อภิโปรเจ็กต์ระดับโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองไทย มูลค่าโครงการเดียว 1.25 แสนล้านบาท เรากำลังพูดถึง เดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC ปักหมุดบนถนนบางนา-ตราด กม.7 ทำเลเชื่อมแบบไร้รอยต่อเมืองหลวงกรุงเทพมหานครกับโซน EEC (ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก)
และยังมีอีกมากมายที่เป็นโครงการระดับเมกะโปรเจ็กต์ภาคเอกชนที่ลงทุนพัฒนาโดย MQDC-บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น ของตระกูลเจียรวนนท์ ซึ่งใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์
จากเป้าหมายที่ต้องการสร้าง Sustainnovation Living ซึ่งเป็นแนวทางการอยู่อาศัยแห่งอนาคต วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MQDC บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำซึ่งขยายธุรกิจไปทั่วโลก เปิดเผยว่า MQDC กำลังพัฒนาไปอีกระดับให้กลายเป็นบริษัทอสังหาฯ มีแนวทางการพัฒนาธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร
เป้าหมาย MQDC ไม่ใช่เป็นเพียงแค่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป แต่เราตั้งใจพัฒนาโครงการให้ตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขให้ครบทุกมิติ สร้างไลฟ์สไตล์แบบ Sustainnovation Living
ในช่วงเริ่มต้น MQDC ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมมาตลอด มีการลงทุนหลายร้อยล้านบาทก่อตั้งและพัฒนาศูนย์วิจัยระดับชาติ อาทิ RISC และ FutureTales Lab โดยมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาโลกร้อน รวมถึงพัฒนาโครงการที่คำนึงความมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้คนทุก ๆ กลุ่ม (inclusiveness) และดำเนินธุรกิจที่มอบความสุขยั่งยืนให้กับผู้คน (all well-being)
ไฮไลต์โครงการ The Forestias-เดอะ ฟอเรสเทียส์ by MQDC อัพเดต ณ สิ้นเดือนมกราคม 2565 มียอดขายทะลุ 17,200 ล้านบาท เช่น ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ โครงการแรกในประเทศไทย ทำยอดขายบ้านเกือบ 80% กว่า 4,700 ล้านบาท, ดิ แอสเพน ทรี โครงการที่อยู่อาศัยเพื่อคนสูงวัย 50 ปีขึ้นไปแบบ Holistic Lifetime Care การบริการที่พร้อมดูแลตลอดชีวิต และมัลเบอร์รี โกรฟ โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับคนทุกเจเนอเรชั่น ทำยอดได้เกิน 50%
โดย เดอะ ฟอเรสเทียส์ ถือเป็นต้นแบบของธีมโปรเจ็กต์ที่ MQDC จะใช้เป็นแนวทางในการขยายการลงทุน ตั้งเป้าจะมีการเปิดตัวในทุก 2-3 ปี เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีโครงการขนาดย่อยอยู่ภายในโครงการเดียวกัน ล่าสุดการก่อสร้างเป็นไปตามแผนงานที่กำหนด คาดว่าจะมีการโอนส่งมอบตามกำหนดตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป
เชื่อมอาณาจักรโลกเสมือน
นอกจากแผนลงทุนที่จะทยอยเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 แล้ว เรื่องใหม่ของ MQDC มีโครงการพัฒนาเมตาเวิร์ส เน้นสร้างจักรวาลแห่งใหม่เชื่อมระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกเสมือน
ภารุต เพ็ญพายัพ ผู้อำนวยการโครงการเมตาเวิร์สของ MQDC กล่าวว่า นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา MQDC ทำงานร่วมกับ เอคเซนเชอร์ บริษัทผู้เชี่ยวชาญการออกแบบเมตาเวิร์สครบวงจร เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษกับลูกบ้านของ MQDC และบุคคลทั่วไปที่สนใจ ภายใต้พันธกิจหลักในการสร้างสังคมให้มีความสุขและมีความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือน
และทำงานร่วมกับพันธมิตรหลักอย่าง บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตแอนิเมชั่นซีรีส์ชั้นนำของโลก ในฐานะเป็นเจ้าของและผู้พัฒนาจักรวาลเมตาเวิร์สระดับโลก ทรานส์ลูเซีย เมทาเวิร์ส โดยเมตาเวิร์สของ MQDC จะเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลทรานส์ลูเซียเช่นกัน
