info@icons.co.th 02 810 8892-6 18.97.9.174

โฮมโปรทุ่ม 8,000 ล้าน เปิดเพิ่ม 12 สาขา อัพเกรดคลังสินค้าวังน้อย

Retails News / ข่าวหมวดห้างสรรพสินค้า

“โฮมโปร” พร้อมบุกตลาดปี 2568 วางแผนลงทุนใหม่ 6,000-8,000 ล้านบาท ขยายสาขาในรูปแบบโฮมโปร เมกาโฮม และไฮบริด รวม 12 สาขาทั่วประเทศ เสริมศักยภาพ Omni-Channel ขยายไลน์สินค้าใหม่บนออนไลน์ 10,000 รายการ ยกระดับ Home Service ให้ครอบคลุมทั่วไทย พร้อมขยายคลังสินค้าวังน้อย เป็น 2 แสน ตรม. รองรับการขยายสาขา 5 ปี มีจำนวน 170 สาขา

นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ กลยุทธ์และความยั่งยืนองค์กร บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2567 มีรายได้รวม 72,576.52 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,503.55 ล้านบาท ตอกย้ำความแข็งแกร่งของธุรกิจผ่านการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

ในปี 2568 วางเป้ารายได้รวมจากทุกกิจกรรมธุรกิจเติบโต 4-5% อยู่ที่ 75,000 ล้านบาทบวกลบ มีเป้าหมายลงทุนใหม่ในวงเงิน 6,000-8,000 ล้านบาท สำหรับการลงทุนปี 2568-2569 โดยมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้า ผ่านกลยุทธ์สำคัญ 5 ด้าน ได้แก่

1. ขยายสาขา และโมเดลธุรกิจใหม่ต่อเนื่อง บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ 12 แห่ง ครอบคลุมทั้งโฮมโปร เมกาโฮม และโมเดลไฮบริด โดยเน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มลูกค้าเจ้าของบ้าน ไปจนถึงกลุ่มช่างทั่วประเทศ

2. พัฒนาแพลตฟอร์ม Omni-Channel เชื่อมโยงออนไลน์และออฟไลน์ โฮมโปรจะขยายไลน์สินค้าใหม่กว่า 10,000 รายการบนแพลตฟอร์ม Market Place ครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท พร้อมพัฒนา Omni-Channel ให้สามารถเชื่อมโยงกับหน้าร้านได้อย่างไร้รอยต่อ รวมถึงขยายช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ผ่าน Live Streaming และการช้อปปิ้งแบบเรียลไทม์

3. การตลาดแบบ Personalized Marketing & พัฒนาและขยายการให้บริการบริษัทนำ Big Data มาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อพัฒนาโปรโมชั่นและแคมเปญที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น อีกทั้งยังมุ่งเน้นการเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ผ่านบริการในรูปแบบต่างๆ เช่น บริการปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านแบบครบวงจร ด้วยทีมช่างโฮมโปร มือโปรประจำบ้านคุณ มากกว่า 2,600 ทีมทั่วประเทศ

4. บริหารความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก โฮมโปรให้ความสำคัญกับการกระจายแหล่งวัตถุดิบ บริหารต้นทุนสินค้า และปรับกลยุทธ์ด้านราคาให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย และนโยบายเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อธุรกิจ

5. ดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (ESG) บริษัทให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด โดยมีโครงการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าร์เซลล์) ในสาขาต่างๆ พร้อมลดคาร์บอนฟุตพรินต์และขยะพลาสติก นอกจากนี้ ยังขับเคลื่อนโมเดล “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” เพื่อพัฒนาเป็นสินค้ารักษ์โลก ลดของเสีย และใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นายรักพงศ์ กล่าวว่า เรื่องใหม่ปีนี้ เตรียมขยายศูนย์กระจายสินค้าที่วังน้อย เป็นแผนลงทุนภายในปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า บนที่ดินรวม 250 ไร่ ปัจจุบันสร้า้งแล้ว 6 อาคาร พื้นที่จัดเก็บรวม 140,000 ตารางเมตร บริษัทเตรียมวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท สร้างคลังสินค้าอาคารที่ 7 พื้นที่จัดเก็บเพิ่ม 60,000-80,000 ตารางเมตร ในอนาคตเมือสร้างเสร็จจะทำให้โฮมโปรมีศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้าเพิ่มเป็น 200,000 ตารางเมตร รองรับเป้าการขยายสาขาให้มีจำนวนเพิ่มเป็น 170 สาขา

จากปัจจุบันมีจำนวน 136 สาขา แบ่งเป็นโฮมโปร 94 สาขา, โฮมโปร S 5 สาขา, เมกาโฮม 30 สาขา และโฮมโปร มาเลเซีย 7 สาขา โดยเป้าขยาย 12 สาขาในปีนี้ แบ่งเป็นโฮมโปร 7 สาขา, เมกาโฮม 5 สาขา กระจายอยู่ในต่างจังหวัดเป็นหลัก

“ตามวิสัยทัศน์และนโยบายของผู้บริหารระดับสูงที่ท่านได้เคยให้ไว้ ถึงการดำเนินธุรกิจของโฮมโปรภายใต้กรอบความยั่งยืน คือ โฮมโปรยังคงเดินหน้าพัฒนาและปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด โดยมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมั่นคงผ่านการขยายสาขา การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งหมดนี้เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า (Better Living) และขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวสู่อนาคตอย่างแข็งแกร่ง”

6/3/2568  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 6 มีนาคม 2568 )

ช่องยูทูปของ iCONS