ปิดตัวชั่วคราวไปตั้งแต่ต้นปี 2562 สำหรับโรงแรม ดุสิตธานี กรุงเทพ หลังจากเปิดให้บริการมา 49 ปี บนพื้นที่บริเวณหัวมุมถนนสีลมและถนนพระราม 4 (ตรงข้ามสวนลุมพินี) สัญลักษณ์ของความเป็นไทยใจกลางกรุงเทพฯ
ล่าสุดกลุ่ม ดุสิตธานี เตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการโรงแรม ดุสิตธานี กรุงเทพ โฉมใหม่ในช่วงกลางปี 2567 ส่วนหนึ่งของโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มิกซ์ยูสใจกลางกรุงเทพฯ
โรงแรม ดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่นี้ได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบใหม่ที่ให้ความร่วมสมัยมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์งานบริการอย่างไทยในแบบดุสิตธานี และสานต่อตำนานที่เคยเป็นตึกที่ใหญ่และสูงที่สุดของประเทศไทยเมื่อปี 2513
และเป็นโรงแรมที่ได้รับการขนานนามว่า มี ห้องบอลรูม อันหรูหราที่สุดของกรุงเทพฯอีกด้วย
เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงเรื่องราวอันมีคุณค่าของโรงแรมดุสิตธานีดั้งเดิม โรงแรม ดุสิตธานี กรุงเทพ โฉมใหม่จึงได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อยกระดับจุดยืนของกลุ่มดุสิตธานีบนเวทีโลก สร้างนิยามแห่งการพักผ่อนรูปแบบใหม่ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดรวม 49 ชั้น ตัวอาคารยังประดับด้วยยอดแหลมสีทองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพเดิม
ที่นี่จะเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักเดินทางที่มีความต้องการอันหลากหลาย เพราะนำเสนอทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาหารอร่อย การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเรื่องการจัดงานในรูปแบบต่าง ๆ
โดยเฉพาะใน ห้องบอลรูม โฉมใหม่ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของสวนลุมพินีได้แบบ 180 องศาสำหรับห้องพัก และห้องสวีตทั้ง 257 ห้องจะได้รับการออกแบบอย่างประณีตเช่นกัน และสามารถมองเห็นสีเขียวอันน่าสดชื่นจากสวนสาธารณะใจกลางกรุงเทพฯได้จากห้องด้วย
นอกจากนี้ ยังมีโครงการ ดุสิต เรสซิเดนซ์ ที่พักระดับลักเซอรี่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพัฒนา และซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ดุสิต เซ็นทรัล ปาร์ค ซึ่งเน้นถึงความสะดวกสบายสำหรับผู้พักอาศัย และพร้อมเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2569
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการของ ดุสิตธานี กรุงเทพ ในช่วงกลางปี 2567 และ ดุสิต เรสซิเดนซ์ ในต้นปี 2569 กลุ่มดุสิตธานีจึงประกาศแต่งตั้ง เอเดรียน รูดิน นั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ และโครงการที่พักอาศัยดุสิต เรสซิเดนซ์
โดย เอเดรียน รูดิน เป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ มีประสบการณ์ในการทำงานที่โรงแรมระดับลักเซอรี่มานานกว่า 30 ปี ก่อนที่จะมาร่วมงานกับกลุ่มดุสิตธานีได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพ และรองประธานฝ่ายปฏิบัติการ ประเทศจีน และทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของเครือเคมปินสกี้
นับว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดความสำเร็จของทั้ง 2 โครงการ
ขณะที่กลุ่มดุสิตธานีซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารโรงแรมดุสิตธานี ได้ลงนามต่อสัญญาเช่าที่ดินในบริเวณดังกล่าวกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อีกเป็นเวลา 30 ปี และยังได้สิทธิในการเช่าที่ดินต่อเนื่องอีก 30 ปี รวมเป็น 60 ปีไปแล้วเมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา
30/10/2566 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 30 ตุลาคม 2566 )