กลุ่มธุรกิจ TCP และคราวน์ โฮลดิ้งส์ ผสานความแข็งแกร่งตั้งโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมภายใต้ชื่อ Crown TCP งบฯร่วมลงทุน 1,500 ล้านบาท เพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์กระทิงแดง ส่งออกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เน้นนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
วันที่ 13 ธันวาคม 2565 นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า ความร่วมมือคือกุญแจสำคัญในการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน สำหรับการร่วมทุนกับคราวน์ โฮลดิ้งส์ เป็นการส่งเสริมพันธมิตรธุรกิจยั่งยืนที่เป็นมากกว่าคู่ค้า ตามเป้าหมาย ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า
โดยโรงงาน Crown TCP เป็นการลงทุนร่วม มีงบฯร่วมลงทุน 1,500 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 26,400 ตร.ม.ในนิคมอุตสาหกรรมหนองแค จ.สระบุรี มีกำลังการผลิต 820 ล้านกระป๋อง/ปี รองรับความต้องการของตลาดส่งออกกระทิงแดง (Red Bull) และเพิ่มความมั่นใจในการส่งมอบบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
โดยคราวน์ฯจะถ่ายทอดความเชี่ยวชาญ มาตรฐานคุณภาพ และนำนวัตกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์ระดับโลก มาสู่อุตสาหกรรมการผลิตและแรงงานไทยให้ก้าวสู่ยุค Thailand Industry 4.0 ด้วยการใช้ระบบ Smart Manufacturing ยกระดับกระบวนการผลิตและบริหารจัดการโรงงานด้วยโซลูชั่นอัจฉริยะอย่างครบวงจร ทั้งด้านคุณภาพการผลิต การจัดการพลังงานและทรัพยากรต่าง ๆ การจัดการหมุนเวียนขยะและน้ำเสีย และความปลอดภัย
ทั้งนี้ โรงงาน Crown TCP สามารถขึ้นรูปกระป๋องอะลูมิเนียมที่มีความบางที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มให้พลังงาน เพียง 0.245 มม.
การที่ TCP ร่วมลงทุนเปิดโรงงานเอง ทำให้เราสามารถกำหนดและควบคุมการผลิตบรรจุภัณฑ์ด้วยตัวเองได้แต่ต้น โดยเฉพาะเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการผลิต และการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
ด้านโก๊ะ ฮอก ฮ๊วด ประธาน บริษัท คราวน์ เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า บริษัทคราวน์ฯ เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ชนิดโลหะ มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพและการเติบโตอย่างยั่งยืน เราเชื่อมั่นว่าการร่วมทุนในครั้งนี้ จะนำไปสู่ความสำเร็จบทใหม่ของกลุ่มธุรกิจ TCP นอกเหนือจากความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ Red Bull อันเป็นตำนานและเอกลักษณ์ที่โดดเด่น
ทั้งนี้ การดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของโรงงาน Crown TCP มีดังต่อไปนี้
น้ำ ลดการใช้น้ำได้สูงสุดในเครือโรงงานของ Crown ในเอเชีย ลดการใช้น้ำมากกว่าปีละ 2 ล้านลิตรจากกระบวนการผลิต และนำน้ำจากกระบวนการผลิตหลังบำบัดมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกครั้ง เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างพาลเลต ล้างถนน และใช้สำหรับห้องน้ำ โดยสามารถประหยัดการใช้น้ำได้มากกว่า 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี และลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 3 tonCO2e ต่อปี
ขยะ บริหารจัดการให้เป็นโรงงาน Zero Waste to Landfill และนำขยะที่เกิดจากกระบวนการผลิต ไม้พาลเลต และวัสดุห่อหุ้มต่าง ๆ มารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ตามแนวเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น มีการนำกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียจากเดิมที่นำไปฝังกลบ เปลี่ยนเป็นการนำไปรีไซเคิลทำเป็นส่วนผสมอิฐ ทำให้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 202 tonCO2e ต่อปี
อากาศ มีการติดตั้ง RTO หรือเครื่องฟอกอากาศของเตาเผากำจัดกลิ่น เพื่อลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ ซึ่งคุณภาพของอากาศที่ปล่อยออกจากปล่องมีมาตรฐานที่ดีกว่าค่ามาตรฐานที่การนิคมอุตสาหกรรมกำหนด
พลังงาน ระบบ Timer ควบคุมการเปิด-ปิดไฟในโรงงาน โดยสามารถประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้มากกว่า 75,000 kwh ต่อปี และลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 45 tonCO2e ต่อปี
แผนการติดตั้ง Solar Roof ในปี 2023 สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ประมาณ 650 tonCO2e ต่อปี
การลดการใช้ฟิล์มในการพันพาลเลตกระป๋อง สามารถลดขยะและลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 20 tonCO2e ต่อปี
ด้วยการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว คาดว่าโรงงาน Crown TCP จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2023 ลงได้เกือบ 1,000 tonCO2e ต่อปี
13/12/2565 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (13 ธันวาคม 2565)