info@icons.co.th 02 810 8892-6 18.188.211.246

เซ็นทรัลฉลอง 75 ปี ลงทุน 1.5 หมื่นล้าน รีโนเวตสาขาทั่วประเทศ

Retails News / ข่าวหมวดห้างสรรพสินค้า

เซ็นทรัล ครบรอบ 75 ปี ทุ่ม 4.6 หมื่นล้าน เร่งขยายธุรกิจ เพิ่มน้ำหนักออมนิแชแนล พร้อมลงทุน 3 โปรเจ็กต์ใหม่ ผนึกพันธมิตรแบรนด์หรูดันแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ต่อยอดสู่การเป็นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้าลักเซอรี่ระดับโลก

วันที่ 7 กันยายน 2565 นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารของกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า ธุรกิจห้างสรรพสินค้าของกลุ่มเซ็นทรัลมาจากความสำเร็จที่มีเครือข่ายห้างในต่างประเทศครอบคลุมถึง 11 ประเทศ 80 เมือง 120 สาขา ตั้งเป้ายอดขายในปี 2565 กว่า 6.7 พันล้านยูโร หรือ 2.6 แสนล้านบาท

จากการรวมกลุ่มเซลฟริดเจสเข้าสู่คอลเล็กชั่นห้างสรรพสินค้าลักเซอรี่ของกลุ่มเซ็นทรัล ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้าลักเซอรี่ระดับโลก ด้วยจำนวนของห้างแฟลกชิปหรูในเมืองท่องเที่ยวชั้นนำที่พร้อมทั้งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซลักเซอรี่

ขณะเดียวกัน ยังเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ถึง 19 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 1 ศตวรรษ และตั้งอยู่บนทำเลเด่นใจกลางเมืองของยุโรป อาทิ ลอนดอน ซูริก โรม โคเปนเฮเกน ดับลิน และเวียนนา

หากย้อนกลับไป กลุ่มบริษัทเป็นผู้ก่อตั้งห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในประเทศไทย และเป็นผู้สร้างห้างสรรพสินค้าชั้นนำในภูมิภาคหลายแห่ง อีกทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจศูนย์การค้าครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย ก้าวแรกที่กลุ่มเซ็นทรัลได้ริเริ่มดำเนินธุรกิจในยุโรป คือการเข้าซื้อกิจการห้างหรู รีนาเชนเต ในประเทศอิตาลี เมื่อปี 2554 ตามด้วยอิลลุม ในปี 2556 กลุ่มคาเดเว ในปี 2558 โกลบุส ในปี 2563 และในปี 2565 ได้เข้าซื้อกิจการของกลุ่มเซลฟริดเจส

กลยุทธ์หลัก ปั้นลักเซอรี่แบรนด์

สำหรับลักเซอรี่เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของกลุ่มเซ็นทรัล เริ่มจากการเข้าซื้อกิจการห้างรีนาเชนเต ซึ่งสอดคล้องกับจังหวะที่แบรนด์ลักเซอรี่ของยุโรปกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยกระแสของการท่องเที่ยวทั่วโลก ถึงแม้เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนในระยะที่ผ่านมา ตลาดลักเซอรี่ได้แสดงศักยภาพสามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากความต้องการผู้บริโภคที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลได้ร่วมลงทุนในโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาห้างให้เป็นจุดหมายแห่งการช็อปปิ้ง และเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน ปัจจุบันห้างในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัลต้อนรับลูกค้ากว่า 130 ล้านคนต่อปี กว่า 200 เชื้อชาติ และมีสมาชิกกว่า 6 ล้านคน ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จในธุรกิจลักเซอรี่ของกลุ่มเรา

สำหรับก้าวต่อไป กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ลักเซอรี่ ผ่านกลยุทธ์การพัฒนาและขยายห้างสรรพสินค้าในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ด้วยการร่วมมือกับลักเซอรี่แบรนด์ กลยุทธ์ที่ 1 การพัฒนาแปลงโฉมห้างสรรพสินค้าเป็นหัวใจหลักของการดำเนินการในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล ด้วยการร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น LVMH, Kering และ Richemont เพื่อยกระดับและเพิ่มความหลากหลายของสินค้า โดยแต่ละห้างยังมีสินค้าอาหารระดับพรีเมี่ยม และมีร้านอาหารหลากหลายไว้บริการ

