โค้งสุดท้ายปี 2565 ข่าวล่ามาเร็ว แสนสิริ ลุยติดแผงโซลาร์ในโครงการที่อยู่อาศัยมากสุดในไทย
ท่ามกลางการแข่งขันช่วงชิงหัวใจผู้บริโภคยุคใหม่ อาจกล่าวได้ว่า แสนสิริเป็นรายแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย ที่ยกระดับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการที่อยู่อาศัย 100% ให้เป็นโมเดลมาตรฐานในบ้านทุกรูปแบบ ทุกเซ็กเมนต์ ผลักดันสู่เป้าพันธกิจ Net Zero องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น ศูนย์ ในปี 2050
ตอกย้ำผู้นำอันดับหนึ่ง โดยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แล้วมากกว่า 700 หลัง ตามแผนคาดว่าจะติดตั้งได้ 800-900 หลังภายในสิ้นปี 2565 แน่นอนว่าเป้าหมายที่มีไว้ให้พุ่งชนของปี 2566 ต่อยอดแผนการติดตั้งแผงโซลาร์ในบ้านเดี่ยวทุกหลัง รวมทั้งพื้นที่ส่วนกลางในทุกโครงการที่จะเปิดขายใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์อย่างแท้จริง
ติดปุ๊บ-ลูกบ้านประหยัดค่าไฟปั๊บ
อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริตอกย้ำบทบาทองค์กรสีเขียว (green organization) ที่ขับเคลื่อนนโยบายและพันธกิจความยั่งยืนอย่างจริงจังมาแล้วกว่า 5 ปี สู่การประกาศเป็นบริษัทอสังหาฯรายแรกของไทยที่ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็น ศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 เพื่อมุ่งสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ข้อสรุปจากวาระโลก COP27 และ APEC2022 ซึ่งยังคงเน้นย้ำ Net Zero ประเด็นที่ทุกภาคส่วนทั่วโลก ต้องช่วยกันเร่งแก้ลดมลพิษโลกให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งรวมถึงการจัดการกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ การบริหารจัดการทรัพยากรยั่งยืน ตลอดจนการลดและจัดการของเสียอย่างยั่งยืน
อัพเดตปี 2565 แสนสิริติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการที่อยู่อาศัย 100% ในบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ทุกหลัง ทุกระดับเซ็กเมนต์ คืบหน้าแล้ว 700 หลัง ใน 31 โครงการ อาทิ โครงการใหม่ใน กรุงเทพ กรีฑา คอมมูนิตี้ ซึ่งเป็นคอมมิวนิตี้เพื่อการอยู่อาศัยขนาด 500 ไร่ และสังคมคุณภาพระดับนานาชาติ บนทำเลที่ดีที่สุดของกรุงเทพกรีฑา ประกอบด้วย แบรนด์ไฮเอนด์ทั้ง เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา-บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา-นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา เป็นต้น
โดยได้ติดตั้ง solar roof ขนาด 1.84 kW ตามเป้าที่วางไว้ในปีนี้ แบ่งเป็น บ้านเดี่ยวราคาต่ำกว่า 8 ล้านบาท จำนวน 427 หลัง, บ้านเดี่ยวราคา 8 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 173 หลัง ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนแล้วกว่า 967 ตันคาร์บอน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 64,474 ต้น
ที่สำคัญ ช่วยประหยัดเงินค่าไฟให้ลูกบ้านและค่าส่วนกลางได้แล้วกว่า 7.6 ล้านบาทต่อปี
ติดตั้ง 100% สู่เป้า Net Zero
ภารกิจโซลาร์รูฟภายในปี 2566 คาดว่าสามารถติดตั้งได้รวม 2,100 หลัง หรือคิดเป็นมากกว่า 30% จากเป้ารวม 6,600 หลัง ภายใน 3 ปี (2566-2568) ครอบคลุมบ้านเดี่ยวแสนสิริทุกหลัง คอนโดมิเนียมและพื้นที่ส่วนกลางทุกโครงการใหม่ของแสนสิริ โดยมีเป้าหมายที่ท้าทายในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการที่อยู่อาศัยได้ครบ 100%
