รองโฆษกรัฐบาลเผย โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี คืบหน้าเกือบ 100% แล้ว เตรียมใช้งานปีนี้ สถานีส่วนต่อขยาย ศรีรัช-เมืองทองธานี คืบหน้ารวมกว่า 10% คาดเปิดใช้งานปี 2568
วันที่ 23 มกราคม 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงของการบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานสร้างเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนและพัฒนาเศรษฐกิจ
โดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 เห็นชอบให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีชมพูในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธา ค่างานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า และค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการ รวมทั้งบริหารเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการ วงเงินลงทุน 53,490.00ล้านบาท
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย มีนบุรี ถือเป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญ โดยเป็นโครงการหนึ่งในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (Mass Rapid Transit Master Plan in Bangkok Metropolitan Region: M-MAP)
เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ด้านเหนือของกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร เป็นระบบขนส่งมวลชนสายรองประเภทรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Straddle Monorail) มีลักษณะเป็นโครงสร้างยกระดับตลอดแนวเส้นทาง มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเขตมีนบุรีและจังหวัดนนทบุรี มีทั้งหมด 30 สถานี ประกอบด้วย
สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
สถานีแคราย
สถานีสนามบินน้ำ
สถานีสามัคคี
สถานีกรมชลประทาน
สถานีแยกปากเกร็ด
สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด
สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28
สถานีเมืองทองธานี
สถานีศรีรัช
สถานีแจ้งวัฒนะ 14
สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
สถานีทีโอที
สถานีหลักสี่
สถานีราชภัฏพระนคร
สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ
สถานีรามอินทรา 3
สถานีลาดปลาเค้า
สถานีรามอินทรา กม.4
สถานีมัยลาภ
สถานีวัชรพล
สถานีรามอินทรา กม.6
สถานีคู้บอน
สถานีรามอินทรา 83
สถานีปัญญาอินทรา
สถานีนพรัตน์
สถานีบางชัน
สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
สถานีตลาดมีนบุรี
สถานีมีนบุรี
ทั้งนี้ รถไฟฟ้าสายสีชมพูยังมีจุดเชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีอื่น ๆ ถึง 6 สาย ไม่ว่าจะเป็น
รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม หรือรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ที่สถานีหลักสี่
รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่สถานวัดพระศรีมหาธาตุ
รถไฟฟ้าสายสีเทา ที่สถานีวัชรพล
รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่สถานีปลายทาง (สถานีมีนบุรี)
นอกจากนี้ มีการเชื่อมต่อเส้นทางสายแยก (อิมแพคลิงก์) ที่มีจุดบริการอีก 3 สถานี ดังนี้
สถานีศรีรัช
สถานีอิมแพค ชาเลนเจอร์
สถานีทะเลสาบ เมืองทองธานี
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการหลักคือ รถไฟฟ้า สายสีชมพู มีนบุรี แคราย ในเดือนธันวาคม 2565 งานโยธา อยู่ที่ 94.43% งานระบบรถไฟฟ้า อยู่ที่ 94.49% ความก้าวหน้ารวมอยู่ที่ 94.48% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566
สำหรับส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ปัจจุบันความคืบหน้าของงานโยธา อยู่ที่ 13.45% งานระบบรถไฟฟ้า อยู่ที่ 4.59% ความก้าวหน้ารวม อยู่ที่ 10.48% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนับเป็นผลงานที่โดดเด่นของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้ต้องใช้ระยะเวลาจึงจะเห็นผล ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้เร่งรัดและติดตามความก้าวหน้าของโครงการอย่างต่อเนื่อง และต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันผลักดันและที่สำคัญคือความร่วมมือและเข้าใจของพี่น้องประชาชน
เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ จะเป็นทางเลือกให้กับประชาชน แบ่งเบาภาระในการเดินทาง ประหยัดเวลา แก้ไขปัญหาการจราจรหนาแน่น และกระจายความเจริญไปในพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางของรถไฟฟ้า ลดมลพิษเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
และนอกจากจะเร่งโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯและปริมณฑลแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ยังเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พัฒนาประเทศให้เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างยั่งยืนรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
23/1/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 23 มกราคม 2566 )