info@icons.co.th 02 810 8892-6 18.191.233.198

ตระกูลเจียอาภา เปิดโรงแรม Andaz พัทยา พักคืนละ 5 แสน บริการรถโรลส์-รอยซ์

Hotel News / ข่าวหมวดโรงแรม

“ณฤทธิ์ เจียอาภา” เจ้าพ่อส่งออกกุ้ง ทุ่มกว่า 5 พันล้านปักหมุดโรงแรม Andaz แบรนด์โรงแรมสุดหรูระดับโลกในเครือไฮแอท บนพื้นที่ 38 ไร่หาดจอมเทียน เมืองพัทยา รองรับกลุ่ม “เซเลบ-นักธุรกิจ-ลักชัวร์รี่แฟมมิลี่” โซนบ้านทรงไทย 6 ห้องนอนพร้อมสระว่ายน้ำ สวนส่วนตัวราคาคืนละ 5 แสนบาท พร้อมบริการแขกเข้าพักทุกคนด้วยรถยนต์โรลส์รอยส์

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 นายณฤทธิ์ เจียอาภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเฟรชอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (Seafresh Industry PCL) ผู้นำธุรกิจแปรรูปและส่งออกผลิตภัณฑ์กุ้งแช่แข็ง และเจ้าของโรงแรมแอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช (Andaz Pattaya Jomtien Beach) เปิดเผยว่า ครอบครัวเจียอาภา ได้ลงทุนกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,300 ล้านบาท ในธุรกิจโรงแรมแห่งแรกภายใต้แบรนด์ Andaz Pattaya Jomtien Beach บนที่ดิน 38 ไร่ ริมหาดตะวันรอน (หาดจอมเทียน) เมืองพัทยา

ณฤทธิ์ เจียอาภา

โรงแรมแห่งนี้เป็นรีสอร์ตระดับ 5 ดาว เน้นลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์เป็นหลัก ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ กลุ่มนักธุรกิจ เซเลบิตี้ นักกอลฟ์ รวมถึงครอบครัวรุ่นใหม่ โดยเตรียมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 นี้

“แบรนด์ Andaz เป็นแบรนด์โรงแรมระดับโลก การลงทุนครั้งนี้จึงเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมโรงแรมระดับลักชูรี่เมืองพัทยาและของไทยครั้งใหญ่” นายณฤทธิ์กล่าว

และว่าโรงแรมแอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช เป็นรีสอร์ตแบรนด์ Andaz แห่งแรกในประเทศไทย มีห้องพักและห้องสวีทรวมทั้งสิ้น 204 ห้อง (ขนาดเริ่มต้น 50 ตารางเมตร) แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ซึ่งเชื่อมถึงกันด้วยสวนเขียวชอุ่ม ตกแต่งภายด้วยกลิ่นอายของความเป็นไทยท้องถิ่น มาพร้อมห้องอาบน้ำแบบเรนชาวเวอร์ขนาดใหญ่ และระเบียงพร้อมเตียงสำหรับเอนหลัง ประกอบด้วยห้องพักหลายประเภท

อาทิ ห้องติดสระลากูน (Lagoon Access) ซึ่งอยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำ ห้องพูลสวีท (Pool Suites) ที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ห้องสวีทริมทะเล (Beachfront Suites) บนหาดทรายขาวละเอียด รวมถึงบ้านทรงไทยประยุกต์ ซึ่งได้รับการดัดแปลงเป็นที่พักที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโรงแรม ได้แก่ “Manor House” วิลล่า 2 ชั้น 4 ห้องนอน และ “Presidential Heritage House” บ้านทรงไทย 6 ห้องนอนสุดตระการตา โดยวิลล่าและบ้านทรงไทยทั้งสองนี้มีสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัวที่สร้างประสบการณ์ของผู้เข้าพักให้เสมือนชาวชุมชนท้องถิ่นที่ใช้ชีวิตที่นี่มายาวนาน

โดยราคาห้องพักเริ่มต้นโดยเฉลี่ย 15,000 บาทต่อคืน ราคาสูงที่สุดคือโซน “Presidential Heritage House” บ้านทรงไทย 6 ห้องนอน ราคา 500,000 บาทต่อคืน

นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังจะได้เติมเต็มประสบการณ์พักผ่อนด้วยอาหารเลิศรสถึง 6 ร้าน ได้แก่ “Wok Wok” ร้านอาหารไทยรสชาติต้นตำรับ “La Cucina” ห้องอาหารสไตล์ “Trattoria” แบบอิตาเลียนขนานแท้ “Village Butcher” ร้านสเต็กที่ปรุงเนื้อระดับพรีเมี่ยมบนเตาถ่าน และ “Fish Club” ร้านอาหารทะเลสดใหม่ คัดสรรมาอย่างดี ย่างด้วยกาบมะพร้าว ฝีมือเชฟชั้นเลิศที่เลือกสรรวัตถุดิบและเครื่องเทศธรรมชาติ รวมถึงสมุนไพรท้องถิ่นที่ส่งตรงจากแปลงสวนผักปลอดสารพิษในรีสอร์ต

และสามารถมานั่งพักและเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มได้ที่ “Teak Lounge” และเรือนไทยไม้สัก 2 ชั้น ที่ถูกปรับให้เป็น “เรือนน้ำชา” (Teahouse) ซึ่งมีที่นั่งทั้งโซนในร่มและกลางแจ้ง รองรับการจัดงานเลี้ยงขนาดย่อม ส่วนงานเลี้ยงขนาดใหญ่สามารถจัดได้ที่ “Garden Pavilion” ขนาด 300 ตารางเมตร รับแสงธรมชาติด้วยกระจกบานสูงจากพื้นจรดเพดาน พร้อมพื้นที่ส่วนหน้า ระเบียงต้อนรับภายนอก และครัวแบบเปิด หรือจะพักผ่อนด้วยการว่ายน้ำ รีสอร์ตแห่งนี้ก็มีสระว่ายน้ำให้เลือกด้วยกัน 3 สระ

ได้แก่ “Lap Pool” ที่เงียบสงบ สระสำหรับครอบครัวใกล้กับ Kids’ Club และสระว่ายน้ำ Infinity Pool เหมาะสำหรับปาร์ตี้ค็อกเทลชมพระอาทิตย์ตก นอกจากนี้ ยังมี “Panpuri Spa” สวรรค์อันแสนสงบสุดหรู มอบประสบการณ์ทรีตเมนต์ผ่อนคลายด้วยผลิตภัณฑ์สกินแคร์ออร์แกนิก รวมถึงห้องโยคะ ฟิตเนสที่ใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ TechnoGym

15/11/2565  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (15 พฤศจิกายน 2565)

ช่องยูทูปของ iCONS