ในขณะที่การลงทุนพัฒนาโครงการทำจริง ก่อสร้างเสร็จจริง แต่โอนไม่ได้จริง เพราะเจอปัญหายอดปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 50%
นำมาสู่การปรับตัวขนานใหญ่อีกระลอกของดีเวลอปเปอร์ที่มีสินค้าตลาดแมส ในกลุ่มราคาไม่เกิน 2-3 ล้านบาทติดอยู่ในมือ
โดย ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ตั้งแต่สถานการณ์โควิดลากยาว 4 ปีเต็ม นับรวมปีนี้ด้วย (2563-2566) ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง คนไทยจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาทางการเงินและภาระสินเชื่อที่อยู่อาศัย
มีข้อมูลด้วยว่า บางโครงการบางพื้นที่ ยอดกู้ไม่ผ่านเกิน 50% สำหรับการขอสินเชื่อซื้อที่อยู่อาศัยราคา 1-2 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเพราะเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้จากเงินเดือนประจำ มีภาระหนี้สินอื่น ๆ อยู่แล้ว อาทิ ผ่อนรถยนต์ ผ่อนหนี้บัตรเครดิต เป็นต้น
ทั้งนี้ เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ พัฒนาคอนโดมิเนียมเซ็กเมนต์ต่ำล้านผ่านแบรนด์ เสนาคิทท์ เป็นหลักฐานลูกค้าเป็นผู้มีรายได้จำกัด มีกำลังผ่อนเดือนละ 3-4 พันบาท แถมยังมีหนี้อยู่ก่อนแล้วเกือบทุกคน
เสนาฯ มองเห็นปัญหาลูกค้าในกลุ่มนี้ คืออยากได้บ้านแต่ไม่มีเงินเก็บออม ไม่มีการวางแผนการเงินมาก่อน หลายคนกู้ซื้อบ้านยาก บางคนเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ปัญหาคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ Gen Z ที่ลำบากในการสะสมความมั่งคั่ง เพราะการเจริญเติบโตของค่าเงินโตไม่เท่ากับค่าสินค้าที่จะซื้อ สารพัดปัญหาของคนต้องการซื้อที่อยู่อาศัย
ล่าสุด เสนาฯเปิดธุรกิจใหม่ในเครือ ภายใต้ชื่อ เงินสดใจดี เป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน นำเสนอทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มีแนวโน้มกู้สินเชื่อบ้านไม่ผ่าน สามารถมาใช้บริการทางเลือกได้ เงื่อนไขดังนี้
1.บริการสินเชื่อเช่าซื้อ สามารถเข้าอยู่ในบ้าน/คอนโดได้ทันที จากนั้นทยอยผ่อนชำระเงินกู้ซึ่งจะหักเงินต้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงจุดที่เงินต้นลดมาอยู่ในระดับที่ลูกค้าน่าจะสามารถกู้สินเชื่อบ้านได้ จะมีการส่งต่อลูกค้าให้กู้สินเชื่อบ้านจากธนาคาร ซึ่งเป็นการเข้าสู่ระบบผ่อนบ้านปกติ 2.สินเชื่อเพื่อชำระค่าทำสัญญา และ 3.สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย เป็นต้น
อัพเดตเรื่องนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อที่อยู่อาศัยจากแบงก์ชาติ และจัดเตรียมคอนโดแบรนด์เสนาคิทท์ 12 โครงการ ทำเลคุณภาพ ราคาเริ่มต้นต่ำล้าน-2 ล้านบาทไว้รองรับ
คาดว่าจะเปิดทำธุรกรรมเป็นทางการได้ภายในไตรมาส 3/66 นี้
7/5/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 7 พฤษภาคม 2566 )