เราไม่เพียงแค่สร้างอสังหาฯในโลกเสมือนจริง แต่สิ่งที่เราทำนั้นจะต้องแตกต่างไม่เหมือนใคร เราต้องการมอบประสบการณ์เหนือจริง สิ่งที่เราอยากมอบให้ผู้คนที่เราอาจทำไม่ได้ในโลกความจริง จะเป็นจริงได้ในโลกเมตาเวิร์สของเรา
ชีวิตสีเขียว Smart Campus
กิตติคุณ โพธิวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่งานเทคโนโลยี MQDC นำเสนอแนวคิด Smart Campus ที่นำมาใช้ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC เพื่อทำให้ทุกชีวิตได้กลับมาใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแท้จริง เนื่องจากเดอะ ฟอเรสเทียส์ คือโครงการเมืองในป่าแห่งแรกของโลก ที่ออกแบบทุกองค์ประกอบเพื่อสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกสิ่งบนโลก มีพื้นที่โครงการ 398 ไร่
ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง หัวเว่ย นำระบบคลาวด์และแพลตฟอร์มมาประยุกต์ใช้ในระบบปฏิบัติการทั้งการคมนาคม พลังงาน ความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวก และงานระบบอื่น ๆ เพื่อพัฒนาให้เป็นระบบนิเวศทางเทคโนโลยีในการเชื่อมโยงผู้คนหลายช่วงวัยเข้ากับธรรมชาติอย่างกลมกลืน
ด้วยระบบทางเทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โครงการสามารถเชื่อมต่อโครงข่ายเซ็นเซอร์ในการสร้าง big data เพื่อวิเคราะห์ Intelligent Operation Center (IOC) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถตอบสนองเหตุการณ์หรือสถานการณ์ได้ทันที
ทั้งนี้ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้า ศูนย์สุขภาพ สำนักงาน ร้านอาหาร ศูนย์กีฬา ศูนย์สันทนาการ สถานบันเทิง และพื้นที่สีเขียวครอบคลุม 56% ของพื้นที่โครงการทั้งหมด
ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดในโครงการจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นบิ๊กดาต้าที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างประสบการณ์ด้านต่าง ๆ เพื่อให้ AI วิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย อาทิ อายุ เพศ เชื้อชาติ สำหรับการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตรงตามความต้องการมากที่สุด รวมถึงวิเคราะห์ความหลากหลายทางชีวภาพและเชื่อมโยงคนกับสัตว์ ธรรมชาติ และพื้นที่ป่าลึกกว่า 30 ไร่อีกด้วย
Naturity คือแพลตฟอร์มที่จะใช้บิ๊กดาต้าและ AI เพื่อทำให้เราเข้าใจความหลากหลายทางธรรมชาติ และแพลตฟอร์ม edutainment จะทำให้คนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและสัตว์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ฟิวเจอร์เทลส์แล็บ by MQDC
ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ผู้อำนวยการบริหาร ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ-FutureTales Lab by MQDC เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการหัวข้อ ร่วมสร้างจินตภาพเมือง สู่อนาคตการพัฒนาคุณภาพชีวิต เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับเยาวชนและนักศึกษาที่มีความสนใจด้านอนาคตศึกษาและการออกแบบเมืองเพื่อคนทุกกลุ่มที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน ภายใต้การคำนึงถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้นทั้งโลกจริงและโลกเสมือนในอีก 10 ปี
พันธมิตรวงการสถาบันการศึกษา ผศ.ดร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี คณบดีคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สจล. กล่าวว่า การจัดอบรมที่ถูกออกแบบภายใต้วิสัยทัศน์กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อผลิตบุคลากรสมรรถนะสูงและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ และมุ่งหวังให้เกิดความตระหนักในเรื่อง well-being ในที่อยู่อาศัยของคนไทยในอนาคตอีกด้วย
