บนความยากลำบากของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำต่อเนื่องยาวนาน นับตั้งแต่ปี 2562 ก่อนยุคโควิดในปี 2563 ด้วยซ้ำไป ค่ายอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นหนึ่งในดีเวลอปเปอร์ที่ต้องเผชิญปัจจัยท้าทายสารพัด และยังมองไม่เห็นว่าจุดตกต่ำทางเศรษฐกิจจะสิ้นสุดเมื่อใด หรือสิ้นสุดตรงไหน หลังจากใช้เวลาเพียง 5 ปี อาศัยประสบการณ์ผู้บริหารมืออาชีพสามารถพลิกฟื้นองค์กรให้กลับมามีกำไรได้ในที่สุด
โดย ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ระบุว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมาจะชะลอตัว กำลังซื้อทรุดตามเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ผจญกับความท้าทายรอบด้าน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อนันดาฯในฐานะบิ๊กแบรนด์อสังหาฯที่เป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมทำเลติดรถไฟฟ้าที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าคนเมืองได้เป็นอย่างดี ได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นในแบรนด์จากลูกค้าเสมอมา
ล่าสุด ผลประกอบการปี 2567 สามารถรักษาการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนศักยภาพการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพในการปรับตัวอย่างรอบด้าน พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ โดยได้มีการวางกลยุทธ์ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ที่สำคัญผลงานดีกว่าคาดการณ์ไว้อีกต่างหาก สามารถพลิกกลับมาทำกำไรครั้งแรกในรอบ 5 ปี (2563-2567) จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยปรับกลยุทธ์ด้วยการขยายตลาดกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ด้วยการสร้างอัตราการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 66% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา อัพเดตพอร์ตลูกค้าต่างชาติในปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขาย 41% ของยอดขายรวม จากเดิมมีสัดส่วนเพียง 11%
นอกจากนี้ ยังสร้างความสำเร็จจากการขยายช่องทางการขายโดยการขายผ่านเอเยนซี่ถึง 59% จากยอดขายรวม ทำให้บริษัทสามารถผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ที่ผ่านมาได้ พร้อมทั้งสามารถพลิกมีกำไรสุทธิครั้งแรกในรอบ 5 ปี สูงถึง 389 ล้านบาท
ผลดำเนินงานที่เป็นไฮไลต์ของปีที่แล้ว บริษัทสามารถปิดการขาย 100% (Sold Out) คอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่ารวม 14,560 ล้านบาท ได้แก่ แบรนด์ไอดีโอ จรัญฯ 70 ริเวอร์วิว มูลค่า 3,826 ล้านบาท, คิว ประสานมิตร มูลค่า 560 ล้านบาท, เอลลิโอ เดล เนสท์ มูลค่า 4,562 ล้านบาท, ไอดีโอ จุฬา สามย่าน มูลค่า 4,974 ล้านบาท และโครงการยูนิโอ ทาวน์ สวนหลวง-พัฒนาการ มูลค่า 638 ล้านบาท
กล่าวได้ว่าคอนโดฯทั้ง 5 โครงการ มีจุดเด่นคุณภาพงานก่อสร้าง ดีไซน์สุดล้ำตามสไตล์อนันดาฯ และทำเลที่ตั้งแนวรถไฟฟ้า ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่สมดุลให้แก่คนเมือง และที่สำคัญที่สุด คือ ความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ที่มีคุณภาพของอนันดาฯ ทำให้บรรทัดสุดท้ายทั้ง 5 โครงการประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ในด้านรายได้และกำไรในปี 2567 สร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน เป็นผลมาจากการมุ่งมั่นดำเนินงานอย่างแข็งแกร่งจากการขายอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของบริษัทและบริษัทย่อยเพิ่มขึ้น 2,487 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 98% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 จากการโอนโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Ready to Move) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการโคโค่ พาร์ค, อาร์เทล อโศก-พระราม 9 รวมถึงในไตรมาส 3/67 บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการแอริ สุขุมวิท-บางนา กม.5 และรายได้อื่น ๆ เพิ่มขึ้น
โดยไตรมาส 2/67 บริษัทบันทึกกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนประเภทหุ้นสามัญในกิจการร่วมค้า ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ (Serviced Apartments) และไตรมาส 4/67 บริษัทบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย
นอกจากนี้ อนันดาฯสามารถลดค่าใช้จ่ายทางการเงินลงได้มากกว่า 47% จากการชำระคืนหุ้นกู้ครบกำหนดตลอดปี 2567 จำนวนทั้งหมด 4 รุ่น รวมเป็นจำนวนเงิน 7,057 ล้านบาท
อนันดาฯยืนยันศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง วางเป้าหมายการพัฒนาโครงการตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ นำเสนอโครงการพร้อมอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดรองรับการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุน และให้ความสำคัญกับการดำเนินงานและบริหารจัดการกระแสเงินสด เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
6/3/2568 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 6 มีนาคม 2568 )