โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (Noble) ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2567 แตะ 14,000 ล้านบาท เป้ายอดขาย 18,000 ล้านบาท หลัง Backlog ในมือท่วม 19,700 ล้านบาท จ่อเปิด 7 โครงการใหม่ 14,310 ล้านบาท เดินเกมรุกตลาดต่างประเทศ-ซื้อที่ดินย่านพระราม 9 ประชาชื่น บางนา-ตราด แตก BU บริษัท เซิร์ฟ โซลูชัน ต่อยอดธุรกิจครบวงจร จ่อปันผลระหว่างกาล 0.20 บาทต่อหุ้น เตรียม XD 29 มกราคม 2567 นี้
วันที่ 18 มกราคม 2567 นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2566 มียอดขาย (Pre-sale) 14,900 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Inventory) 6,600 ล้านบาท สินค้าเปิดตัวใหม่ และโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง 8,300 ล้านบาท
โดยเปิดตัว 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 18,900 ล้านบาท สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง จุดเด่นสินค้ามีคุณภาพ อยู่ในทำเลศักยภาพสูง ถึงแม้สภาพเศรษฐกิจอยู่ในช่วงที่ไม่เอื้ออำนวย รวมถึงดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น แต่บริษัทยังคงสร้างยอดขายได้ในระดับที่น่าพอใจ
นอกจากนี้ มียอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นปี 2566 รวม 19,700 ล้านบาท ทยอยรับรู้ภายใน 3 ปี (2567-2569) โดย Segment ที่ยังคงสร้างยอดขายที่ดี เป็นโครงการที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบระดับ Luxury และคอนโดมิเนียมในเมือง
นายธงชัยกล่าวว่า ด้านยอดขายลูกค้าต่างชาติ มีจำนวน 5,700 ล้านบาท เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) โครงการที่ได้การตอบรับที่ดีมากคอนโดฯ Luxury บนทำเลถนนทองหล่อ ถนนสุขุมวิท และถนนวิทยุ เช่น โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ, โนเบิล สเตท 39 และ ดิ เอ็มบาสซี ไวร์เลส โครงการร่วมทุนบริษัท กับกลุ่มฮ่องกง แลนด์ มียอดขายต่างชาติแล้ว 2,200 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทมีการขยายลูกค้าต่างชาติไปในตลาดใหม่ ๆ เช่น เมียนมา ไต้หวัน สิงคโปร์ และฮ่องกง เป็นต้น แนวโน้มในปี 2567 ประเมินว่ากลุ่มลูกค้าจีนจะกลับมามากขึ้นหลังเศรษฐกิจของจีนกลับมาดีขึ้น จะเป็นปัจจัยหนุนให้ยอดขายจากลูกค้าต่างชาติของบริษัทกลับมามากยิ่งขึ้น
ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 มีมติอนุมัติปันผลระหว่างกาลของผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนของไตรมาส 3/66 จำนวน 0.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล (Dividend Payout Ratio) ที่ 51.2% กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 29 มกราคม 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 นี้
ที่ดินทำเลบางนา-ตราด ร่วมทุนกับกลุ่ม BTS และสหพัฒน์ พัฒนาบ้านเดี่ยว
แนวโน้มภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 บริษัทเชื่อว่าน่าจะเป็นปีที่ดีขึ้น ด้วยสภาพเศรษฐกิจ ที่ฟื้นตัวกลับมา ประกอบกับการมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ดอกเบี้ยที่อยู่ในภาวะทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง ทำให้นักลงทุนกล้าจับจ่ายใช้สอยและกล้าลงทุนมากขึ้น
สถานะปัจจุบัน ตลาดที่หายไปเป็นกลุ่มของนักลงทุน ขณะที่กลุ่ม Real Demand ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ปี 2567 ตั้งเป้ารายได้รวม 14,000 ล้านบาท เป้ายอดขาย (Pre-sale) 18,000 ล้านบาท แผนเปิดตัว 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 14,310 ล้านบาท
แบ่งเป็นบ้านแนวราบ กับคอนโดมิเนียม Low Rise 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,710 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมแนวสูง 2 โครงการ มูลค่า 7,600 ล้านบาท กระจายทำเลทั่วกรุงเทพฯ ล่าสุด มี Inventory มูลค่า 34,400 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพจึ งเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องด้วย
รวมถึงปีนี้มีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการนิว โนเบิล รัชดา-ลาดพร้าว 2.โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ 3.นิว คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง และ 4.นิว คอร์ คูคต สเตชัน ทั้ง 4 โครงการมียอดขายรวมเฉลี่ย 70%
นายธงชัยกล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าต่อยอดธุรกิจให้มีความครบวงจรมากขึ้น โดยเพิ่มไลน์ธุรกิจภายใต้บริษัท เซิร์ฟ โซลูชั่น จำกัด ธุรกิจบริหารนิติบุคคล ธุรกิจบริการฝากขาย-ปล่อยเช่า ธุรกิจการบริการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจต่อเนื่องสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เช่น ธุรกิจให้บริการสายไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic Cable) ในโครงการที่อยู่อาศัย ธุรกิจบริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) ธุรกิจบริการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) เป็นต้น
อีกทั้ง มองหาธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะทำร่วมกับพันธมิตรซึ่งมีความเชี่ยวชาญโดยตรง เช่น ธุรกิจบริการพื้นที่ เก็บของ (Self-Storage) แผนการสยายปีกดังกล่าวเป็นการต่อยอดการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้มีความครบวงจรควบคู่กับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทในอนาคต
18/1/2567 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ( 18 มกราคม 2567 )