หมุดหมายสำคัญยังรวมถึงเตรียมความพร้อมเยาวชนที่จะเป็นผู้นำในอนาคต ให้เข้าใจถึงแนวโน้มที่อาจส่งผลกระทบการดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ เข้ามาช่วยเพิ่มทักษะด้านอนาคตศึกษาให้สามารถเข้าใจการใช้เครื่องมือการคาดการณ์อนาคตที่เป็นส่วนสำคัญในการวางแผนที่อยู่อาศัยที่จะเกิดขึ้นกับสังคมไทย ตลอดจนสังคมโลกต่อไปในอนาคต
มุมมองของคนเจเนอเรชั่นใหม่ นับว่าเป็นกลุ่มคนที่เข้ามามีบทบาทกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ องค์กรและภาคธุรกิจ ภาคการศึกษาควรให้ความสำคัญและสนับสนุนเด็กเจนนี้ ให้มีทักษะที่จำเป็นและใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ จากการใช้เครื่องมือการวิเคราะห์อนาคตศึกษา (foresight tools) เพื่อฉายภาพการพัฒนาเมืองในอนาคต ต่อยอดไปสู่การพัฒนาและออกแบบเมืองในโลกเสมือนเมตาเวิร์ส เพื่อดึงทั้งโลกจริงและโลกเสมือนเข้ามาใกล้กัน ที่จะไม่ทำให้เกิดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำขึ้น ดร.การดีกล่าว
ขยายปริมณฑลเจาะไต้หวัน
ต้นเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา บริษัท ดิ เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด โดย MQDC จัดพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงร่วมกับ Graceful Legend Property Consulting บริษัทผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เพื่อขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้านักลงทุนในไต้หวัน
ทั้งนี้ Graceful Legend เป็นบริษัทดำเนินการพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศและเทรดดิ้ง มีความเชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับสากล (International F&B) รวมถึงขยายโมเดลธุรกิจรูปแบบไลเซนส์และแฟรนไชส์อีกด้วย
สำหรับดิ เอสเตท (ไทยแลนด์) เป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านการขาย ปล่อยเช่า และการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ MQDC ได้ขยายธุรกิจการจัดการสินทรัพย์ในปี 2565 นี้ เพื่อสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดและสถานการณ์ปัจจุบัน
โดยบริษัทดิ เอสเตท ก่อตั้งขึ้นภายใต้พันธกิจด้านการบริการลูกค้าของ MQDC ที่ต้องการให้คำแนะนำและสร้างความเข้าใจด้านตลาดซื้อขายอสังหาฯแก่ลูกค้าชาวไทยและต่างประเทศ รวมถึงการเจรจาซื้อขายตลอดจนขั้นตอนการเข้าอยู่อาศัยที่สมบูรณ์ โดยมี ดร.เนตรนภิศ สุขบาง เป็นประธานผู้อำนวยการ ดิ เอสเตท (ไทยแลนด์)
คาราวานปันสุข-เติมสุขปี 3
สถานการณ์โควิดส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการทุพพลภาพ ผู้สูงอายุและเด็กอ่อนยากไร้ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางในสังคม MQDC จัดโครงการ คาราวานปันสุขปี 3-ปันน้ำใจ เติมสุข ส่งต่อความช่วยเหลือและความห่วงใย สู้ภัยเศรษฐกิจ ความร่วมมือระหว่าง MQDC ลูกบ้านในโครงการ และพันธมิตร ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
โดยส่งมอบอาหารแห้งและสิ่งของจำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม นมถั่วเหลือง ผ้าอ้อม ผงซักฟอก ในชุมชนต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑลที่อยู่ใกล้เคียงโครงการของ MQDC เพื่อส่งมอบกำลังใจและความช่วยเหลือจากลูกบ้าน
ทั้งนี้ ในปี 2564 ที่ผ่านมา MQDC ได้ริเริ่มโครงการ ศูนย์รวมปันสุข ส่งต่อความห่วงใย สู้ภัยโควิด โดยมีผู้ร่วมก่อตั้ง ได้แก่ MQDC โรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ T&B Media Global (Thailand), บริษัท อีอีซี เอ็นจิเนียริ่ง เน็ทเวิร์ค จำกัด และมูลนิธิพุทธรักษา เป็นแกนหลักในการเข้าช่วยเหลือชุมชน ด้วยการสนับสนุนรายได้หมุนเวียนให้ร้านค้ารายย่อย 2,000 ร้านค้า สนับสนุนกล่องปันสุขอาหารแห้ง-สิ่งของจำเป็นแก่ชุมชน 6,000 ราย
4/8/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (4 สิงหาคม 2565)