แบรนด์อสังหาริมทรัพย์มหาชนที่สร้างโปรไฟล์จากการเป็น คอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้
โดย เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-Friendly Residences) ประกาศเปรี้ยง ปี 2566 การลงทุนใหม่จะสร้างสถิติ All Time High ในรอบก่อตั้งองค์กร 24 ปี
โดยเมเจอร์ฯ ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรให้เปลี่ยนสถานะจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Developer) สู่การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิต (LifeScape Developer) อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของผู้บริโภคทุกมิติ
ไฮไลต์ปี 2566 บริษัทเดินหน้าแผนธุรกิจ LifeScape at a New Height ผลักดันความแข็งแกร่งและศักยภาพ เพื่อการเติบโตสู่อีกขั้น มี 3 ด้านหลักที่มุ่งผลักดัน ดังนี้
กลยุทธ์ที่ 1 Solidify Residential-Scape ผลักดันความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจหลัก การพัฒนาโครงการใหม่สร้างสถิติ All Time High เปิดตัวมากที่สุดในรอบ 24 ปี จำนวน 7 โครงการ มูลค่า 14,700 ล้านบาท
แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ ซูเปอร์ลักเซอรี่ 2 โครงการ มูลค่า 8,800 ล้านบาท, บ้านจัดสรร 5 โครงการ มูลค่า 5,900 ล้านบาท
หมัดเด็ดปีนี้ วางแผนเปิดตัว 5 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ แบรนด์ Marquis-มาร์ควิส คอนโดฯ ซูเปอร์ลักเซอรี่ที่มีฟังก์ชั่นตอบโจทย์การมีชีวิตที่ดีหรือ Wellness, Mayfield-เมย์ฟิลด์ พรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ออกแบบให้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ
Mayfield Lane-เมย์ฟิลด์ เลน บ้านเดี่ยวลักเซอรี่ทำเลใจกลางเมือง, Milford-มิลฟอร์ด ทาวน์โฮมระดับไฮเอนด์ และอีก 1 แบรนด์ใหม่ที่จะเป็นซูเปอร์ลักเซอรี่ในรูปแบบลิมิเต็ด เอดิชั่น
ปัจจุบันอาณาจักรเมเจอร์ฯ มีทำเลสะสมในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจหรือ CBD พื้นที่ใจกลางธุรกิจส่วนต่อขยายหรือ Extended CBD และพื้นที่กรุงเทพฯรอบนอกหรือ Greater Bangkok
แผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ จะเกาะทำเลที่มีความต้องการสูงตั้งแต่ สุขุมวิท-พร้อมพงษ์ พญาไท พัฒนาการ ลาดพร้าว รามคำแหง
ในช่วงสถานการณ์โควิด มีการผ่าตัดองค์กรหลายด้าน ทั้งการแต่งตั้งผู้บริหารมาดูแลการพัฒนาประสบการณ์ลูกค้าหรือ Customer Experience โดยตรง ปรับวิธีคิดของพนักงานให้เป็น Warrior Mindset มีวิธีคิดแบบนักสู้ พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ลงทุนเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนา Future Platform วางรากฐานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
และ หลังจากนี้เป็นต้นไป เรามั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตสู่อีกระดับ
กลยุทธ์ที่ 2 Fortify LifeScape & PetScape ตอกย้ำความแข็งแกร่งให้จุดเด่นของแบรนด์ ด้วยการจับมือพันธมิตรธุรกิจ พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก บริการ กิจกรรม สิทธิพิเศษต่าง ๆ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งในและนอกที่อยู่อาศัยของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 โครงการที่อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ได้ทุกโครงการ
มีการจับมือพันธมิตรด้านคุณภาพการออกแบบ การก่อสร้าง วัสดุ เพื่อสร้างสรรค์งาน Craft & Quality, ยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของคนในสังคมผ่านโครงการ Care-Share-Change ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ตามไซต์ก่อสร้าง ช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงผ่านมูลนิธิต่าง ๆ
กลยุทธ์ที่ 3 Diversify Revenue ปรับสัดส่วนเพิ่มการพัฒนาบ้านแนวราบมากขึ้น ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ LifeScape Developer ด้วยการขยายธุรกิจใหม่ ๆ ให้ครอบคลุมทุกมิติการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอีก 2 ธุรกิจใหม่ HealthScape -TechScape
ทั้งนี้ แผนธุรกิจ LifeScape at a New Height ตั้งเป้ายอดขายโครงการที่อยู่อาศัย 7,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 5,000 ล้านบาท
โรดแมประยะยาวจะเห็นการกระจายพอร์ตโฟลิโอที่อยู่อาศัยระหว่างคอนโดฯ กับบ้านจัดสรร ให้พร้อมรองรับทุกสภาวะเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจใหม่ที่เป็น non developer จะค่อย ๆ เพิ่มสัดส่วนขึ้นมาเป็น 20% ในอีก 5 ปีข้างหน้า
18/2/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 18 กุมภาพันธ์ 2566 )