เซ็นทรัลพัฒนาทุ่มงบฯ 1.5 หมื่นล้านบาท เดินหน้ายุทธศาสตร์ปั้นศูนย์การค้าสู่แลนด์มาร์กชุมชน-เมือง ลุยยกเครื่องเซ็นทรัล 4 สาขาเดิม ทั้งปิ่นเกล้า แจ้งวัฒนะ บางนา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต พร้อมปักธงสาขากระบี่ คาดทยอยเผยโฉมปี68-69 หวังชิงกำลังซื้อ กทม.-ตจว.
นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล Chief Development and Commercial Officer บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ปัจจุบัน Catchment Area หรือพื้นที่ในรัศมีให้บริการของศูนย์การค้าหลายแห่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและมีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งด้านกลุ่มผู้บริโภคที่เปลี่ยนเจเนอเรชั่น ทำให้ไลฟ์สไตล์และดีมานด์สินค้า รวมถึงกำลังซื้อ ส่งผลให้เกิดย่านที่มีลักษณะเฉพาะตัวขึ้น เช่น ปิ่นเกล้า, แจ้งวัฒนะ, บางนา, กระบี่, เชียงใหม่
ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้บริษัทต้องพัฒนายุทธศาสตร์ใหม่ สำหรับทั้งโครงการค้าปลีกสาขาใหม่และการรีโนเวตหรือพลิกโฉมสาขาเดิมให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลง เพื่อเพิ่มศักยภาพการดึงดูดผู้บริโภคและเร่งสปีดการเติบโต
โดยยุทธศาตร์ใหม่นี้จะมุ่งยกระดับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ให้กลายเป็นศูนย์กลางของย่านหรือเมืองที่สาขาตั้งอยู่ ด้วยจุดเด่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในพื้นที่ตั้งแต่ดีไซน์ภายนอก-ใน โซนต่าง ๆ เช่น อาหาร ความบันเทิงสำหรับเด็ก การศึกษา และไลน์อัพร้านค้า-บริการ กิจกรรม ไปจนถึงความเป็นมิกซ์ยูสด้วยที่อยู่อาศัย เพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคในพื้นที่เข้ามาใช้ชีวิตภายในศูนย์ได้ทั้งวัน
จากปัจจุบันที่มีระยะเวลาใช้บริการเฉลี่ย 2.5 ชั่วโมง/คนเท่านั้น เป้าหมายของเราคือ ให้ทุกย่านและทุกเมืองมีโครงการของเซ็นทรัลเป็น Landmark สำคัญของพื้นที่ และเป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตของผู้คน นายชนวัฒน์กล่าว
ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงตัดสินใจทุ่มงบฯ 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณ 10,500 ล้านบาท สำหรับรีโนเวตแบบพลิกโฉม ยกเครื่องคอนเซ็ปต์, ดีไซน์, Brand Mix และ Customer Journey & Experience ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล 4 สาขา คือ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ที่จะแล้วเสร็จช่วง Q2/68 ตามด้วย เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และ เซ็นทรัล บางนา ที่มีกำหนดแล้วเสร็จช่วง Q1/69 โดยทั้ง 4 สาขาจะใช้การรีโนเวตแบบสลับโซน เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ต่อเนื่องตลอดระยะเวลาโครงการ ส่วนงบฯอีก 4,500 ล้านบาทจะใช้สำหรับโครงการมิกซ์ยูส เซ็นทรัล กระบี่ ซึ่งจะมีกำหนดเปิดบริการ Q3/68
สำหรับไฮไลต์ของแต่ละสาขาจะแตกต่างกัน อาทิ เซ็นทรัล บางนา จะขยายเป็นโครงการมิกซ์ยูสยิ่งใหญ่ของย่านบนพื้นที่ 55 ไร่ โดยเฟสแรกจะโฟกัสในส่วนศูนย์การค้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ Urban Luxe & Lush Lifestyle เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Upper Class มากขึ้น
ส่วนเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า จะเป็น Complete Destination ที่ดีที่สุดในย่านธนบุรี ทั้งด้านอาหาร การช็อปปิ้ง ความบันเทิง ไปจนถึงการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชน
ด้านเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เน้นยกระดับประสบการณ์ภายในศูนย์ตั้งแต่ดีไซน์ใหม่แนวโมเดิร์น สินค้าระดับท็อป และแบรนด์แฟชั่นระดับอินเตอร์ ร้านอาหารแนวครอบครัว สวนสนุกสำหรับเด็ก ไปจนถึงพื้นที่จัดงานศิลปะและอีเวนต์
ในส่วนของเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จะเน้นตอบโจทย์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ร่วมกับผู้บริโภคในเขตเมืองเชียงใหม่ โดยใช้ประโยชน์จากที่ดินที่มีกว่า 100 ไร่ ขยายพื้นที่มิกซ์ยูสที่ประกอบด้วย Convention Hall, Tourist Hub และ Multigeneration Space พร้อมกับขยายพื้นที่ กาดหลวง แอร์พอร์ต ถึง 9,000 ตร.ม. ซึ่งประสบความสำเร็จมากในปัจจุบัน และ Local Food Market ที่ใหญ่ที่สุด พร้อมแบรนด์ Local Michelin Brands รวมถึงสินค้าทำมือจากผู้ผลิตในท้องถิ่น อีกทั้งยังเติมร้านค้าแบรนด์ใหม่ ๆ เพิ่มอีก 50%
สำหรับเซ็นทรัล กระบี่ ที่เป็นโครงการใหม่นั้น จะมีศูนย์การค้าขนาดพื้นที่ขาย 47,500 ตร.ม. และในอนาคต มีแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยบ้านระดับพรีเมี่ยม, คอนโดมิเนียมและโรงแรม โดยมีไฮไลต์เป็นกลุ่มอาคารที่นำเอารูปฟอร์มของหมู่เกาะมาออกแบบเป็น Floating Jewel of Krabi พร้อมจุดชมวิวภูเขาแบบพาโนรามิก เพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคมาเช็กอิน และยังมีโซน Authentic Culture & Product ของกระบี่ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติอีกด้วย กลยุทธ์นี้จะช่วยย้ำความเป็นผู้นำศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนาได้อย่างแน่นอน นายชนวัฒน์กล่าว
11/9/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 11 กันยายน 2567 )