บมจ.สิงห์ เอสเตท เผยรายได้ปี 2565 กว่า 12,530 ล้านบาท กำไรสุทธิ 490 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผล 0.02 บาทต่อหุ้น ปี 2566 ตั้งเป้าลงทุนบ้านแนวราบ 10,000 ล้านบาท พ่วงธุรกิจโรงแรมรับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
วันที่ 1 มีนาคม 2566 นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2565 บริษัทสามารถสร้างรายได้ new high
แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่พักอาศัยประเภทบ้านแนวราบ สร้างยอดขายเติบโตภายใน 1 ปี โดยโครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท เปิดตัวเมื่อช่วงปลายปี 2565 มียอดโอนกรรมสิทธิ์แล้ว 830 ล้านบาท สัดส่วน 28% หลังเปิดโครงการได้เพียง 2 เดือน
ในด้านรายได้ธุรกิจโรงแรมจำนวน 8,693 ล้านบาท เติบโตเกือบ 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 บริษัทสามารถปรับเพิ่มอัตราค่าห้องพักต่อคืน (ADR) ในปี 2565 ของโรงแรมในหลายประเทศ เช่น สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และสหราชอาณาจักร
ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า สามารถสร้างรายได้อยู่ที่ 1,014 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 5% เป็นผลมาจากการปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าขึ้นได้แม้จะอยู่ระหว่างสถานการณ์โควิด พร้อมกับการเปิดพื้นที่ค้าปลีกบางส่วนในโครงการ S-OASIS ที่ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในไตรมาส 2/66
และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานได้มีความก้าวหน้าตามแผนโดยรับรู้รายได้เป็นปีแรกจากการขายและการโอนที่ดินของนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง (S-Angthong) รวมมูลค่า 198 ล้านบาท
ผลประกอบการ_01 สิงห์
สุดปลื้ม บมจ.สิงห์เอสเตท สร้างผลงานรายได้ปี 2565 จำนวน 12,530 ล้านบาท เป็นปีเก็บเกี่ยวความสำเร็จของบริษัทอย่างแท้จริง ผลประกอบการที่ดีในครั้งนี้มาจากการผลักดันรายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ ควบคู่บริหารต้นทุนอย่างเข้มข้น ทำให้มีกำไรสุทธิ 490 ล้านบาทในปี 2565 โดยบันทึกกำไร 3 ไตรมาสติดต่อกัน จึงถือได้ว่าปี 2565 นี้ เป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวความสำเร็จของสิงห์ เอสเตท
นางฐิติมากล่าวถึงทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2566 มีดังนี้
1.กลุ่มธุรกิจโรงแรม คาดว่าจะเติบโตโดดเด่นกว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ และความสำเร็จของการพัฒนาบริหารแบรนด์ SAii ที่ช่วยผลักดัน ADR สูงกว่ายุคก่อนโควิดถึง 17%
ผนวกกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวเร็ว การบริหารพอร์ตอย่างมีประสิทธิภาพของ SHR คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้ของพอร์ตโรงแรมเติบโตได้ถึง 20% ล่าสุดเตรียมเปิดบริการโรงแรม โซ/มัลดีฟส์ รีสอร์ตแห่งที่ 3 บนโครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ในช่วงไตรมาส 4/66 นี้
2.อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย ในปี 2565 มียอดขายรอรับรู้รายได้จากการโอนของโครงการสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส และโครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส จำนวน 4,000 ล้านบาท เจาะตลาด ultra luxury ที่มีกำลังซื้อแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้ารุก 5 โครงการบ้านแนวราบใหม่ รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท
3.อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า คาดว่าจะเติบโตจากยอดรายรับเต็มปีของอาคารสำนักงาน S-OASIS มีพื้นที่เช่า 54,000 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย
4.นิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน คาดการณ์รายได้จะเป็นไปตามแผนในปี 2566 เพราะได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศและความต้องการพื้นที่ของโรงงานผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตรแปรรูป หนุนด้วยการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า 2 แห่ง ในช่วงไตรมาส 4/66 ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันผลกำไรของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
1/3/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 1 มีนาคม 2566 )