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินโครงการปรับปรุงและพัฒนาห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในหลายประเทศ รวมถึงการสร้างโครงการใหม่อีก 3 แห่ง นอกจากนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษาโอกาสเพื่อพัฒนาเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ทำเลทอง ใจกลางเมืองลอนดอน ที่เซลฟริดเจสแฟลกชิป บนถนนออกซ์ฟอร์ด อีกด้วย

กลยุทธ์ที่ 2 ต้องการขึ้นแท่นผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และเป็นพันธมิตรคู่ค้าที่มีเครือข่ายทั่วโลกให้กับแบรนด์ลักเซอรี่และแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ

ปัจจุบันแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรปมียอดจำนวนผู้มาเยือนกว่า 30 ล้านคนต่อเดือน มีการจัดส่งสินค้าไปยังกว่า 130 ประเทศทั่วโลก และสร้างยอดขายได้ถึง 1 พันล้านยูโร (3.8 หมื่นล้านบาท) ต่อปี คิดเป็น 17% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งยอดขายออนไลน์ในต่างประเทศของ Selfridges.com มีสัดส่วนสูงถึง 40%

อีกทั้งกลุ่มเซ็นทรัลได้วางยุทธศาสตร์ให้ Selfridges.com เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ลักเซอรี่ระดับโลก โดยเน้นใช้จุดแข็ง ประกอบด้วย 1.แบรนด์เซลฟริดเจส ซึ่งมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักดีทั่วโลก 2.แบรนด์และสินค้า พร้อมคอลเล็กชั่นพิเศษ 3.เทคโนโลยีและฐานข้อมูลลูกค้า จะช่วยยกระดับประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล และ 4.เครือข่ายห้างสรรพสินค้าใน 11 ประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์และเข้าถึงลูกค้าได้ดีขึ้น

รวมถึงให้บริการแบบออมนิแชแนล ที่แตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่งอีคอมเมิร์ซทั่วไป โดยเฉพาะในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นฐานการดำเนินธุรกิจหลักของกลุ่มเซ็นทรัล ลูกค้าของกลุ่มเซ็นทรัลในประเทศไทยจะสามารถเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ลักเซอรี่และคอลเล็กชั่นที่หลากหลายมากขึ้น

ทางด้านนายโอลิวิเยร์ บรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า บริษัทมีแผนทุ่มงบฯ 1.5 หมื่นล้านบาท ในช่วงตั้งแต่ปี 2566-2570 เพื่อขยายสาขาใหม่และรีโนเวตสาขาปัจจุบัน รวมถึงพัฒนาระบบ Central app เพื่อสร้างความได้เปรียบในตลาดค้าปลีกของไทย

โดยการขยายสาขาและรีโนเวตนั้นจะโฟกัสการขยายสาขาในต่างจังหวัดเป็นหลัก เนื่องจากเป็นทำเลที่มีศักยภาพสะท้อนจากผลงานของบางสาขาที่เปิดไปก่อนหน้า อาทิ สาขาขอนแก่นซึ่งทำผลงานได้ดีทั้งด้านจำนวนลูกค้าและเม็ดเงิน จึงเล็งเข้าไปตั้งสาขาในจังหวัดที่ยังไม่มีห้างสรรพาสินค้า

ทั้งนี้สาขาที่มีกำหนดเปิดบริการชัดเจนแล้วคือ โรบินสัน และเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ที่จะเปิดในปี 2566 และในปีเดียวกันจะรีโนเวตใหญ่ 4 สาขา คือ เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลรามอินทรา โรบินสันแฟชั่นไอส์แลนด์ และเซ็นทรัล เมกะบางนา ตามด้วยการรีโนเวตย่อยใน 80% ของสาขาที่เปิดอยู่ในปัจจุบันภายให้ครบภายในเวลา 5 ปี

สำหรับอีคอมเมิร์ซ จะเปิดตัวช่องทางจำหน่ายใหม่ คือ Tiktok Shop และ Luxe Chat & Shop รวมถึงเปิดตัว Central App โฉมใหม่ นอกจากนี้ยังเร่งพัฒนาระบบการตลาดแบบเฉพาะบุคคลให้ตอบโจทย์และเข้าถึงอินไซต์ของลูกค้าได้ดีขึ้น ตามเป้าผลักดันยอดขายของออมนิแชนเแนลให้มีสัดส่วน 20% ของยอดขายรวม