สำหรับปี 2566 ตั้งเป้าติดแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มในพื้นที่คลับเฮาส์ ทุกโครงการใหม่ จำนวน 48 โครงการ และติดตั้งในส่วนกลางของคอนโดฯใหม่กว่า 60 โครงการ
สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของแสนสิริ ในการติดแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการที่อยู่อาศัยให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ตอบโจทย์ดีมานด์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกบ้าน ตลอดจนขยายการติดตั้งต่อไปยังธุรกิจอื่น ๆ ของแสนสิริ เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero
อาทิ โรงงานพรีคาสต์แห่งล่าสุด ซึ่งเป็นโรงงานพรีคาสต์สีเขียวอย่างเต็มรูปแบบแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย รองรับการเติบโตก้าวกระโดดของแสนสิริในปี 2023, โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน, โรงแรม เดอะ เภรี โฮเต็ล ทั้ง 2 แห่ง ที่หัวหินและเขาใหญ่, โรงเรียนสาธิตพัฒนา ตั้งเป้าติดตั้งจำนวน 812 กิโลวัตต์ สามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 5.5 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ ลูกบ้านแสนสิริในโครงการเก่า ภายใต้การดูแลของนิติบุคคล พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สามารถเข้าถึงการใช้พลังงานสะอาดจากแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการที่อยู่อาศัยง่ายขึ้น โดยเตรียมจับมือธนาคารชั้นนำ เพื่อเสนอสินเชื่อโซลาร์สำหรับที่อยู่อาศัยกับดอกเบี้ยเรตพิเศษ รองรับดีมานด์การใช้พลังงานสะอาดที่เพิ่มมากขึ้น
กุญแจความสำเร็จอยู่ที่ความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ชั้นแนวหน้าวงการโซลาร์รูฟ และนับเป็นครั้งแรกในไทยที่ ION Energy ได้ร่วมกับแสนสิริซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ในกลุ่มอสังหาฯรายใหญ่ที่สุดของธุรกิจ ION Solar Roof ในการเดินหน้านำนวัตกรรมใหม่ 2-in-1 solar roof tile กระเบื้องลอนโซลาร์ ตั้งเป้าติดตั้งในคลับเฮาส์โครงการลักเซอรี่ บ้านแสนสิริ บางนา ในปี 2024
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับแสนสิริและพันธมิตรด้านพลังงาน ร่วมมือทำ R&D พัฒนาแบตเตอรี่เก็บไฟจากพลังงานสะอาดในบ้านภายในปี 2030 ในราคาที่เข้าถึงได้ จากปัจจุบันที่ยังมีราคาสูงมาก
ตลอดจนลูกบ้านแสนสิริสามารถบริหารจัดการปริมาณการใช้ไฟฟ้าจาก solar roof แบบเรียลไทม์ผ่านแอป Sansiri Home Service ที่สามารถตรวจเช็กจำนวนการผลิตไฟฟ้า คำนวณและประเมินการใช้ไฟฟ้า คำนวณการช่วยประหยัดพลังงาน คำนวณเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ และลดปริมาณคาร์บอน ดูการทำงานของระบบ และระบบแจ้งเตือนการซ่อมที่เตรียมพัฒนาระบบในอนาคต
ปัจจุบันเทรนด์การใช้พลังงานสะอาดจากแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการที่อยู่อาศัย (residential) มีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้คนทั่วโลกและในประเทศไทย หันมาตระหนักถึงการร่วมกันช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้ราคาของการติดตั้ง solar roof ถูกลง สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากค่าไฟที่ราคาต่อหน่วยสูงขึ้นถึง 4.72 บาท และมีแนวโน้มสูงขึ้นถึง 6 บาทภายใน 3 ปีข้างหน้า (ข้อมูลวิจัยจากธนาคารทหารไทย) ซึ่งจะยิ่งทำให้การติด solar roof ถึงจุดคุ้มทุนเร็วขึ้นได้ภายในเวลาเพียง 4-5 ปี คำกล่าวของ อุทัย อุทัยแสงสุข
26/11/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (26 พฤศจิกายน 2565)