ข่าวล่ามาเร็ว ที่ดินประมูลขายยกลอตรวม 410 ไร่ของ มหาวิทยาลัยเอเชียน เหมาะใช้ทำประโยชน์อะไร
ทางผู้รับผิดชอบงานประมูลขายบิ๊กลอต 410 ไร่ดังกล่าว ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการ บมจ.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA ให้รายละเอียดกับ ประชาชาติธุรกิจ ว่า จากการประเมินเบื้องต้นเป็นพื้นที่ผังเมืองสีส้ม จึงเหมาะสำหรับพัฒนาที่อยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ และอุทยานวิทยาศาสตร์ (ดูกราฟิกประกอบ)
ประเมินราคาที่ดิน+อาคาร
รายละเอียด ที่ดินแปลงนี้เดิมเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยเอเชียน โดย บริษัท อิมพีเรียล เทคโนโลยี แมเนจเม้นท์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ได้แต่งตั้งให้ QA-บริษัท ควอลิตี้ อ๊อกชั่น จำกัด เป็นผู้จัดประมูลที่ดิน ศักยภาพ เหมาะสำหรับทำโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ และเหมาะสำหรับซื้อลงทุน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในโซนระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก หรือ EEC ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ทาง QA ใช้วิธียื่นซองประมูลราคา ปัจจุบันอยู่ระหว่างส่งหนังสือเชิญผู้ซื้อรายใหญ่เข้าร่วมประมูล เพราะมีเงื่อนไขโฉนดมีหลายแปลงแต่การเคาะซื้อต้องเสนอราคาแบบซื้อทั้งลอตรวม 410-0-83.3 ไร่
ทั้งนี้ AREA ได้ประเมินราคาที่ดิน ณ วันที่ 26 มกราคม 2566 จำนวน 1,139,570,000 บาท เริ่มประมูลราคาแบบไม่มีราคาขั้นต่ำ กล่าวคือ ผู้สนใจประมูลเป็นผู้กำหนดราคาได้ว่าจะเสนอสูงต่ำเท่าไหร่, ประกาศให้ยื่นข้อเสนอประมูลและตัดสินวันพุธ 31 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.00-15.00 น. ที่สำนักงานบริษัท อิมพีเรียลฯ
ข้อมูลลงลึกด้วยว่า ในด้านราคาประเมินเบื้องต้นนั้น แบ่งเป็นราคาที่ดิน 783 ล้านบาท กับราคาอาคารมูลค่า 300 ล้านบาท
โดยมีเรื่องใหม่คือ ที่ดินรวม 410 ไร่ดังกล่าว ในอนาคตอยู่ในแนวเวนคืนของกรมทางหลวง เพื่อก่อสร้างถนนขนาดกว้าง 40 เมตร พาดผ่านตลอดแนวที่ดินของ ม.เอเชียน
ถนนใหม่ตัดผ่านรหัส ญ.14
โดย ดร.โสภณ ระบุว่า ศักยภาพที่ดินจะสูงขึ้นในอนาคต เพราะมีครบทั้งผังเมืองเป็นสีส้ม, อยู่ในโซน EEC, สามารถทำจัดสรรที่อยู่อาศัยได้, ทำพาณิชยกรรมก็ได้ ฯลฯ
แปลงที่ดินประมูล ตั้งอยู่ในพื้นที่ EEC ตามแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ตั้งอยู่ในเขตที่ดินประเภท ม. (สีส้ม) เป็นที่ดินประเภทชุมชนเมือง รองรับการขยายตัวของศูนย์กลางพาณิชยกรรมหลักและศูนย์กลางหลักระดับอำเภอ รองรับการพัฒนาที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม และบริการขั้นพื้นฐานของจังหวัด
ดังนั้น แปลงที่ดินนี้จึงมีศักยภาพสูงในพัฒนาเมืองใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง รวมถึงที่อยู่อาศัยและสาธารณูปการสำหรับคนทำงานในภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ชลบุรีและระยองที่จะเติบโตในอนาคต ศักยภาพของแปลงที่ดินสามารถพัฒนาได้แบบมิกซ์ยูส (mixed-use) ไม่ว่าจะเป็นบ้านแนวราบ คอนโดมิเนียม โรงแรม อพาร์ตเมนต์ ออฟฟิศ ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ ตลาดสด/ตลาดนัด สถานีบริการน้ำมัน สถานีขนส่งผู้โดยสาร โรงเรียน
แปลงที่ดินยังตั้งอยู่ใกล้แนวรถไฟสามสนามบิน เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง เชื่อมต่อ 3 สนามบินนานาชาติ ดอนเมืองสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา จึงเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นเมืองใหม่มากกว่าใช้ประโยชน์เพื่อการอุตสาหกรรม
ณ วันที่สำรวจและประเมินทรัพย์สิน (26 มกราคม 2566) ที่ดินตั้งอยู่ในแนวเวนคืนในโครงการแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2562
โดยทรัพย์สินกลุ่มที่ 1 โฉนดเลขที่ 78755, 236147 และ 236215 ตั้งอยู่ในแนวถนนโครงการคมนาคมและขนส่งสาย ญ.14 เนื้อที่รวม 18-3-83.2 ไร่ หรือ 7,583.2 ตารางวา ซึ่งได้ตัดเนื้อที่ออกจากการรวมแปลงใหญ่ที่จะเปิดประมูล 410 ไร่เรียบร้อยแล้ว
15/3/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 15 มีนาคม 2566 )