ทั้งนี้วางเป้ายอดขายเติบโต 1.7 เท่า ภายใน 5 ปี หลังจากช่วง 8 เดือนของปี 2565 ห้างเซ็นทรัลมียอดทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 25% พร้อมกับยอดจับจ่ายของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ไปในทิศทางเดียวกับช่องทางออนไลน์ที่เติบโตทุกช่องทาง นำโดย Central App ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 105% มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 5.2 ล้านดาวน์โหลด ส่วน Social Commerce Channel อาทิ Chat & Shop, Personal Shopper โทร 1425 Facebook Live และ Facebook inbox ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

เพื่อต่อยอดกระแสเติบโต และฉลองวาระครบรอบ 75 ปี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2565 นี้ จึงทุ่มงบฯ 500 ล้านบาท จัดแคมเปญฉลองครบรอบ 75 ปี แบบครอบคลุมทุกสาขาทั่วประเทศและทุกแพล็ตฟอร์ม ในคอนเซปท์ All at central มุ่งดึงดูดทั้งนักช้อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

พร้อมวางเป้ากระตุ้นยอดทราฟฟิกและยอดขายรวม 25% รวมถึงทำให้ตัวเลขการเข้าถึงแคมเปญ (Reach) สูงระดับ 80% เมื่อสิ้นสุดแคมเปญ

โดยมีทั้งกิจกรรมที่เน้นสร้างแบรนด์และโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย ไม่ว่าจะเป็น

– การจัดโปรโมชั่นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ลดราคาสูงสุด 30% และให้รีวอร์ดสูงสุด 30% เช่นกัน

– นิทรรศการ The Central Memory Bank Exhibition ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 65-6 พ.ย. 65 ที่ พื้นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียน Central Space ชั้น 3 Central The Original Store ถนนเจริญกรุง

– All The Fun กับ Central x Yuree คอลเลกชันคาแรกเตอร์ผลงาน Collab กับ “Yuree” หรือ ยุรี เกนสาคู ทำ Line Sticker คอลเล็กชั่นพิเศษ “CENTRAL 75th Anniversary” ดาวน์โหลดได้จนถึง 28 ก.ย. 65 ที่ Line @CentralOfficial ติดตั้งบอลลูนคาแรกเตอร์ขนาดยักษ์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. 65-31 ต.ค. 65

– จำหน่ายสินค้า Central Edition ที่จับช่างฝีมือทั่วประเทศนำสินค้า และงานฝีมือของชุมชนวางจำหน่ายที่ห้างเซ็นทรัล สาขาเชียงใหม่ (ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 65) ลาดพร้าว (ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. 65) ภูเก็ต (ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 65) และชิดลม (ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 65) หรือช้อปผ่านทาง Central App

– เปิดตัว Red Collection ที่รวบรวมไอเทมจากหลากหลายแบรนด์ดังในธีมสีแดงและ Exclusive Collection ที่ร่วมกับแบรนด์ชั้นนำออกแบบสินค้าขึ้นมาเป็นพิเศษจำหน่ายเฉพาะห้างเซ็นทรัลเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 ที่ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา และทาง Central App

– จับมือกับพาร์ตเนอร์สำคัญอย่าง The 1 และ Central Retail Digital เปิดตัวคอลเลกชัน NFT “75th Central Shopping Bag Collection” ออกแบบโดย “นักรบ มูลมานัส” ผ่าน Central Collectibles ในแอป The1 ตั้งแต่วันนี้-31 ต.ค. 65

– กิจกรรมย้อมสีตึกห้างเซ็นทรัล 10 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดให้เป็นสีแดง รวมถึงประดับตกแต่งห้างในธีมต่างๆ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าถ่ายภาพเช็กอินเป็นที่ระลึก

– จัดเทศกาลการตกแต่งห้างด้วยดอกไม้สดที่ห้างเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และห้างเซ็นทรัลชิดลม ระหว่างวันที่ 27 ต.ค. 65-31 ต.ค. 65 พร้อมปาร์ตี้ฉลองเปิดตัวในวันที่ 27 ต.ค. 65

“กิจกรรมที่เราจัดขึ้นในแคมเปญฉลอง 75 ปี ‘ALL AT CENTRAL’ จะเป็นการระดมทุนเพื่อนำไปมอบให้กับมูลนิธิต่างๆ ทั้งด้านสาธารณสุข เด็ก และสิ่งแวดล้อม อาทิ มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย, ยูนิเซฟ (UNICEF), มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ และมูลนิธิสืบนาคะเสถียร” มร. โอลิวิเยร์ กล่าว

7/9/2565  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (7 กันยายน 2565)

ช่องยูทูปของ iCONS