีลุมพินีกับสถานีคลองเตย
3.ถนนฝั่งเดียวกันเดินแป๊บเดียวถึงโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค 4.ด้านฝั่งตรงข้ามถนนเป็นที่ตั้งโครงการวัน แบงค็อก
5.ไฮไลต์มีเทอมการขายแบบฟรีโฮลด์ หรือซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์ได้ แตกต่างจากคู่แข่งใกล้กันที่ซื้อขายแบบลีสโฮลด์หรือสิทธิการเช่า 30 ปี ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ยอดขาย 100 ห้องมีสัดส่วนมากถึง 70% เป็นลูกค้าคนไทยที่จองซื้อเข้ามาอย่างล้นหลาม
และ 6.เทรนด์อนาคตไม่ไกลในปี 2569 เฉพาะ 2 โครงการซูเปอร์ลักเซอรี่ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค-วัน แบงค็อก ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยกระดับมหานครกรุงเทพให้เป็น New Global Landmark Destination คาดว่ามีคนมาทำงาน 1 แสนคน นั่นหมายถึงดีมานด์ความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยในโซนพระราม 4 โดยอัตโนมัติ
ดังนั้น เพื่อสร้างแรงกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ เตรียมเปิดให้ชมห้องจริง วิวจริง ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
โดยไนท์แฟรงค์ชวนมองอนาคตแบบ มองข้ามชอต ว่า ทำเลพระราม 4 เพิ่งจะมีการซื้อขายที่ดินทำสถิตินิวไฮตารางวาละ 3 ล้านบาท (จากดีลกลุ่มเอสซี แอสเสท คอร์ป ซื้ออาคารศรีเฟื่องฟุ้ง) เทียบในอดีตที่เคยเริ่มต้นตารางวาละ 9.6 แสนบาท บ่งบอกว่าอนาคตบนเส้นถนนพระราม 4 จะมีการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมหน้าได้อีกหลายยก
7/10/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 7 ตุลาคม 2567 )
